การประชุมครั้งนี้มีขึ้นเพื่อพัฒนางานวิจัยด้านบิ๊กดาต้าเชิงอุตสาหกรรม การซื้อขายบิ๊กดาตา และความปลอดภัยให้ดียิ่งขึ้น โดยนายเฉิน อิง รองอธิบดีกรมการพัฒนาสารสนเทศและบริการซอฟท์แวร์ ของ MIIT กล่าวว่า ทรัพยากรข้อมูลกลายเป็นสินทรัพย์เชิงกลยุทธและเป็นสมบัติของสังคมอย่างถาวร ความสามารถด้านสารสนเทศของจีนถือเป็นปัจจัยที่บ่งชี้การสร้างข้อได้เปรียบทางการแข่งขัน ในขณะที่อำนาจอธิปไตยเกี่ยวกับข้อมูลในโลกไซเบอร์ได้กลายมาเป็นจุดสนใจจุดใหม่ในแง่ของการแข่งขันระดับโลก นายเฉินยังกล่าวด้วยว่า แผนระยะ 5 ปีฉบับที่ 13 สำหรับอุตสาหกรรมบิ๊กดาต้านั้น จะมีบทบาทสำคัญในการเดินหน้ากลยุทธ์ " Made in China 2025" และ "Internet Plus" เพื่อส่งเสริมการเริ่มต้นธุรกิจและการนวัตกรรม และเพื่อสนับสนุนการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคม
ปัจจุบันมณฆลจีนหลายแห่ง อาทิ กุยโจว ชิงไห่ และฉ่งชิ่ง ได้เปิดเผยแผนพัฒนาอุตสาหกรรมบิ๊กดาต้าของแต่ละมณฑลเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
ทั้งนี้ สถาบันด้านการวิจัยระบุว่า ตลาดบิ๊กดาต้าของจีนมีมูลค่า 7.67 หมื่นล้านหยวนในปีที่แล้ว และคาดว่าจะพุ่งแตะ 8 แสนล้านหยวนภายในปี 2563 โดยคาดว่า ผู้ให้บริการโครงสร้างพื้นฐานด้านไอทีและโซลูชั่นแอพพลิเคชั่น ตลอดจนบริษัทรวบรวมข้อมูลบิ๊กดาต้า และเจ้าของทรัพยากรข้อมูลจะมีช่องทางในการต่อยอดธุรกิจ โดยบริษัทที่จดทะเบียนในหุ้น A-share จะได้รับอานิสงส์จากการกำหนดแผนระยะ 5 ปีฉบับที่ 13 เพื่อบิ๊กดาต้า อาทิ บริษั ท Business-Intelligence Of Oriental Nations Corporation Ltd, Shenzhen Infogem Technologies Co., Ltd., Beijing Trust & Far Technology Co., Ltd. และ Shanghai DragonNet Technology Co., Ltd. สำนักข่าวซินหัวรายงาน