World Today: ประเด็นข่าวต่างประเทศน่าติดตามวันนี้

ข่าวเศรษฐกิจ Friday April 30, 2021 08:45 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ ขานรับข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของสหรัฐ ซึ่งรวมถึงผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ไตรมาส 1 ขณะที่ดัชนี S&P500 ปิดทำนิวไฮ หลังหุ้นเฟซบุ๊กทะยานขึ้นกว่า 7% ขานรับผลประกอบการที่ดีเกินคาด และปัจจัยหนุนหุ้นตัวอื่นๆในกลุ่มเทคโนโลยีด้วย

-- นายบิล เดอ บลาซิโอ นายกเทศมนตรีนครนิวยอร์กกล่าวว่า นครนิวยอร์กจะกลับมาเปิดอย่างสมบูรณ์ 100% ในวันที่ 1 ก.ค.นี้

"แผนของเราคือการเปิดเมืองอย่างสมบูรณ์ในวันที่ 1 ก.ค. โดยเราพร้อมเปิดห้างสรรพสินค้า เปิดธุรกิจ เปิดสำนักงาน เปิดโรงภาพยนตร์ อย่างเต็มที่ เนื่องจากเราเห็นว่าประชาชนได้เข้ารับการฉีดวัคซีนจำนวนมาก และผมเชื่อว่าผู้คนจะหลั่งไหลมายังนครนิวยอร์ก เนื่องจากพวกเขาต้องการที่จะกลับมาอยู่ที่นี่" นายเดอ บลาซิโอกล่าว

-- ทนายความของนายอเล็กเซ นาวาลนี นักเคลื่อนไหววัย 44 ปี ซึ่งเป็นคู่ปรับทางการเมืองของประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ผู้นำรัสเซีย กล่าวว่า นายนาวาลนีมีน้ำหนักเพียง 72 กิโลกรัมในวันนี้ ลดลงจาก 94 กิโลกรัมในช่วงที่เขาเพิ่งเดินทางกลับสู่รัสเซียในเดือนม.ค.

ทั้งนี้ นายนาวาลนีได้ทำการอดอาหารประท้วงนานกว่า 3 สัปดาห์ ก่อนที่จะยุติการอดอาหารเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว

-- บริษัทแมคโดนัลด์ คอร์ป รายงานตัวเลขกำไรและรายได้ประจำไตรมาส 1 สูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์

ทั้งนี้ แมคโดนัลด์เปิดเผยว่า ทางบริษัทมีกำไรที่ระดับ 1.92 ดอลลาร์/หุ้น สูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ที่ระดับ 1.81 ดอลลาร์/หุ้น

นอกจากนี้ บริษัทมีรายได้ที่ระดับ 5.12 พันล้านดอลลาร์ สูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ที่ระดับ 5.03 พันล้านดอลลาร์

-- บริษัทคอมแคสต์ สื่อยักษ์ใหญ่ของสหรัฐ รายงานกำไรและรายได้ในไตรมาส 1 สูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์

ทั้งนี้ คอมแคสต์เปิดเผยว่า บริษัทมีกำไร 76 เซนต์/หุ้น สูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ที่ระดับ 58 เซนต์/หุ้น

นอกจากนี้ บริษัทมีรายได้ที่ระดับ 2.721 หมื่นล้านดอลลาร์ สูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ที่ 2.670 หมื่นล้านดอลลาร์

ขณะเดียวกัน บริษัทมีลูกค้าอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงจำนวนเพิ่มขึ้น 461,000 ราย สูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ที่ระดับ 396,000 ราย

-- Worldometer ซึ่งเป็นเว็บไซต์รายงานข้อมูลล่าสุดที่มีการรวบรวมจากหน่วยงานด้านสาธารณสุขทั่วโลก ระบุว่า ยอดผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ทั่วโลกสะสมมีจำนวน 150,708,081 ราย และยอดผู้เสียชีวิตอยู่ที่ 3,169,872 ราย

สหรัฐมียอดผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 สูงสุดในโลก (32,988,894) รองลงมาคืออินเดีย (18,682,642), บราซิล (14,523,807), ฝรั่งเศส (5,565,852), รัสเซีย (4,796,557), ตุรกี (4,751,026), สหราชอาณาจักร (4,414,242), อิตาลี (3,994,894), สเปน (3,504,799) และเยอรมนี (3,360,243)

นอกจากนี้ สหรัฐยังเป็นประเทศที่มีจำนวนผู้เสียชีวิตสูงสุดในโลก (588,409) ตามมาด้วยบราซิล (398,343), เม็กซิโก (215,918), อินเดีย (207,215), สหราชอาณาจักร (127,502), อิตาลี (120,256), รัสเซีย (109,731) และฝรั่งเศส (103,918)

-- กระทรวงสาธารณสุขอินโดนีเซียเปิดเผยว่า ผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ในรอบ 24 ชั่วโมงที่ผ่านมามีจำนวน 5,833 ราย ส่งผลให้จำนวนผู้ติดเชื้อสะสมอยู่ที่ 1,662,868 ราย ซึ่งเป็นจำนวนสูงที่สุดในกลุ่มประเทศเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (อาเซียน)

-- กระทรวงสาธารณสุขฟิลิปปินส์เปิดเผยว่า ในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา พบผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 รายใหม่จำนวน 8,276 ราย ส่งผลให้ยอดรวมผู้ติดเชื้อในประเทศอยู่ที่ 1,028,738 ราย ซึ่งเป็นจำนวนสูงเป็นอันดับ 2 ในกลุ่มประเทศเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (อาเซียน) รองจากอินโดนีเซีย

ส่วนจำนวนผู้เสียชีวิตจากไวรัสโควิด-19 เพิ่มขึ้น 114 ราย สู่ระดับ 17,145 ราย ซึ่งเป็นอันดับ 2 ในอาเซียนเช่นกัน

-- รัฐบาลสหรัฐได้ออกประกาศให้ชาวอเมริกันรีบเดินทางออกจากอินเดียโดยเร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ หลังจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในอินเดียเลวร้ายลงจนถึงขั้นวิกฤต

สหรัฐได้ยกระดับคำแนะนำพลเมืองชาวอเมริกันสำหรับการเดินทางไปอินเดียขึ้นสู่ระดับ 4 ซึ่งเป็นระดับสูงสุด โดยห้ามพลเมืองอเมริกันเดินทางไปยังอินเดีย หรือให้เดินทางออกจากอินเดียโดยเร็วที่สุดเท่าที่จะสามารถทำได้ โดยในขณะนี้สหรัฐมีเที่ยวบินตรงไปยังอินเดียทั้งหมด 14 เที่ยวต่อวัน รวมถึงบริการอื่นๆ ที่สามารถเดินทางไปยังอินเดียได้ผ่านทางยุโรป

-- สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญเมื่อคืนนี้ กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยตัวเลขประมาณการครั้งที่ 1 สำหรับผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ประจำไตรมาส 1/2564 โดยระบุว่า เศรษฐกิจสหรัฐขยายตัว 6.4% ในไตรมาส 1 ใกล้เคียงกับที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ในช่วง 6.1-6.5% และเป็นตัวเลขการขยายตัวสูงเป็นอันดับ 2 นับตั้งแต่ไตรมาส 3/2546 หลังจากที่เติบโต 4.3% ในไตรมาส 4/2563

นอกจากนี้ เศรษฐกิจสหรัฐขยายตัว 33.4% ในไตรมาส 3/2563 ซึ่งเป็นการขยายตัวสูงเป็นประวัติการณ์นับตั้งแต่ที่สหรัฐเริ่มมีการรวบรวมข้อมูลในปี 2490 หรือมากกว่า 70 ปี จากการที่สหรัฐเริ่มผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์ และมีการเปิดเศรษฐกิจ หลังจากหดตัว 31.4% ในไตรมาส 2 ซึ่งเป็นการหดตัวรุนแรงเป็นประวัติการณ์ และหดตัว 5% ในไตรมาส 1 ซึ่งส่งผลให้เศรษฐกิจสหรัฐเข้าสู่ภาวะถดถอย เนื่องจากมีการหดตัว 2 ไตรมาสติดต่อกัน โดยได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19

ขณะเดียวกัน นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าเศรษฐกิจสหรัฐจะมีการขยายตัวมากกว่า 7.0% ในปีนี้ ซึ่งจะเป็นการขยายตัวสูงสุดนับตั้งแต่ปี 2527 หลังจากหดตัว 3.5% ในปีที่แล้ว ซึ่งเป็นการหดตัวรุนแรงที่สุดในรอบ 74 ปี

กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกลดลง 13,000 ราย สู่ระดับ 553,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งเป็นระดับต่ำที่สุดนับตั้งแต่เกิดการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในสหรัฐเมื่อเดือนมี.ค.2563

อย่างไรก็ดี ถึงแม้ตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกลดลงในสัปดาห์ที่แล้ว แต่ก็ยังคงสูงกว่าระดับ 230,000 ราย ซึ่งเป็นค่าเฉลี่ยต่อสัปดาห์ในช่วงก่อนเกิดการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในสหรัฐ

สมาคมนายหน้าอสังหาริมทรัพย์แห่งชาติของสหรัฐ (NAR) เปิดเผยว่า ดัชนีการทำสัญญาขายบ้านที่รอปิดการขาย (pending home sales) เพิ่มขึ้น 1.9% ในเดือนมี.ค. เมื่อเทียบรายเดือน หลังร่วงลงติดต่อกัน 2 เดือน

นักวิเคราะห์คาดการณ์ก่อนหน้านี้ว่าดัชนีพุ่งขึ้น 5.4% ในเดือนมี.ค.

การดีดตัวขึ้นของดัชนีได้รับแรงหนุนจากอุปสงค์ที่เพิ่มขึ้นหลังการฟื้นตัวของตลาดแรงงาน รวมทั้งอัตราดอกเบี้ยเงินกู้จำนองที่ระดับต่ำ

-- สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญวันนี้ สำนักงานสถิติแห่งชาติจีน (NBS) มีกำหนดการรายงานดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิต-บริการเดือนเม.ย. เวลา 08.00 น. ตามเวลาไทย

ทางการเยอรมนีเตรียมรายงานผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ไตรมาส 1/2564 (ประมาณการเบื้องต้น) เวลา 15.00 น.

ยูโรโซนเตรียมรายงานผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ไตรมาส 1/2564 (ประมาณการเบื้องต้น) เวลา 16.00 น.

ส่วนสหรัฐเตรียมรายงานรายได้และการใช้จ่ายส่วนบุคคลเดือนมี.ค. และดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) เดือนมี.ค. เวลา 19.30 น. ต่อด้วยความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนเม.ย.จากมหาวิทยาลัยมิชิแกน เวลา 21.00 น.


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ