World Today: สรุปประเด็นน่าติดตามประจำวันที่ 23 เมษายน 2562

ข่าวเศรษฐกิจ Tuesday April 23, 2019 09:19 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลบ 48.49 จุด หรือ 0.18% เมื่อคืนนี้ (22 เม.ย.) ท่ามกลางการซื้อขายที่ซบเซา เนื่องจากนักลงทุนชะลอการซื้อขายก่อนที่บริษัทจดทะเบียนรายใหญ่จะเปิดเผยผลประกอบการรายไตรมาส ซึ่งรวมถึงบริษัทโบอิ้ง และเฟซบุ๊ก ขณะเดียวกันนักลงทุนจับตาตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ประจำไตรมาส 1/2562 ของสหรัฐ ซึ่งมีกำหนดเปิดเผยในสัปดาห์นี้

-- ตลาดหุ้นจีนมีแนวโน้มอ่อนแอลง หลังจากเทรดเดอร์มองว่า แถลงการณ์ของคณะกรรมการกรมการเมือง (โปลิตบูโร) เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมานั้น เป็นการส่งสัญญาณว่า ทางการจีนอาจชะลอมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ

บรรดาเทรดเดอร์ได้ตีความแถลงการณ์เมื่อวันศุกร์จากการประชุมโปลิตบูโร ซึ่งเป็นองค์กรสูงสุดที่มีอำนาจในการตัดสินใจของพรรคคอมมิวนิสต์จีนว่า เศรษฐกิจของจีนมีเสถียรภาพเพียงพอ ซึ่งไม่จำเป็นต้องมีการสนับสนุนเพิ่มขึ้น แต่รัฐบาลจะให้ความสนใจกับการลดหนี้ และหลีกเลี่ยงการเก็งกำไรในตลาดที่อยู่อาศัย

-- นายไมค์ ปอมเปโอ รมว.ต่างประเทศสหรัฐ กล่าวว่า สหรัฐจะยกเลิกคำสั่งผ่อนผันแก่ประเทศที่นำเข้าน้ำมันจากอิหร่าน ซึ่งหากประเทศเหล่านี้ยังคงนำเข้าน้ำมันจากอิหร่าน ก็จะถูกสหรัฐคว่ำบาตร โดยนายปอมเปโอกล่าวเสริมว่า สหรัฐจะไม่ให้ระยะเวลาผ่อนผันแก่ประเทศเหล่านี้ในการปฏิบัติตามคำสั่งของสหรัฐ

"เราจะทำให้การส่งออกน้ำมันของอิหร่านเหลือศูนย์ เราจะไม่ให้การผ่อนผันแก่ประเทศที่นำเข้าน้ำมันจากอิหร่านหลังวันที่ 2 พ.ค." นายปอมเปโอกล่าว หลังทำเนียบขาวแถลงว่า ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ได้ตัดสินใจที่จะยกเลิกคำสั่งผ่อนผันให้ 8 ประเทศนำเข้าน้ำมันจากอิหร่าน

-- อิหร่านพยายามหาทางที่จะควบคุมผลกระทบจากมาตรการคว่ำบาตรของสหรัฐ โดยกำลังเจรจาอย่างจริงจังกับบรรดาหุ้นส่วนทั้งในและนอกภูมิภาค เพื่อควบคุมผลกระทบจากการที่รัฐบาลของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์แห่งสหรัฐตัดสินใจไม่ต่ออายุการผ่อนผันให้ประเทศต่างๆ สามารถซื้อน้ำมันจากอิหร่านต่อไปได้โดยไม่เผชิญกับการคว่ำบาตร โดยราคาน้ำมันดิบในตลาดลอนดอนพุ่งแตะระดับสูงสุดในรอบครึ่งปี หลังปธน.ทรัมป์สร้างความประหลาดใจให้กับนักลงทุนด้วยการประกาศยุติโครงการผ่อนผันการนำเข้าน้ำมันอิหร่าน

-- ซาอุดีอาระเบียประกาศย้ำเกี่ยวกับนโยบายในการรักษาเสถียรภาพในตลาดน้ำมัน โดยนายคาลิด อัล-ฟาลีห์ รมว.พลังงานของซาอุดีอาระเบีย กล่าวว่า ซาอุดีอาระเบียได้จับตาตลาดน้ำมันอย่างใกล้ชิด หลังจากที่สหรัฐประกาศยกเลิกคำสั่งผ่อนผันแก่ประเทศที่นำเข้าน้ำมันจากอิหร่าน

"ซาอุดีอาระเบียจะร่วมมือกับประเทศผู้ผลิตน้ำมันรายอื่นในการรับประกันว่าปริมาณน้ำมันจะมีอยู่อย่างเพียงพอสำหรับผู้บริโภค และสร้างความมั่นใจว่าตลาดน้ำมันโลกจะไม่เสียสมดุล" นายอัล-ฟาลีห์กล่าว

นายอัล-ฟาลีห์ยังกล่าวเสริมว่า ในช่วงไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า ซาอุดีอาระเบียจะปรึกษาอย่างใกล้ชิดกับประเทศผู้ผลิตน้ำมันรายอื่น และประเทศผู้บริโภคน้ำมันเพื่อรับประกันว่าตลาดน้ำมันจะมีสมดุล และมีเสถียรภาพสำหรับประโยชน์ของผู้ผลิต และผู้บริโภค รวมทั้งเสถียรภาพต่อเศรษฐกิจโลก

-- บริษัทซัมซุง อิเลคโทรนิคส์ จะเลื่อนการเปิดตัวโทรศัพท์ Galaxy Fold สมาร์ทโฟนแบบพับรุ่นแรก และยังไม่ได้กำหนดวันเปิดตัวใหม่แต่อย่างใด หลังมีรายงานจากนักรีวิวหลายรายที่ทำการทดลองใช้ ซึ่งปรากฎว่า มีผู้แจ้งว่าเกิดปัญหาจอแตก และบางครั้งมีปัญหาจอดับ หรือเกิดการกะพริบที่หน้าจอ ซึ่งทางซัมซุงระบุว่าจะทำการตรวจสอบปัญหาดังกล่าวโดยละเอียด สำหรับราคาโทรศัพท์ดังกล่าวอยู่ที่ระดับ 1,980 ดอลลาร์

-- รัฐบาลศรีลังกาได้กล่าวโทษกลุ่มเนชั่นแนล ธาวฮีธ จามาอัธ หรือ เอ็นทีเจ ซึ่งเป็นกลุ่มจีฮัดหัวรุนแรงในประเทศ ว่าเป็นผู้ก่อเหตุโจมตีครั้งร้ายแรงที่สุดในรอบหลายปีที่เกิดขึ้นเมื่อวันอาทิตย์ ซึ่งส่งผลให้มีประชาชนเสียชีวิต 290 ราย และบาดเจ็บกว่า 500 ราย นอกจากนี้ รัฐบาลระบุว่า ประเทศต่างๆ ได้แบ่งปันข้อมูลข่าวกรองก่อนเหตุการณ์สังหารหมู่ดังกล่าวในวัน Easter Sunday โดยการโจมตีดังกล่าวมุ่งเป้าไปที่นักท่องเที่ยวต่างชาติและชาวคริสเตียน ซึ่งนำไปสู่ความรุนแรงที่ทำให้เกิดสงครามกลางเมืองยาวนาน 30 ปีในศรีลังกา

-- ตำรวจอินโดนีเซียเพิ่มความเข้มงวดในการรักษาความปลอดภัยเพื่อรับมือการโจมตีที่อาจเกิดขึ้น หลังเกิดเหตุโจมตีที่ศรีลังกาเมื่อวันอาทิตย์ จนเป็นเหตุให้มีประชาชนเสียชีวิต 290 ราย และบาดเจ็บกว่า 500 ราย โดยพลตำรวจตรีเดดี ปราเซตโย โฆษกสำนักงานตำรวจอินโดนีเซีย กล่าวว่า หน่วยต่อต้านการก่อการร้ายได้เพิ่มการจับตาความเคลื่อนไหวของกลุ่มก่อการร้ายทั่วประเทศ

ในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่สามารถจับกุมกลุ่มหัวรุนแรงจำนวน 12 รายในจังหวัดสุมาตราเหนือ, จังหวัดชวาตะวันตก และจังหวัดลำปุง

-- สื่อท้องถิ่นของฟิลิปปินส์รายงานว่า มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 9 รายจากเหตุการณ์แผ่นดินไหว 6.3 แมกนิจูดที่เกิดขึ้นเมื่อวานนี้ โดยสำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า แผ่นดินไหวครั้งนี้เกิดขึ้นเมื่อเวลา 17.00 น.ตามเวลาท้องถิ่นเมื่อวานนี้ ห่างจากฝั่งตะวันตกเฉียงเหนือของกรุงมะนิลาไปประมาณ 70 กิโลเมตร และมีความลึกระดับ 20 กิโลเมตร นอกจากนี้ แรงสั่นสะเทือนของแผ่นดินไหวยังสร้างความเสียหายต่อสนามบินคล้ากซึ่งตั้งอยู่ในกรุงมะนิลา

-- สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจที่มีกำหนดเปิดเผยในวันนี้ สหรัฐจะเปิดเผยดัชนีราคาบ้านเดือนก.พ. ยอดขายบ้านใหม่เดือนมี.ค. ดัชนีการผลิตเดือนเม.ย.จากเฟดสาขาริชมอนด์ ขณะที่สหภาพยุโรป (EU) จะเปิดเผยความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนเม.ย.

ส่วนในวันพรุ่งนี้ ออสเตรเลียเปิดเผยอัตราเงินเฟ้อไตรมาส 1/2562 ญี่ปุ่นเปิดเผยดัชนีชี้นำเศรษฐกิจเดือนก.พ. เยอรมนีเปิดเผยความเชื่อมั่นภาคธุรกิจเดือนเม.ย.จากสถาบัน Ifo และสหรัฐเปิดเผยสต็อกน้ำมันรายสัปดาห์จากสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐ (EIA)


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ