นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า หุ้นบริษัทค้าปลีกของสหรัฐ ซึ่งรวมถึง วอลมาร์ท และแอมะซอน จะได้รับแรงหนุนจากยอดขายที่ฟื้นตัวขึ้นในช่วง back-to-school โดยโรงเรียนส่วนใหญ่ในสหรัฐจะกลับมาเปิดการเรียนการสอนในชั้นเรียนอีกครั้ง หลังจากที่ต้องเรียนทางไกลเป็นเวลานานหลายเดือนเนื่องจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19
ก่อนหน้านี้ บริษัทค้าปลีกรายใหญ่หลายแห่ง ซึ่งรวมถึง วอลมาร์ท, เมซีส์ และทาร์เก็ต เปิดเผยตัวเลขกำไรและรายได้ในไตรมาส 2 สูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ เนื่องจากยอดขายที่เพิ่มขึ้นในช่วง back-to-school นอกจากนี้ บริษัทค้าปลีกยังได้ปรับเพิ่มคาดการณ์ยอดขายตลอดปี 2564 ด้วย
ทั้งนี้ คาดว่ากระทรวงพาณิชย์สหรัฐจะเปิดเผยรายงานยอดค้าปลีกประจำเดือนส.ค.พุ่งขึ้นอย่างแข็งแกร่ง หลังจากที่ยอดค้าปลีกเดือนก.ค.ดิ่งลง 1.1% ซึ่งย่ำแย่กว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะลดลงเพียง 0.3%
ไมเคิล เจมส์ นักวิเคราะห์จากบริษัท Wedbush Securities กล่าวว่า นอกเหนือจากปัจจัย back-to-school แล้ว คาดว่ายอดค้าปลีกของสหรัฐจะฟื้นตัวขึ้นจากการที่รัฐบาลลดหย่อนภาษีสำหรับผู้ที่มีบุตร และมาตรการแจกเช็คเงินสดเพื่อช่วยเหลือครัวเรือนที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ซึ่งทำให้ผู้บริโภคมีเงินสดเหลือพอที่จะซื้อสิ่งของจำเป็นให้บุตรในช่วงเปิดเทอม
"นักลงทุนมีมุมมองเป็นบวกว่ายอดขายของบริษัทค้าปลีกในช่วง back-to-school จะแข็งแกร่งกว่าในปีที่แล้ว ซึ่งมุมมองดังกล่าวจะเป็นปัจจัยหนุนหุ้นกลุ่มค้าปลีกในตลาดหุ้นสหรัฐ" นายเจมส์กล่าว
โรงเรียนส่วนใหญ่ในสหรัฐจะกลับมาเปิดการเรียนการสอนในชั้นเรียนอีกครั้ง หลังจากที่ต้องเรียนทางไกลเป็นเวลานานหลายเดือนเนื่องจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 โดยโรงเรียนรัฐบาลในนครนิวยอร์กจะกลับมาเปิดการเรียนการสอนอีกครั้งในวันที่ 13 ก.ย.นี้ ส่วนโรงเรียนอีกหลายแห่งจะทยอยเปิดทำการหลังวันหยุดแรงงานของสหรัฐ