สำนักงานการจัดการและงบประมาณ (OMB) ระบุในรายงานว่า วิกฤติชัตดาวน์เมื่อเดือนก่อนหน้าได้ก่อให้เกิดความเสียหายอย่างไม่จำเป็นต่อเศรษฐกิจสหรัฐ และสร้างความเดือดร้อนให้กับภาคครัวเรือนและธุรกิจของประเทศ
ในแต่ละวัน ประชาชนราว 850,000 รายได้ถูกสั่งพักงาน โดยตัวเลขดังกล่าวได้ปรับตัวลดลงเล็กน้อย หลังจากทางกระทรวงกลาโหมได้เรียกเจ้าหน้าที่ส่วนใหญ่กลับมาทำงานระหว่างช่วงชัตดาวน์
ทั้งนี้ รายงานดังกล่าวระบุว่า วิกฤติชัตดาวน์และปัญหาเพดานหนี้ได้ส่งผลกระทบต่องานในภาคเอกชนถึง 120,000 อัตราในช่วง 2 สัปดาห์แรกของเดือนต.ค. นอกจากนี้ ผลสำรวจจากหลายๆสถาบันยังชี้ว่า ความเชื่อมั่นผู้บริโภคและภาคธุรกิจยังทรุดตัวลงอย่างหนักอีกด้วย สำนักข่าวซินหัวรายงาน