อีซีบีระบุว่า ธนาคารพาณิชย์รายใหญ่ 25 แห่งที่ไม่ผ่านการทดสอบภาวะวิกฤตนี้ มีฐานเงินทุนต่ำกว่าข้อกำหนดของอีซีบีที่ระดับ 2.5 หมื่นล้านยูโร โดยอีซีบีได้ทำการทดสอบภาวะวิกฤตของธนาคารพาณิชย์รายใหญ่ทั้งสิ้น 130 แห่ง รวมทั้งทดสอบความยืดหยุ่นในระยะยาวและสถานะเงินทุน ณ สิ้นสุดวันที่ 31 ธ.ค. 2556
นายวิเตอร์ คอนสแตนซิโอ รองประธานอีซีบีกล่าวว่า "การทบทวนสถานะการเงินในระดับลึกของธนาคารพาณิชย์รายใหญ่เหล่านี้ จะช่วยเพิ่มความเชื่อมั่นในภาคการธนาคาร โดยจะสามารถระบุปัญหาและความเสี่ยงต่างๆ ซึ่งจะช่วยให้ธนาคารสามารถปรับงบดุลให้มีความสมดุล และจะช่วยให้ธนาคารมีความยืดหยุ่นและแข็งแกร่งมากขึ้น ซึ่งทั้งหมดนี้จะทำให้การกู้ยืมในยูโรโซนดำเนินไปอย่างราบรื่น และจะหนุนเศรษฐกิจให้ขยายตัวขึ้นต่อไป"
นายคอนสแตนซิโอได้กล่าวในระหว่างแถลงข่าวต่อสื่อมวลชนว่า ในบรรดาธนาคาร 25 แห่งที่ไม่ผ่านการทดสอบภาวะวิกฤตในครั้งนี้ มีธนาคาร 12 แห่งที่ได้ทำการชดเชยภาวะฐานเงินทุนต่ำกว่าข้อกำหนด ด้วยการเพิ่มเงินทุนอีก 1.5 หมื่นล้านยูโรในปี 2557 และมีธนาคาร 13 แห่งที่วางแผนที่จะแก้ไขภาวะฐานเงินทุนต่ำกว่าข้อกำหนด
แถลงการณ์ของอีซีบีระบุว่า ธนาคารพาณิชย์ที่มีฐานเงินทุนต่ำกว่าข้อกำหนดของอีซีบีนั้น จะต้องเตรียมแผนเงินทุนภายใน 2 สัปดาห์นับตั้งแต่ที่มีการประกาศผลการทดสอบ และธนาคารมีเวลา 9 เดือนในการชดเชยภาวะฐานเงินทุนที่ต่ำกว่าข้อกำหนด สำนักข่าวซินหัวรายงาน