ชาวบ้านอินโดฯ เรียกร้องญี่ปุ่นยกเลิกโครงการสร้างโรงไฟฟ้า

ข่าวเศรษฐกิจ Friday April 1, 2016 17:00 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ชาวบ้านชาวอินโดนีเซียจำนวน 5 รายได้ออกมาเรียกร้องให้ญี่ปุ่นยกเลิกโครงการสร้างโรงไฟฟ้าพลังความร้อน 2,000 เมกาวัตต์ซึ่งเป็นโครงการหุ้นส่วนระหว่างญี่ปุ่นและอินโดนีเซีย มูลค่า 4 พันล้านดอลลาร์ โดยชี้ว่าโครงการดังกล่าวละเมิดสิทธิมนุษยชน ภายหลังจากรัฐบาลอินโดนีเซียใช้อำนาจยึดที่ดินของตนเองไป

นายฮาดี ปรียันโต หนึ่งในชาวบ้านที่อาศัยอยู่ในเขตบาตัง เกาะชวาตอนกลางได้กล่าวระหว่างการชุมนุมบริเวณหน้าสถานเอกอัครราชทูตญี่ปุ่น ณ กรุงจาการ์ตาว่า "การเวนคืนที่ดินนั้นขัดต่อหลักสิทธิมนุษยชน ทำให้การสรรหางบประมาณสำหรับโครงการดังกล่าวไม่สามารถดำเนินการได้มาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2554 "

โรงไฟฟ้าที่ใช้ถ่านหินเป็นเชื้อเพลิงแห่งนี้สร้างขึ้นเพื่อรองรับการใช้ไฟฟ้าของผู้คนราว 13 ล้านคนบนเกาะชวาตอนกลาง และได้รับการสนับสนุนจากบริษัท พีที บีมาเซนาพาวเวอร์อินโดนีเซีย ซึ่งเป็นหุ้นส่วนกับบริษัท เจแปนส์ อิเล็กทริก พาวเวอร์ดีเวลลอป (เจ-พาวเวอร์), บริษัท อีโตชู, และบริษัท อาดาโร ซึ่งเป็นบริษัทเหมืองแร่ถ่านหินในประเทศอินโดนีเซีย

การก่อสร้างโรงไฟฟ้าพลังงานความร้อนที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้แห่งนี้ เดิมทีจะเริ่มสร้างในปี พ.ศ. 2555 และมีแผนกำหนดจ่ายไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ในปี พ.ศ. 2559

อย่างไรก็ตาม การจัดหาที่ดินเพื่อดำเนินโครงการต้องล่าช้า เนื่องจากมีความจำเป็นต้องเจรจากับชาวบ้านในพื้นที่ที่กังวลเกี่ยวกับผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมที่มาจากโรงงานไฟฟ้า

เมื่อวันที่ 30 มิ.ย. 2558 รัฐบาลระดับมลฑลของเกาะชวากลางได้ประกาศให้บริษัทผลิตกระแสไฟฟ้าของรัฐ หรือ พีเอ็นแอล มีอำนาจในการยึดที่ดินของผู้ที่อยู่ในพื้นที่ที่จะสร้างโรงไฟฟ้า ภายหลังจากชาวบ้านที่ครองกรรมสิทธิ์ที่ดินกว่า 12.51 เฮกตาร์ปฏิเสธที่จะขายพื้นที่บริเวณดังกล่าวให้รัฐบาล

โครงการนี้ มีอาณาบริเวณกว่า 226 เฮกตาร์ ครอบคลุม 3 ตำบลในเขตบาตังของเกาะชวาตอนกลาง


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ