รายงานของกระทรวงระบุว่า ในเดือนส.ค.ที่ผ่านมา สกุลเงินเยนอ่อนค่าลง 25.4% เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ มาอยู่ที่ระดับเฉลี่ย 98.44 เยน
ทั้งนี้ โดยปกติแล้ว การอ่อนค่าของเงินเยนจะช่วยหนุนการส่งออก เพราะจะทำให้สินค้าญี่ปุ่นมีราคาถูกลงในตลาดต่างประเทศ และหนุนรายได้ในต่างประเทศในรูปสกุลเงินเยน แต่การอ่อนค่าของเงินเยนจะทำให้ราคานำเข้าปรับตัวสูงขึ้น ขณะที่ญี่ปุ่นต้องพึ่งพาการนำเข้าพลังงานกว่า 90% ของปริมาณความต้องการพลังงานโดยรวม
ยอดการส่งออกสินค้าจากญี่ปุ่นไปยังประเทศจีน ซึ่งเป็นประเทศคู่ค้ารายใหญ่สุดของญี่ปุ่น ขยายตัว 15.8% แตะที่ 1.119 ล้านล้านเยนในเดือนส.ค. ขณะที่ยอดนำเข้าสินค้าจากจีนเพิ่มขึ้น 17.6% แตะที่ 1.4231 ล้านล้านเยน
ยอดการส่งออกไปยังสหภาพยุโรป (อียู) เพิ่มขึ้น 18% แตะที่ 5.645 แสนล้านเยน ขณะที่ยอดนำจากอียูเพิ่มขึ้น 11.2% แตะที่ 6.383 แสนล้านเยน ส่วนการส่งออกไปยังสหรัฐ พุ่งขึ้น 20.6% แตะที่ 1.0695 ล้านล้านเยน และยอดนำเข้าสินค้าจากสหรัฐเพิ่มขึ้น 14% แตะที่ 5.742 แสนล้านเยน สำนักข่าวเกียวโดรายงาน