ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (6 ส.ค.) เนื่องจากนักลงทุนยังคงมีมุมมองเป็นบวกต่อผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียน นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับปัจจัยหนุนจากการดีดตัวขึ้นของหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีและกลุ่มสินค้าผู้บริโภค อย่างไรก็ตาม ความวิตกกังวลเกี่ยวกับสงครามการค้าระหว่างสหรัฐและจีน และความตึงเครียดทางการเมืองระหว่างสหรัฐและอิหร่าน ได้สกัดแรงบวกของตลาดในระหว่างวัน
-- ทำเนียบขาวประกาศว่า สหรัฐจะรื้อฟื้นมาตรการคว่ำบาตรต่อภาคการเงินและอุตสาหกรรมของอิหร่าน โดยจะเริ่มมีผลบังคับใช้วันนี้
การที่รัฐบาลสหรัฐประกาศมาตรการคว่ำบาตรอิหร่านรอบใหม่ในวันนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อสกัดกั้นรัฐบาลอิหร่านในการเข้าซื้อสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ, การทำธุรกรรมในสกุลริอัลในบัญชีธนาคารระหว่างประเทศ หรือในการออกพันธบัตร, การทำธุรกรรมซื้อขายทองคำ และสินค้าโภคภัณฑ์อื่นๆ รวมถึงถ่านหิน อลูมินัม และเหล็กสำหรับการผลิตในภาคอุตสาหกรรม และการผลิตรถยนต์ ซึ่งมาตรการคว่ำบาตรดังกล่าวได้ถูกยกเลิกไปก่อนหน้านี้ หลังจากที่อิหร่านบรรลุข้อตกลงนิวเคลียร์กับมหาอำนาจทั้ง 6 ชาติในปี 2558 เพื่อแลกเปลี่ยนกับการยกเลิกโครงการนิวเคลียร์
ทั้งนี้ มาตรการที่สหรัฐใช้คว่ำบาตรอิหร่านในวันนี้ ถือเป็นมาตรการรอบแรก ก่อนที่สหรัฐจะออกมาตรการคว่ำบาตรรอบ 2 ในเดือนพ.ย. ซึ่งจะพุ่งเป้าไปยังการทำธุรกรรมของธนาคารกลาง การส่งออกน้ำมัน และการขนส่งสินค้าทางเรือของอิหร่าน
-- นายไมค์ ปอมเปโอ รมว.ต่างประเทศสหรัฐ กล่าวว่า มาตรการคว่ำบาตรอิหร่านครั้งใหม่จะต้องดำเนินต่อไป จนกว่ารัฐบาลอิหร่านมีการเปลี่ยนแปลงในทางที่ดีขึ้น โดยระบุว่า มาตรการคว่ำบาตรถือเป็นเสาหลักสำคัญสำหรับนโยบายของสหรัฐที่ใช้กับอิหร่าน ขณะที่สหรัฐพร้อมที่จะยกเลิกมาตรการคว่ำบาตร แต่ก็ขึ้นอยู่กับการเปลี่ยนแปลงขนานใหญ่ในอิหร่าน
"พวกเขาต้องทำตัวเหมือนประเทศปกติทั่วๆไป มันเป็นเรื่องง่ายมาก" นายปอมเปโอกล่าว
-- นายฮัสซัน รูฮานี ประธานาธิบดีอิหร่าน กล่าวว่า อิหร่านจะทำให้สหรัฐเสียใจที่ได้ประกาศมาตรการคว่ำบาตรอิหร่าน
"อเมริกาจะต้องเสียใจที่ได้ทำการคว่ำบาตรต่ออิหร่าน ขณะที่พวกเขาถูกโดดเดี่ยวในโลก และพวกเขากำลังทำการคว่ำบาตรต่อลูกหลานของชาวอิหร่าน คนป่วย และชาติอิหร่าน" นายรูฮานีกล่าวผ่านทางสถานีโทรทัศน์ที่มีการถ่ายทอดสดแก่ชาวอิหร่านทั่วประเทศ หลังสหรัฐประกาศคว่ำบาตรอิหร่านในวันนี้
นอกจากนี้ยังระบุด้วยว่า "ด้วยการเป็นเอกภาพ และเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน ชาวอิหร่านจะสามารถฝ่าฟันมาตรการคว่ำบาตรในครั้งนี้ ซึ่งทรัมป์จะเรียนรู้ว่าการกดดันแบบนี้ไม่ได้ทำให้ชาวอิหร่านยอมจำนนในช่วงที่ผ่านมา และจะไม่มีทางยอมจำนนในอนาคต" ด้วย
-- สื่อรายงานอ้างเจ้าหน้าที่เกาหลีเหนือรายหนึ่งระบุว่า เกาหลีเหนือเชื่อว่ามีความเป็นไปได้สูงมากที่จะมีการจัดการประชุมสุดยอดครั้งที่ 2 ระหว่างนายคิม จอง อึน ผู้นำเกาหลีเหนือ และประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐ เนื่องจากการแลกเปลี่ยนจดหมายครั้งล่าสุดระหว่างนายคิมและปธน.ทรัมป์ ถือเป็นสัญญาณที่ดี นอกจากนี้ยังระบุว่า ถึงแม้ขณะนี้ยังไม่มีการกำหนดวันเวลา และสถานที่จัดการประชุมครั้งใหม่ แต่สิ่งนี้จะเกิดขึ้นภายในปีนี้
ทั้งนี้ ข่าวดังกล่าวมีขึ้นท่ามกลางความสงสัยของนานาชาติเกี่ยวกับความมุ่งมั่นของเกาหลีเหนือในการปลดอาวุธนิวเคลียร์ตามที่ได้สัญญาไว้ในการประชุมสุดยอดกับปธน.ทรัมป์ที่สิงคโปร์ในเดือนมิ.ย.
-- ประธานาธิบดีโรดริโก ดูเตอร์เต ทำพิธีลงนามในกฎหมาย Bangsamoro Organic Law (BOL) ที่ทำเนียบประธานาธิบดี ท่ามกลางความหวังว่ากฎหมายดังกล่าวจะยุติความขัดแย้งกับชาวมุสลิมบนเกาะมินดาเนา ทางตอนใต้ของประเทศ หลังเกิดเหตุปะทะกันระหว่างกลุ่มติดอาวุธชาวมุสลิมในดินแดนดังกล่าวกับกองกำลังของรัฐบาลในช่วงเวลาหลายสิบปีที่ผ่านมา
กฎหมาย BOL ถือเป็นผลลัพธ์จากการเจรจาเป็นเวลาหลายสิบปีระหว่างกลุ่มแนวร่วมปลดปล่อยอิสลามโมโร (MLIF) และรัฐบาลฟิลิปปินส์ โดยภายใต้กฎหมาย BOL จะมีการจัดตั้งเขตปกครองตนเองบังซาโมโรในมินดาเนามุสลิม (BARMM) ซึ่งจะมีการจัดตั้งรัฐบาลที่ผ่านการเลือกตั้ง และมีการออกกฎหมายของตนเอง
ขณะเดียวกันรัฐบาลของ BARMM จะมีมุขมนตรีเป็นหัวหน้ารัฐบาล และมีรัฐสภาที่ประกอบด้วยสมาชิกจำนวน 80 คน นอกจากนี้ BARMM จะได้รับเงินภาษีในสัดส่วน 75% ของภาษีที่มีการจัดเก็บในดินแดนดังกล่าว ส่วนในประเด็นความมั่นคงนั้น รัฐบาลกลางของฟิลิปปินส์จะรับผิดชอบด้านความมั่นคงและปลอดภัยใน BARMM โดยตำรวจจากสำนักงานตำรวจฟิลิปปินส์จะมีการจัดตั้งสำนักงานภูมิภาคใน BARMM เพื่อบังคับใช้กฎหมายในพื้นที่ดังกล่าว
-- แหล่งข่าวระบุว่า รัฐบาลญี่ปุ่นและพรรคร่วมรัฐบาลกำลังหารือกันเกี่ยวกับการใช้ระบบเวลา daylight saving time ในช่วงการเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันกีฬาโอลิมปิก และพาราลิมปิกในปี 2020 เพื่อแก้ปัญหาสภาพอากาศร้อนจัดที่อาจกระทบต่อนักกีฬา เหมือนกับที่ญี่ปุ่นกำลังเผชิญในระยะนี้
ตามแผนดังกล่าว รัฐบาลญี่ปุ่นจะกำหนดเวลามาตรฐานญี่ปุ่น (Japan Standard Time) ให้เร็วขึ้น 2 ชั่วโมงในช่วงการแข่งขัน ระหว่างวันที่ 24 ก.ค.-9 ส.ค. ส่วนพาราลิมปิกจะมีขึ้นในวันที่ 25 ส.ค.-6 ก.ย.
การปรับเวลาดังกล่าวจะช่วยให้การแข่งขันวิ่งมาราธอนเริ่มเร็วขึ้น 2 ชั่วโมงเป็นเวลา 05.00 น.หากเทียบตามระบบเวลาเดิม เพื่อช่วยให้นักกีฬาหลีกเลี่ยงสภาพอากาศร้อนที่อาจเกิดขึ้น ขณะที่กฎข้อบังคับของคณะกรรมการโอลิมปิกสากล (IOC) กำหนดให้การแข่งขันวิ่งมาราธอนเริ่มขึ้นในเวลา 07.00 น.ตามเวลาท้องถิ่น อย่างไรก็ดี หลายฝ่ายออกมาคัดค้านข้อเสนอการปรับเวลาดังกล่าว เนื่องจากมองว่าจะส่งผลกระทบต่อภาคธุรกิจและสังคมในวงกว้าง รวมทั้งสร้างความยากลำบากต่อการปรับตัวของภาคส่วนต่างๆ และการปรับเวลาในระบบคอมพิวเตอร์ภายในเวลาไม่ถึง 2 ปี
ทั้งนี้ ญี่ปุ่นกำลังเผชิญคลื่นความร้อนในระยะนี้ โดยสภาพอากาศร้อนที่เป็นประวัติการณ์ ได้ทำให้มีผู้เสียชีวิตรวม 125 รายในระหว่างวันที่ 30 เม.ย.-29 ก.ค. ขณะที่ 57,534 รายต้องถูกนำตัวส่งโรงพยาบาล
-- แหล่งข่าวเปิดเผยว่า กลุ่มบริษัทซอฟต์แบงก์ของญี่ปุ่น กำลังพิจารณาเสนอขายหุ้น IPO ของธุรกิจไร้สายภายในประเทศที่มีมูลค่า 9 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยบริษัทซอฟต์แบงก์กำลังหารือกับที่ปรึกษาเกี่ยวกับการขายธุรกิจราวหนึ่งในสาม (ราว 3 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ) ใน IPO
อย่างไรก็ดี บริษัทยังอยู่ระหว่างการหารือ และการประเมินขั้นสุดท้ายจะต้องขึ้นอยู่กับความคิดเห็นของนักลงทุน โดยการเสนอขายหุ้น IPO มูลค่า 3 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐจะทำให้ซอฟต์แบงก์ โมบาย กลายเป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ที่ใหญ่ที่สุด แซงหน้าอาลีบาบา กรุ๊ป โฮลดิ้ง ซึ่งมีมูลค่า 2.5 หมื่นล้านดอลลาร์ที่เข้าสู่ตลาดหลักทรัพย์เมื่อปี 2557 ที่ผ่านมา
-- นายเจมี ไดมอน ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของเจพี มอร์แกน เชส กล่าวว่า นักลงทุนควรเตรียมพร้อมรับมือกรณีอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปีพุ่งแตะระดับ 5% โดยอัตราผลตอบแทนดังกล่าวอาจทะยานขึ้นมากกว่าระดับ 4% ที่เขาเคยคาดการณ์ไว้
โดยอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปียังคงอยู่ต่ำกว่าระดับ 3% เมื่อวานนี้ หลังจากที่พุ่งขึ้นเหนือระดับดังกล่าวในสัปดาห์ที่แล้ว
ทั้งนี้ อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปีนับเป็นอัตราดอกเบี้ยอ้างอิงสำหรับอัตราเงินกู้จำนอง และอัตราดอกเบี้ยตราสารหนี้ รวมทั้งเครื่องมือทางการเงินในระบบ ดังนั้น หากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐดีดตัวขึ้น ก็จะส่งผลให้ผู้บริโภคมีแนวโน้มที่จะลดการกู้ยืม ซึ่งจะเป็นปัจจัยกระทบต่อการขยายตัวทางเศรษฐกิจ
-- นักลงทุนจับตาข้อมูลเศรษฐกิจของประเทศต่างๆในวันนี้ โดยญี่ปุ่นจะเปิดเผยการใช้จ่ายภาคครัวเรือนเดือนมิ.ย. และทุนสำรองเงินตราต่างประเทศเดือนก.ค. ขณะที่ธนาคารกลางออสเตรเลียจะประชุมนโยบายการเงินและแถลงมติอัตราดอกเบี้ย เยอรมนีจะเปิดเผยดุลการค้าเดือนมิ.ย.และการผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือนมิ.ย. และอังกฤษจะเปิดเผยดัชนีราคาบ้านเดือนก.ค.
ส่วนในวันพรุ่งนี้ ญี่ปุ่นจะเปิดเผยดุลบัญชีเดินสะพัดเดือนมิ.ย. ส่วนออสเตรเลียเตรียมเปิดเผย ดัชนีความเชื่อมั่นภาคธุรกิจเดือนก.ค.จากเนชั่นแนล ออสเตรเลีย แบงก์ (NAB) ด้านจีนเปิดเผยยอดนำเข้า ยอดส่งออก และดุลการค้าเดือนก.ค. ขณะที่สหรัฐจะเปิดเผยสต็อกน้ำมันรายสัปดาห์จากสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐ (EIA)