ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์แห่งสหรัฐ กล่าวแสดงความเห็นว่า ข้อตกลงว่าด้วยการที่อังกฤษแยกตัวออกจากสหภาพยุโรป (Brexit) อาจเป็นผลดีต่อสหภาพยุโรป (EU) อย่างไรก็ตาม ปธน.ทรัมป์กล่าวว่า เขาไม่ชอบข้อตกลงดังกล่าว เพราะเป็นอุปสรรคขัดขวางการค้าระหว่างสหรัฐและอังกฤษ
ปธน.ทรัมป์ กล่าวต่อผู้สื่อข่าวที่ทำเนียบขาวเมื่อวานนี้ว่า "ข้อตกลง Brexit ซึ่งลงรายละเอียดถึงวิธีที่อังกฤษแยกตัวออกจาก EU นั้น ดูเหมือนจะเป็นข้อตกลงที่ดีสำหรับ EU"
ปธน.ทรัมป์ยังกล่าวด้วยว่า "ผมคิดว่าเราต้องมาดูกันอย่างจริงจังว่าอังกฤษจะได้รับอนุญาตให้ทำการค้าได้หรือไม่ หากคุณลองดูข้อตกลงตอนนี้ อังกฤษไม่น่าจะสามารถทำการค้ากับเราได้ และนั่นอาจจะไม่ใช่เรื่องที่ดีสำหรับสหรัฐ"
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ที่ประชุม 27 ชาติสมาชิก EU ได้อนุมัติปฏิญญาว่าด้วยความสัมพันธ์ในอนาคตระหว่างสหราชอาณาจักรและ EU หลังจากที่สหราชอาณาจักรแยกตัวจาก EU อย่างเป็นทางการในวันที่ 29 มี.ค.ปีหน้า
นางเทเรซา เมย์ นายกรัฐมนตรีอังกฤษ เรียกประชุมคณะรัฐมนตรีฉุกเฉินเมื่อวานนี้ เพื่อบรรยายสรุปเกี่ยวกับแนวทางที่จะโน้มน้าวให้ฝ่ายคัดค้านร่างข้อตกลง Brexit ให้กลับมาออกเสียงสนับสนุน
ทั้งนี้ รัฐสภาอังกฤษเตรียมจัดการประชุมเพื่อลงมติต่อร่างข้อตกลง Brexit ซึ่งคาดว่าการประชุมดังกล่าวจะมีขึ้นในวันที่ 11 ธ.ค.นี้
หากร่างข้อตกลงดังกล่าวไม่ได้รับเสียงสนับสนุนจากรัฐสภา ผลลัพธ์ที่จะเกิดขึ้นตามมาคือ นางเมย์อาจพ้นจากตำแหน่งนายกฯ และอาจทำให้อังกฤษแยกตัวออกจากสหภาพยุโรป (EU) โดยไร้ซึ่งข้อตกลง ซึ่งจะทำให้อังกฤษอยู่ภายใต้กฎข้อบังคับขององค์การการค้าโลก (WTO) ส่งผลให้มีการปรับเพิ่มภาษีนำเข้า จากเดิมที่อังกฤษเป็นสมาชิกตลาดเดี่ยวของ EU ซึ่งทำให้ไม่ต้องเสียภาษีในการส่งออกและนำเข้าสินค้าภายใน EU
นอกจากนี้ การที่รัฐสภาไม่อนุมัติร่างข้อตกลง Brexit จะทำให้เกิดความปั่นป่วนต่อภาคธุรกิจ ขณะที่รัฐบาลจะขอการอนุมัติจาก EU เพื่อขยายเส้นตายการแยกตัวของอังกฤษจากเดิมในวันที่ 29 มี.ค.ปีหน้า เพื่อให้รัฐบาลมีเวลาในการเจรจากับฝ่ายที่คัดค้าน จนกว่าสภาสามัญชนจะให้การอนุมัติร่างข้อตกลง Brexit