World Today: สรุปประเด็นน่าติดตามประจำวันที่ 17 กันยายน 2562

ข่าวเศรษฐกิจ Tuesday September 17, 2019 09:16 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

เหตุการณ์โจมตีโรงงานน้ำมันในซาอุดีอาระเบียส่งผลให้ราคาน้ำมันดิบ WTI พุ่งขึ้น 8.05 ดอลลาร์ หรือ 14.7% ปิดที่ 62.90 ดอลลาร์/บาร์เรลเมื่อคืนนี้ ซึ่งเป็นการปรับขึ้นในวันเดียวที่มากที่สุดนับตั้งแต่ปี 2531

ขณะที่ตลาดกังวลว่า เหตุการณ์โจมตีครั้งนี้อาจจะนำไปสู่การตอบโต้กันในตะวันออกกลาง สหรัฐได้ออกมาเรียกร้องให้นานาชาติรวมตัวกันเพื่อตอบโตอิหร่าน เพราะเชื่อว่า อิหร่านอยู่เบื้องหลังการโจมตีโรงงานน้ำมันในครั้งนี้

-- ซาอุดีอาระเบียเปิดเผยว่า อาวุธของอิหร่านได้ถูกนำมาใช้ในการโจมตีหนึ่งในแหล่งผลิตน้ำมันที่สำคัญของซาอุดีอาระเบีย แต่ไม่ได้กล่าวโทษอิหร่านโดยตรงสำหรับการโจมตีดังกล่าวซึ่งทำให้การผลิตน้ำมันดิบลดลงครึ่งหนึ่ง และกระทบตลาดน้ำมัน ด้านพันเอกเตอร์กี อัล-มัลกี โฆษกของกลุ่มพันธมิตรที่นำโดยซาอุดีอาระเบียในเยเมนเปิดเผยกับผู้สื่อข่าวในกรุงริยาดห์ว่า จากการตรวจสอบซากโดรนที่แหล่งน้ำมันอับกาอิกพบว่าเป็นของอิหร่าน

นายไมค์ ปอมเปโอ รมว.ต่างประเทศสหรัฐได้กล่าวโทษอิหร่าน ขณะที่ประธานาธิบดีฮัสซัน รูฮานีของอิหร่านกล่าวว่า การโจมตีดังกล่าวเป็นผลจากการทำสงครามที่ยืดเยื้อมานานหลายปีของซาอุดีอาระเบียกับเยเมน ด้านประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์แห่งสหรัฐทวีตข้อความในช่วงสุดสัปดาห์ว่า สหรัฐรู้ว่าเหตุการณ์ดังกล่าวเป็นฝีมือใคร และสหรัฐได้ล็อกเป้าและพร้อมยิงผู้ก่อเหตุ ทั้งนี้ การโจมตีทางอากาศดังกล่าวส่งผลกระทบกับการผลิตน้ำมันของซาอุดีอาระเบีย

-- มูดี้ส์ อินเวสเตอร์ส เซอร์วิส ประกาศลดแนวโน้มความน่าเชื่อถือของฮ่องกงลงสู่ "เชิงลบ" จากเดิม "มีเสถียรภาพ" โดยระบุถึงความเสี่ยงที่มีต่อสถานะการเป็นศูนย์กลางการเงินแห่งเอเชียของฮ่องกง

มูดี้ส์ระบุว่า การปรับลดแนวโน้มความน่าเชื่อถือของฮ่องกงในครั้งนี้ สะท้อนให้เห็นถึงความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้นว่า เหตุการณ์ประท้วงที่ยังคงยืดเยื้อในขณะนี้ กำลังบั่นทอนความแข็งแกร่งของฮ่องกงในฐานะศูนย์กลางการเงินแห่งเอเชีย พร้อมระบุว่า ประสิทธิผลทางด้านนโยบายและการกำกับดูแลของรัฐบาลฮ่องกงในขณะนี้ อยู่ในระดับต่ำกว่าที่มูดี้ส์ประเมินไว้ก่อนหน้านี้ และเมื่อพิจารณาจากปัจจัยพื้นฐานแล้ว การประท้วงได้บั่นทอนความน่าเชื่อถือของฮ่องกง ด้วยการลดความน่าดึงดูดทั้งในด้านการค้าและการเป็นศูนย์กลางทางการเงิน

-- นายไมเคิล เวิร์ธ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของบริษัทเชฟรอน ได้ออกมาแสดงความเชื่อมั่นว่า เหตุการณ์โจมตีโรงงานน้ำมันสองแห่งในซาอุดีอาระเบียจะไม่ส่งผลกระทบต่อการผลิตน้ำมันของสหรัฐมากนัก เมื่อพิจารณาจากแนวโน้มในระยะสั้น

อย่างไรก็ดี นายเวิร์ธซึ่งกล่าวให้สัมภาษณ์ทางสถานีโทรทัศน์ซีเอ็นบีซีเมื่อวานนี้ คาดการณ์ว่า หากเกิดสงครามอย่างอย่างเต็มรูปแบบในตะวันออกกลาง ก็มีแนวโน้มสูงมากที่จะทำให้ราคาน้ำมันพุ่งขึ้น

นอกจากนี้ นายเวิร์ธกล่าวว่า เขาไม่คาดว่าเหตุการณ์โจมตีโรงงานน้ำมันในซาอุดีอาระเบียจะส่งผลกระทบต่อแผนการเสนอขายหุ้น IPO ของบริษัทซาอุดี อารามโค

-- นายโทมัส โดโนฮิว ประธานเจ้าหน้าที่บริหารหอการค้าสหรัฐคาดว่า ผู้เจรจาการค้าระดับสูงของจีนและสหรัฐจะเริ่มต้นการเจรจากันในอีกหนึ่งสัปดาห์ครึ่ง ขณะที่เจ้าหน้าที่ระดับต่ำกว่าคาดว่าจะประชุมกันในวันศุกร์หน้า

นายโดโนฮิวยังเปิดเผยด้วยว่า นายโรเบิร์ต ไลท์ไฮเซอร์ ผู้แทนการค้าสหรัฐระบุว่า มีความคืบหน้าบางประการเกี่ยวกับการที่จีนซื้อผลิตภัณฑ์ด้านการเกษตรของสหรัฐ และประเด็นอื่นๆ แต่ก็ยังเป็นเรื่องท้าทายอย่างมากที่จะทำข้อตกลงที่สมบูรณ์ และยังต้องดำเนินการอีกมาก

-- สิงคโปร์วางแผนที่จะดึงดูดบริษัทจำนวนมากขึ้นที่จะจัดตั้งแพลตฟอร์มการค้าอิเล็กทรอนิกส์ โดยในการต่อสู้เพื่อเป็นศูนย์กลางแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศที่ใหญ่ที่สุดในเอเชียนั้น สิงคโปร์แซงหน้าฮ่องกงเพียงอย่างเดียวคือการซื้อขายเฉลี่ยต่อวันในสิงคโปร์พุ่งขึ้นสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 6.33 แสนล้านดอลลาร์ในเดือนเม.ย. ขณะที่การทำธุรกรรมในฮ่องกงอยู่ที่ 6.32 แสนล้านดอลลาร์

ยูบีเอส, ซิตี้กรุ๊ป, สแตนดาร์ดชาร์เตอร์ด และเจพีมอร์แกนได้ติดตั้งเครื่องมือกำหนดราคาและการซื้อขาย FX ในสิงคโปร์ตลอดปีที่ผ่านมา แต่จำเป็นต้องมีบริษัทเทรดเดอร์รายใหญ่อีก 3-5 รายเพื่อให้มีปริมาณซื้อขายระดับสูง" เบนนี เชย์ จากธนาคารกลางสิงคโปร์กล่าว

-- กลุ่มพันธมิตรชาติอาหรับที่นำโดยซาอุดีอาระเบียในการต่อสู้กับกลุ่มกบฏฮูตีของเยเมน แถลงวานนี้ว่า ผลการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่า โดรนที่ใช้ในการโจมตีโรงงานน้ำมันในซาอุดีอาระเบียเป็นของอิหร่าน และโดรนดังกล่าวไม่ได้ถูกปล่อยขึ้นจากทางเยเมน

ทั้งนี้ พันเอกเตอร์กี อัล-มัลกี โฆษกของกลุ่มพันธมิตร กล่าวว่า การตรวจสอบยังคงดำเนินต่อไป เพื่อหาจุดปล่อยโดรนดังกล่าว

-- กลุ่มกบฏฮูตีของเยเมนออกโรงเตือนว่า ทางกลุ่มยังคงเล็งโจมตีแหล่งผลิตน้ำมันของซาอุดี อารามโค ซึ่งเป็นบริษัทน้ำมันแห่งชาติของซาอุดีอาระเบีย

"เราขอเตือนบริษัทต่างๆ และชาวต่างชาติให้อยู่ห่างจากโรงงานน้ำมันของอารามโคซึ่งเราได้โจมตีไปแล้ว เพราะโรงงานเหล่านี้ยังคงอยู่ในเป้าหมายของเรา และจะถูกโจมตีได้ตลอดเวลา" นายยาห์ยา ซารีเอ โฆษกของกลุ่มกบฏฮูตี กล่าว

ที่ผ่านมา กลุ่มกบฏฮูตีมักใช้โดรนโจมตีซาอุดีอาระเบีย แต่ก็มักถูกสกัดจากระบบป้องกันทางอากาศของซาอุดีอาระเบีย

-- นายบอริส จอห์นสัน นายกรัฐมนตรีอังกฤษ ได้เสร็จสิ้นการหารือกับนายฌอง-คล็อด ยุงเกอร์ ประธานคณะกรรมาธิการยุโรป (EC) เมื่อวานนี้ โดยการเจรจาดังกล่าวใช้เวลานาน 2 ชั่วโมง ซึ่งทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องที่จะดำเนินการเจรจาต่อไปเพื่อให้ได้ข้อตกลงเกี่ยวกับการแยกตัวของอังกฤษออกจากสหภาพยุโรป (Brexit)

ทั้งนี้ ทำเนียบนายกรัฐมนตรีอังกฤษรายงานว่า ขณะนี้ทั้งสองฝ่ายใกล้บรรลุข้อตกลงกันแล้ว โดยการประชุมเป็นไปอย่างสร้างสรรค์ และผู้นำทั้งสองเห็นพ้องกันเกี่ยวกับการเดินหน้าการเจรจา โดยจะมีการประชุมรายวัน ซึ่งนายมิเชล บาร์นิเยร์ ตัวแทนเจรจา Brexit ของฝ่ายสหภาพยุโรป (EU) และนายสตีฟ บาร์เคลย์ รัฐมนตรีอังกฤษฝ่ายกิจการ Brexit จะมีส่วนร่วมในการเจรจา

-- ดอยซ์แบงก์ระบุวานนี้ว่า ทางธนาคารได้ปรับลดความเป็นไปได้ที่อังกฤษจะแยกตัวออกจากสหภาพยุโรปโดยไม่มีการทำข้อตกลง (no-deal Brexit) เหลือเพียง 35% จากเดิมที่ระดับ 50% หลังจากที่รัฐสภาอังกฤษออกกฎหมายป้องกันการเกิด no-deal Brexit

ร่างกฎหมายดังกล่าวจะเป็นการกดดันให้นายบอริส จอห์นสัน นายกรัฐมนตรีอังกฤษ ร้องขอต่อสหภาพยุโรป (EU) เพื่อขยายกำหนดเส้นตายในการแยกตัวของอังกฤษออกจาก EU เป็นวันที่ 31 ม.ค.2563 จากเดิมวันที่ 31 ต.ค.นี้ หากนายจอห์นสันไม่สามารถยื่นข้อตกลง Brexit ฉบับใหม่เข้าสู่การพิจารณาของรัฐสภา และได้รับการอนุมัติภายในวันที่ 31 ต.ค.

-- สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจที่มีกำหนดเปิดเผยในวันนี้ ธนาคารกลางออสเตรเลียเปิดเผยรายงานการประชุม, จีนเปิดเผยดัชนีราคาบ้านเดือนส.ค, สถาบัน ZEW เปิดเผยความเชื่อมั่นทางเศรษฐกิจเดือนก.ย.ของอียูและเยอรมนี ขณะที่สหรัฐเปิดเผยการผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือนส.ค. และดัชนีตลาดที่อยู่อาศัยเดือนก.ย.จากสมาคมผู้สร้างบ้านแห่งชาติ (NAHB)

ส่วนในวันพรุ่งนี้ เกาหลีใต้เปิดเผยดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) เดือนส.ค. และราคานำเข้า/ส่งออกเดือนส.ค., ญี่ปุ่นเปิดเผยยอดนำเข้า, ยอดส่งออก และดุลการค้าเดือนส.ค., อังกฤษเปิดเผยอัตราเงินเฟ้อเดือนส.ค. และสหรัฐเปิดเผยตัวเลขการเริ่มสร้างบ้านและการอนุญาตก่อสร้างเดือนส.ค.


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ