สัญญาทองแดงตลาดนิวยอร์กปิดบวกในวันพุธ (12 พ.ย.) ขานรับความหวังสหรัฐฯ ใกล้ยุติภาวะปิดหน่วยงานรัฐบาล หรือชัตดาวน์ ขณะที่นักลงทุนกำลังจับตาข้อมูลสินเชื่อจากจีน ซึ่งเป็นผู้ใช้ทองแดงรายใหญ่ที่สุดของโลก เพื่อประเมินทิศทางความต้องการในอนาคต
สัญญาทองแดงตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 3.95 เซนต์ หรือ +0.78% ปิดที่ 5.1055 ดอลลาร์/ปอนด์
สภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ เตรียมลงมติร่างกฎหมายงบประมาณชั่วคราวในวันพุธตามเวลาสหรัฐฯ หรือตรงกับช่วงเช้าของวันนี้ (13 พ.ย.) ตามเวลาไทย เพื่อยุติการชัตดาวน์หน่วยงานของรัฐบาลที่ยาวนานที่สุดในประวัติศาสตร์ของสหรัฐฯ โดยการผ่านร่างกฎหมายฉบับนี้จะทำให้รัฐบาลมีเงินทุนสนับสนุนโครงการต่าง ๆ ที่หยุดชะงักไปก่อนหน้านี้ ซึ่งรวมถึงโครงการอาหารและระบบควบคุมการจราจรทางอากาศ ตลอดจนสามารถจ่ายเงินเดือนให้กับเจ้าหน้าที่รัฐบาลกลางหลายแสนคน
ทั้งนี้ หากสภาผู้แทนราษฎรลงมติอนุมัติร่างกฎหมายดังกล่าว ก็จะส่งต่อไปยังประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เพื่อลงนามบังคับใช้เป็นกฎหมาย
ร่างกฎหมายฉบับดังกล่าว ผ่านความเห็นชอบจากวุฒิสภาเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา (10 พ.ย.) ด้วยคะแนนเสียง 60-40 โดยได้รับเสียงสนับสนุนจากพรรคเดโมแครตจำนวน 8 เสียง
บรรดาเทรดเดอร์มองว่า การที่หน่วยงานรัฐบาลจะกลับมาเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจได้ตามปกติ จะช่วยให้นักลงทุนและธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ประเมินภาพรวมเศรษฐกิจได้ชัดเจนขึ้น ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยพยุงราคาทองแดงในสัปดาห์นี้
นอกจากนี้ การตัดสินใจเรื่องอัตราดอกเบี้ยของเฟดจะส่งผลโดยตรงต่อทิศทางค่าเงินดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งหากเงินดอลลาร์อ่อนค่าลง ก็จะทำให้ทองแดงที่ซื้อขายในสกุลดอลลาร์มีราคาถูกลงสำหรับผู้ที่ถือสกุลเงินอื่น
อย่างไรก็ตาม ตลาดยังคงมีปัจจัยกดดันจากฝั่งจีน หลังมีการคาดการณ์ว่าตัวเลขการปล่อยสินเชื่อของธนาคารอาจชะลอตัวลง เช่นเดียวกับยอดการจัดหาเงินทุนทางสังคม (Total Social Financing) ที่คาดว่าจะลดลง ซึ่งล้วนเป็นข้อมูลที่นักวิเคราะห์ใช้ประเมินความต้องการใช้โลหะในจีน