World Today: สรุปประเด็นน่าติดตามประจำวันที่ 20 ธันวาคม 2561

ข่าวเศรษฐกิจ Thursday December 20, 2018 09:35 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

คณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงิน (FOMC) ของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) มีมติเป็นเอกฉันท์ในการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยระยะสั้น 0.25% สู่ระดับ 2.25-2.50% ในการประชุมเมื่อวานนี้ นอกจากนี้ เฟดยังได้ปรับลดคาดการณ์การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปีหน้าเหลือเพียง 2 ครั้ง จากเดิมที่คาดว่าจะมีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 3 ครั้ง

เฟดได้ปรับลดตัวเลขคาดการณ์การขยายตัวทางเศรษฐกิจของสหรัฐในปีนี้ สู่ระดับ 3.0% จากเดิมที่ 3.1% และปรับลดตัวเลขคาดการณ์ในปีหน้าสู่ระดับ 2.3% จากเดิมที่ 2.5% ส่วนการขยายตัวในปี 2563 ยังคงอยู่ที่ระดับ 2% ขณะที่คงตัวเลขคาดการณ์อัตราการขยายตัวในปี 2564 ที่ระดับ 1.8% และปรับเพิ่มอัตราการขยายตัวในระยะยาว สู่ระดับ 1.9%

ขณะเดียวกัน เฟดได้คงตัวเลขอัตราการว่างงานในปีนี้ที่ระดับ 3.7% และคงตัวเลขอัตราว่างงานในปี 2562 ที่ระดับ 3.5% ส่วนตัวเลขในปี 2563 และ 2564 ได้ปรับเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 3.6% และ 3.8% ตามลำดับ ขณะที่ปรับลดตัวเลขว่างงานในระยะยาวสู่ระดับ 4.4%

นอกจากนี้ เฟดได้ปรับลดตัวเลขคาดการณ์เงินเฟ้อในปีนี้ และปีหน้าสู่ระดับ 1.9% ขณะที่คงตัวเลขเงินเฟ้อในปี 2563 และ 2564 ที่ระดับ 2.1% และคงตัวเลขคาดการณ์เงินเฟ้อระยะยาวที่ระดับ 2.0%

-- ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดร่วงลงกว่า 300 จุดเมื่อคืนนี้ (19 ธ.ค.) หลังจากธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ประกาศขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25% ในการประชุมเมื่อวานนี้ ขณะเดียวกันเฟดได้ปรับลดคาดการณ์การขยายตัวของเศรษฐกิจสหรัฐทั้งในปีนี้และปีหน้า ซึ่งความเคลื่อนไหวดังกล่าวส่งผลให้นักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มเศษฐกิจและผลกระทบที่จะเกิดขึ้นจากการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 23,323.66 จุด ร่วงลง 351.98 จุด หรือ -1.49% ขณะที่ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,506.96 จุด ลดลง 39.20 จุด หรือ -1.54% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 6,636.83 จุด ลดลง 147.08 จุด หรือ -2.17%

-- นายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) กล่าวว่า การที่เฟดปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยระยะสั้น 0.25% สู่ระดับ 2.25-2.50% ในการประชุมครั้งนี้ จะทำให้อัตราดอกเบี้ยของเฟดเข้าใกล้ระดับที่เป็นกลาง ซึ่งเป็นระดับที่ไม่ได้กระตุ้น หรือชะลอการขยายตัวของเศรษฐกิจ

ส่วนกรณีที่เฟดได้ปรับลดตัวเลขคาดการณ์การขยายตัวทางเศรษฐกิจของสหรัฐในปีนี้และปีหน้า พร้อมกับลดคาดการณ์การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปีหน้านั้น นายเจอโรมกล่าวว่า "แม้เศรษฐกิจยังคงมีแนวโน้มที่สดใสและเราก็คาดว่าเศรษฐกิจจะยังคงมีการขยายตัวได้ดี แต่เราก็มองเห็นสัญญาณที่บ่งชี้ถึงความอ่อนแอในระดับหนึ่ง เมื่อเทียบกับที่เราได้คาดการณ์ไว้ในช่วง 2-3 เดือนก่อนหน้านี้"

"มีความเป็นไปได้ว่า เศรษฐกิจจะขยายตัวในระดับที่สามารถรับมือกับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 2 ครั้งในปีหน้า" นายพาวเวลกล่าว พร้อมระบุว่า อัตราเงินเฟ้อที่อยู่ในระดับต่ำนั้น ทำให้เฟดสามารถ "อดทน" ต่อการเร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยได้

-- ธนาคารกลางจีน (PBOC) ได้ประกาศเปิดตัวเครื่องมือทางการเงินประเภทใหม่ เพื่อกระตุ้นการปล่อยกู้ให้กับแก่ธุรกิจขนาดเล็กและบริษัทเอกชน

สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า เครื่องมือประเภทใหม่นี้มีชื่อว่า โครงการเงินกู้ระยะกลางแบบกำหนดกลุ่มเป้าหมาย (targeted medium-term lending facility หรือ TMLF) โดยขณะนี้ทางแบงก์ชาติกำลังเปิดรับสมัครธนาคารที่มีคุณสมบัติเหมาะสมเข้าร่วมโครงการดังกล่าว เพื่อรับเงินทุนระยะยาวที่มีเสถียรภาพเพื่อนำไปสนับสนุนธุรกิจของตนต่อไป

-- วุฒิสภาสหรัฐเตรียมลงมติเสนอร่างงบประมาณเพื่อหลีกเลี่ยงการปิดหน่วยงานรัฐบาล หรือชัตดาวน์ แม้ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์จะประกาศว่า เขาจะสร้างกำแพงกั้นระหว่างสหรัฐและเม็กซิโกอย่างแน่นอน

วุฒิสมาชิกพรรครีพับลิกันได้เสนองบประมาณชั่วคราวเพื่อให้หน่วยงานของรัฐบาลมีงบประมาณในการดำเนินงานจนถึงวันที่ 8 ก.พ. 2562 ขณะที่วุฒิสมาชิกพรรคแดโมแครตกล่าวว่า ทางพรรคพร้อมที่จะผ่านร่างงบประมาณดังกล่าว ซึ่งจะส่งผลให้การอภิปรายเกี่ยวกับงบสร้างกำแพง 5 พันล้านดอลลาร์ถูกเลื่อนออกไป

-- ธนาคารเพื่อการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานแห่งเอเชีย (AIIB) เปิดเผยในวันนี้ว่า ทางธนาคารได้ให้การอนุมัติ 5 ชาติในแอฟริกา และ 1 ชาติในยุโรป เข้าร่วมเป็นสมาชิกใหม่

ทั้งนี้ สมาชิกใหม่ดังกล่าว ได้แก่ ลิเบีย แอลจีเรีย โมรอกโก กานา และโตโก รวมทั้งเซอร์เบีย

-- อิตาลีและสหภาพยุโรป (EU) สามารถบรรลุข้อตกลงเกี่ยวกับงบประมาณประจำปี 2562 ของอิตาลีได้แล้ว หลังจากที่มีความขัดแย้งกันก่อนหน้านี้ เกี่ยวกับตัวเลขขาดดุลงบประมาณ

ทั้งนี้ อิตาลีประกาศปรับลดตัวเลขขาดดุลงบประมาณในปีหน้า สู่ระดับ 2.04% ลดลงจากเดิมที่ระดับ 2.40%

-- สมาคมนายหน้าอสังหาริมทรัพย์แห่งชาติของสหรัฐ (NAR) เปิดเผยว่า ยอดขายบ้านมือสองเพิ่มขึ้น 1.9% สู่ระดับ 5.32 ล้านยูนิตในเดือนพ.ย. โดยเพิ่มขึ้นติดต่อกันเป็นเดือนที่ 2

อย่างไรก็ดี ยอดขายบ้านยังคงถูกกดดันจากการพุ่งขึ้นของราคาบ้าน รวมทั้งการขาดแคลนที่ดินและแรงงาน

นักวิเคราะห์คาดการณ์ก่อนหน้านี้ว่ายอดขายบ้านลดลง 0.6% สู่ระดับ 5.20 ล้านยูนิตในเดือนพ.ย.

-- นักลงทุนจับตาการประชุมธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) ในวันนี้ ขณะที่นักวิเคราะห์คาดว่า BoE จะคงนโยบายการเงินในการประชุมครั้งนี้ นอกจากนี้ ธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) จะแถลงมตินโยบายการเงินในการประชุมวันนี้เช่นกัน โดยมีการคาดการณ์ว่า BOJ จะคงมาตรการผ่อนคลายการเงินไว้ เนื่องจากเงินเฟ้อของประเทศยังอยู่ที่ระดับต่ำ และเศรษฐกิจยังมีปัจจัยเสี่ยงต่างๆ

-- จับตาข้อมูลเศรษฐกิจของประเทศต่างๆในวันนี้ โดยออสเตรเลียจะเปิดเผยตัวเลขจ้างงานและอัตราว่างงานเดือนพ.ย. ขณะที่อังกฤษจะเปิดเผยยอดค้าปลีกเดือนพ.ย. และสหรัฐจะเปิดเผยจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์

ส่วนในวันพรุ่งนี้ ญี่ปุ่นจะเปิดเผยอัตราเงินเฟ้อเดือนพ.ย. ขณะที่อังกฤษและฝรั่งเศสจะเปิดเผยผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ไตรมาส 3 ทางด้านสหรัฐจะเปิดเผยดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) เดือนพ.ย., ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนเดือนพ.ย., ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ประจำไตรมาส 3 (ประมาณการครั้งสุดท้าย), รายได้และการใช้จ่ายส่วนบุคคลเดือนพ.ย. และดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนธ.ค.จากมหาวิทยาลัยมิชิแกน


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ