Spotlight: วงการธุรกิจสหรัฐประสานเสียงเรียกร้องให้สหรัฐ-จีนยุติความขัดแย้งด้านการค้า

ข่าวเศรษฐกิจ Friday July 5, 2019 15:58 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

สมาคมอุตสาหกรรมและผู้แทนธุรกิจของสหรัฐต่างแสดงความหวังว่า สหรัฐและจีนจะสามารถคลี่คลายความขัดแย้งด้านการค้าได้ภายในอนาคตอันใกล้นี้ เพื่อให้การค้าแบบทวิภาคีกลับคืนสู่ภาวะปกติ

นางเอริน เอ็นนิส รองประธานอาวุโสของสภาธุรกิจสหรัฐ-จีนเปิดเผยกับสำนักข่าวซินหัวว่า "สิ่งที่สำคัญก็คือ เราได้ยินจากบริษัทสหรัฐว่า บริษัทมีความไม่แน่นอนมากมายเกี่ยวกับสถานการณ์ความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐ-จีน ซึ่งไม่ใช่สิ่งที่บริษัทต่างๆ ต้องการ"

"บริษัทต่างๆ ต้องการที่จะรู้ว่าราคาผลิตภัณฑ์ของตนเองจะเป็นอย่างไร และตลาดของบริษัทจะอยู่ที่ไหน พวกเขาต้องการสิ่งเหล่านั้นในระยะยาว" นางเอ็นนิสกล่าว โดยเสริมว่า การแก้ไขปัญหาการค้าทวิภาคีอย่างมีนัยสำคัญ จะเป็นประโยชน์หลักสำหรับบริษัทสหรัฐ

นายเดวิด สไนเดอร์ รองประธานด้านนโยบายระหว่างประเทศของสมาคมประกันวินาศภัยทรัพย์สินอเมริกัน กล่าวว่า องค์กรของเขาซึ่งมีบริษัทประกันภัยและบริษัทประกันภัยต่อจำนวนมากกว่า 1,200 แห่งเป็นสมาชิกนั้น มีประสบการณ์ที่ดีในการร่วมงานกับจีนผ่านแนวทางการดำเนินงานที่ต่างฝ่ายต่างได้ประโยชน์

นายสไนเดอร์เปิดเผยกับสำนักข่าวซินหัวว่า "เราคาดหวังถึงผลลัพธ์ที่มีประโยชน์ร่วมกันในเชิงบวกสำหรับสองประเทศที่มีเศรษฐกิจใหญ่ที่สุดในโลก และเราเชื่อว่ามีหลายทางที่จะแก้ปัญหาที่เป็นผลประโยชน์สูงสุดของทั้งสองประเทศ"

นายเคิร์ท เนเกิล ประธานและซีอีโอของสมาคมการท่าเรืออเมริกันก็ได้สนับสนุนความเห็นของนายสไนเดอร์ โดยระบุถึงความสำคัญของการค้าทวิภาคี และแสดงความวิตกเกี่ยวกับความขัดแย้งเรื่องการนำเข้าและส่งออกของสองประเทศ

นายเนเกิลกล่าวว่า "ดังนั้น เราจึงคิดว่า มีความสำคัญอย่างมากที่คณะบริหารของสหรัฐ จะยังคงหารือและเจรจากับรัฐบาลจีน เพื่อบรรลุข้อตกลงการค้าสหรัฐ-จีนที่เป็นประโยชน์ร่วมกัน และสามารถเพิ่มการค้าที่เป็นธรรมและเท่าเทียมกัน"

นายเคอร์รี สแตคโพล ซีอีโอและผู้อำนวยการบริหารของ Plumbing Manufacturers International ระบุว่า เขาเชื่อว่าทั้งสองฝ่ายจะสามารถหาทางออกได้ โดยตั้งข้อสังเกตว่า สหรัฐและจีนเป็นหุ้นส่วนกันในด้านต่างๆ จำนวนมากมาเป็นเวลานาน

นายสแตคโพลกล่าวว่า "ไม่มีประเทศใดที่จะชนะอีกประเทศหนึ่งในโลกซึ่งมีการค้าเป็นเวทีสากล ดังนั้น เราจำเป็นต้องแก้ไขปัญหานี้ ผมคิดว่า อาจจะต้องใช้เวลานานกว่าที่เราคาดหวัง แต่ผมคิดว่า เราจะสามารถแก้ไขปัญหาได้"

นายปีเตอร์ ก็อกกิ ประธานของ Tea Association of the U.S.A., Inc. (TeaUSA) กล่าวว่า "ผมรักคนจีน และผมเชื่อมาตลอดว่า คนเราสามารถทำอะไรๆ ได้มากกว่าเมื่ออยู่ร่วมกันแทนที่จะแยกกัน" โดยนายก็อกกิเดินทางไปยังประเทศจีนหลายสิบครั้งในช่วง 30 ปีที่ผ่านมา

นายก็อกกิกล่าวว่า สองประเทศจะได้ประโยชน์จากการทำงานร่วมกัน และเขาหวังว่า สหรัฐและจีนจะสามารถแก้ไขความขัดแย้งด้านการค้า

ในการพบปะกันนอกรอบการประชุมซัมมิตของกลุ่ม G20 ที่จัดขึ้นที่นครโอซากา ประเทศญี่ปุ่นนั้น ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ของจีน และประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐ ได้ตกลงกันเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมาที่จะเริ่มการหารือทางเศรษฐกิจและการค้าระหว่างกันบนพื้นฐานของความเท่าเทียมและความเคารพซึ่งกันและกัน ซึ่งเป็นปัจจัยที่เพิ่มความเชื่อมั่นให้กับเศรษฐกิจและตลาดทั่วโลก

นายเดวิด เฟรนช์ รองประธานอาวุโสฝ่ายความสัมพันธ์กับรัฐบาลที่สหพันธ์การค้าปลีกแห่งชาติระบุในแถลงการณ์ว่า "เราขานรับกับความคืบหน้าระหว่างการประชุมดังกล่าว และหวังว่าจะมีแนวทางที่สร้างสรรค์ในการร่วมงานกับจีนเพื่อผลักดันการปฏิรูปที่สำคัญ มากกว่าที่จะส่งผลกระทบต่อผู้บริโภคและการจ้างงานในสหรัฐด้วยการปรับขึ้นภาษีนำเข้า"

นายเฟรนช์กล่าวว่า "การถอยออกจากการเตรียมความพร้อมที่จะปรับขึ้นภาษีอีกนั้น นับเป็นสัญญาณที่ดีสำหรับผู้ค้าปลีกและลูกค้า และเราหวังที่จะเห็นความคืบหน้าอย่างต่อเนื่องในการเจรจากับจีน เพื่อที่จะหลีกเลี่ยงการปรับขึ้นภาษีนำเข้าขึ้นอีก และยกเลิกการเก็บภาษีที่มีอยู่"

นายเนเกิลเปิดเผยกับสำนักข่าวซินหัวว่า "เราหวังว่าการกำหนดภาษีดังกล่าวจะเป็นมาตรการชั่วคราวซึ่งสามารถยกเลิกได้ เพื่อที่จะสร้างเสถียรภาพและความแน่นอนมากขึ้นในภาวะแวดล้อมด้านการค้าสำหรับการส่งออกและนำเข้าของทั้งสหรัฐและจีน"

ด้านนางเอ็นนิสก็ได้เรียกร้องให้ยกเลิกการเก็บภาษีนำเข้าที่กำหนดขึ้นในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา "ความหวังของเราก็คือ เรื่องนี้จะได้รับการแก้ไขอย่างรวดเร็ว และในที่สุดจะมีแผนการเพื่อลดและยกเลิกภาษีทั้งหมดที่ทั้งสองฝ่ายได้กำหนดไว้เพราะนั่นเป็นหนทางเดียวที่เราจะสามารถกลับไปทำการค้าที่เป็นปกติระหว่างสหรัฐและจีน"


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ