World Today: ประเด็นข่าวต่างประเทศน่าติดตามวันนี้

ข่าวเศรษฐกิจ Friday July 30, 2021 08:42 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ ขานรับผลประกอบการที่แข็งแกร่งของบริษัทจดทะเบียน ซึ่งรวมถึงฟอร์ด มอเตอร์ และยัม แบรนด์ส ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของพิซซ่า ฮัท และเคนตั๊กกี ฟรายชิกเก้น (KFC) นอกจากนี้ ตลาดยังได้แรงหนุนจากการที่นักลงทุนมองว่า ตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ของสหรัฐที่ขยายตัวต่ำกว่าคาดในไตรมาส 2 อาจทำให้ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ยังคงใช้นโยบายผ่อนคลายทางการเงินต่อไป

-- กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ตัวเลข GDP ไตรมาส 2/2564 ของสหรัฐขยายตัว 6.5% ซึ่งแม้ว่าดีกว่าในไตรมาส 1 ที่มีการขยายตัว 6.4% แต่ยังต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ 8.5% โดยตัวเลข GDP ไตรมาส 2 ที่มีการเปิดเผยเมื่อคืนนี้เป็นการประมาณการครั้งที่ 1

นักวิเคราะห์จากบริษัทเชส อินเวสต์เมนท์ คอนเซล ในรัฐเวอร์จิเนียกล่าวว่า ตัวเลข GDP ที่ขยายตัวต่ำกว่าคาดของสหรัฐทำให้นักลงทุนเชื่อว่า เฟดจะยังไม่ถอนนโยบายผ่อนคลายทางการเงินในระยะใกล้นี้ ซึ่งการแสดงความเห็นดังกล่าวสอดคล้องกับที่นายเจอโรม พาวเวล ประธานเฟดได้แถลงต่อสื่อมวลชนเมื่อวันพุธว่า เฟดยังคงอยู่ห่างไกลจากการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเมื่อพิจารณาจากภาวะเศรษฐกิจในปัจจุบัน พร้อมกับส่งสัญญาณว่า เฟดต้องการเห็นภาพรวมทางเศรษฐกิจและตลาดแรงงานของสหรัฐมีความแข็งแกร่งก่อนที่จะตัดสินใจถอนมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ

-- บริษัทยัม แบรนด์ส อิงค์ ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของพิซซ่า ฮัท, เคนตั๊กกี ฟรายชิกเก้น (KFC) และทาโก เบล รายงานกำไรและรายได้สูงกว่าคาดในไตรมาส 2

ทั้งนี้ ยัมเปิดเผยว่า ทางบริษัทมีกำไร 1.16 ดอลลาร์/หุ้น สูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ที่ระดับ 0.96 ดอลลาร์/หุ้น

นอกจากนี้ บริษัทมีรายได้ที่ระดับ 1.60 พันล้านดอลลาร์ สูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ที่ระดับ 1.48 พันล้านดอลลาร์

-- คาดตลาดหุ้นเอเชียเปิดการซื้อขายอย่างซบเซา เนื่องจากนักลงทุนมีความกังวลเกี่ยวกับการที่จีนปราบปรามอุตสาหกรรมภาคเอกชน

-- สื่อของอิสราเอลรายงานว่า เจ้าหน้าที่เตรียมฉีดวัคซีนต้านโควิด-19 เข็มที่ 3 ของบริษัทไฟเซอร์ให้แก่ประชาชนที่มีอายุมากกว่า 60 ปี

ทั้งนี้ กระทรวงสาธารณสุขของอิสราเอลได้แจ้งให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการฉีดวัคซีนดังกล่าวเพื่อเพิ่มภูมิคุ้มกันให้แก่ประชาชนในการป้องกันการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์เดลตา โดยการฉีดวัคซีนจะเริ่มขึ้นในวันอาทิตย์นี้

-- Worldometer ซึ่งเป็นเว็บไซต์รายงานข้อมูลล่าสุดที่มีการรวบรวมจากหน่วยงานด้านสาธารณสุขทั่วโลก ระบุว่า ยอดผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ทั่วโลกสะสมมีจำนวน 196,986,209 ราย และยอดผู้เสียชีวิตอยู่ที่ 4,208,722 ราย

-- กระทรวงสาธารณสุขอินโดนีเซียเปิดเผยว่า ผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ในรอบ 24 ชั่วโมงที่ผ่านมามีจำนวน 43,479 ราย ส่งผลให้จำนวนผู้ติดเชื้อสะสมอยู่ที่ 3,331,206 ราย ซึ่งเป็นจำนวนสูงที่สุดในกลุ่มประเทศเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (อาเซียน)

-- นางบาร์บารา วู้ดเวิร์ด เอกอัครราชทูตผู้แทนถาวรอังกฤษประจำสหประชาชาติ กล่าวว่า ประชากรครึ่งหนึ่งของเมียนมาจากจำนวนทั้งหมด 54 ล้านคนอาจติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ในช่วง 2 สัปดาห์ข้างหน้า หากเมียนมาไม่ได้รับวัคซีนต้านโควิด-19 ที่เพียงพอ

"การทำรัฐประหารได้ทำให้ระบบสาธารณสุขล่มสลาย ขณะที่บุคลากรทางการแพทย์ถูกจับกุมและโจมตี ส่งผลให้ไวรัสมีการแพร่ระบาดอย่างรวดเร็ว ทำให้มีการคาดการณ์กันว่าภายในเวลา 2 สัปดาห์ข้างหน้า ประชากรครึ่งหนึ่งของเมียนมาจะติดเชื้อโควิด-19" นางวู้ดเวิร์ดกล่าวต่อที่ประชุมคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ

อย่างไรก็ดี ตัวเลขทางการของกระทรวงสาธารณสุขและการกีฬาของเมียนมาระบุว่า ขณะนี้เมียนมามีจำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 สะสมอยู่ที่ 289,333 ราย และมีผู้เสียชีวิตจากไวรัสโควิด-19 จำนวนเพียง 8,552 ราย

-- นายโรดริโก ดูเตอร์เต ประธานาธิบดีฟิลิปปินส์กล่าวเตือนว่า ชาวฟิลิปปินส์ที่ไม่ยอมฉีดวัคซีนต้านไวรัสโควิด-19 จะไม่ได้รับอนุญาตให้ออกจากบ้าน

นายดูเตอร์เตกล่าวว่า ถึงแม้ไม่มีกฎหมายรองรับคำสั่งเช่นนี้ แต่เขาก็พร้อมที่จะถูกดำเนินคดีหากมีผู้ฟ้องร้อง เพื่อมิให้ประชาชนแพร่ไวรัสโควิด-19 โดยเฉพาะสายพันธุ์เดลตาตามท้องถนน

-- สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญอื่นๆ ที่มีการรายงานเมื่อคืนนี้ กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกลดลงสู่ระดับ 400,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว จากระดับ 424,000 รายในสัปดาห์ก่อนหน้านี้

อย่างไรก็ดี ตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานดังกล่าวสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 380,000 ราย

ส่วนจำนวนชาวอเมริกันที่ยังคงขอรับสวัสดิการว่างงานต่อเนื่องเพิ่มขึ้น 7,000 ราย สู่ระดับ 3.27 ล้านราย

นอกจากนี้ ตัวเลขค่าเฉลี่ย 4 สัปดาห์ของจำนวนชาวอเมริกันที่ยังคงขอรับสวัสดิการว่างงานต่อเนื่อง ซึ่งถือเป็นมาตรวัดตลาดแรงงานที่ดีกว่า เนื่องจากขจัดความผันผวนรายสัปดาห์ ลดลงสู่ระดับ 3.29 ล้านราย ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนมี.ค.2563

สมาคมนายหน้าอสังหาริมทรัพย์แห่งชาติของสหรัฐ (NAR) เปิดเผยว่า ดัชนีการทำสัญญาขายบ้านที่รอปิดการขาย (pending home sales) ลดลง 1.9% ในเดือนมิ.ย. เมื่อเทียบรายเดือน หลังพุ่งขึ้น 8.3% ในเดือนพ.ค.

นักวิเคราะห์คาดการณ์ก่อนหน้านี้ว่าดัชนีจะปรับตัวขึ้น 0.3% ในเดือนมิ.ย.

เมื่อเทียบรายปี ดัชนีร่วงลง 1.9% ในเดือนมิ.ย.

ดัชนีถูกกดดันจากสต็อกบ้านในระดับต่ำ ขณะที่ราคาบ้านพุ่งขึ้นเป็นประวัติการณ์

-- สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญวันนี้ ฝรั่งเศส เยอรมนี และยูโรโซน เตรียมรายงานผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ไตรมาส 2 เวลา 12.30 น. 15.00 น. และเวลา 16.00 น. ตามเวลาไทย ตามลำดับ

จากนั้นสหรัฐจะมีการรายงานรายได้และการใช้จ่ายส่วนบุคคลเดือนมิ.ย. และดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) เดือนมิ.ย. เวลา 19.30 น. ต่อด้วยความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนก.ค. จากมหาวิทยาลัยมิชิแกน เวลา 21.00 น.

-- ส่วนข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญพรุ่งนี้ สำนักงานสถิติแห่งชาติจีน (NBS) จะรายงานดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตและบริการเดือนก.ค. เวลา 08.00 น.


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ