"แฟนนี เม"ชี้ความเชื่อมั่นในตลาดที่อยู่อาศัยสหรัฐเพิ่มขึ้น หลังอัตราดอกเบี้ยจำนองลดลง

ข่าวเศรษฐกิจ Tuesday April 9, 2019 14:08 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

สมาคมการจำนองแห่งชาติของรัฐบาลกลางสหรัฐ (แฟนนี เม) เปิดเผยว่า ความเชื่อมั่นของผู้ขายและผู้ซื้อในตลาดที่อยู่อาศัยของสหรัฐปรับตัวเพิ่มขึ้นในเดือนมี.ค. เนื่องจากอัตราดอกเบี้ยจำนองที่ลดลงทำให้ความสามารถในการซื้อบ้านมีมากขึ้น

แฟนนี เม ระบุว่า ดัชนีความเชื่อมั่นในการซื้อบ้าน (HPSI) เพิ่มขึ้น 5.5 จุด สู่ 89.8 ในเดือนมี.ค. และเพิ่มขึ้น 1.5 จุดเมื่อเทียบเป็นรายปี

"แนวโน้มตลาดบ้านที่สดใสขึ้นทำให้ดัชนี HPSI เพิ่มขึ้นในเดือนนี้ ซึ่งเป็นสัญญาณบวกจากผู้บริโภค ขณะที่เราเข้าสู่ฤดูกาลแห่งการซื้อบ้านในฤดูใบไม้ผลิและฤดูร้อน" นายดั๊ก ดันแคน รองประธานอาวุโส และหัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ของแฟนนี เม กล่าว

รายงานระบุว่า สัดส่วนสุทธิของชาวอเมริกันที่เห็นโอกาสดีที่จะซื้อบ้านนั้น เพิ่มขึ้น 7% สู่ 22% ในเดือนมี.ค. ขณะที่ผู้ที่คิดว่าเป็นเวลาดีที่จะขายบ้านนั้น พุ่งขึ้น 13% สู่ 43%

ขณะเดียวกัน สัดส่วนสุทธิของผู้ที่คาดว่าราคาบ้านจะเพิ่มขึ้นนั้น เพิ่มขึ้น 5% สู่ระดับ 38%

นายดันแคนกล่าวว่า "อัตราดอกเบี้ยจำนองที่ลดลงนั้น ช่วยเพิ่มความสามารถในการซื้อบ้าน ซึ่งเราคาดว่าจะช่วยหนุนให้ยอดขายบ้านดีดตัวขึ้นด้วย" นายดันแคนกล่าว

สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า บรรษัทจำนองสินเชื่อบ้านของรัฐบาลกลางสหรัฐ (เฟรดดี แมค) เปิดเผยเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมาว่า ในสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 4 เม.ย. อัตราดอกเบี้ยจำนองระยะ 30 ปีในสหรัฐอยู่ที่ระดับเฉลี่ย 4.08%


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ