ภาวะการซื้อขายในตลาดสินค้าโภคภัณฑ์ CBOT ในวันอังคาร (10 มิ.ย.) สัญญาข้าวสาลีปิดลบ ขณะที่สัญญาข้าวโพดและถั่วเหลืองปรับตัวขึ้น
ทั้งนี้ สัญญาข้าวโพดส่งมอบเดือนก.ค. เพิ่มขึ้น 5.25 เซนต์ หรือ 1.21% ปิดที่ 4.3875 ดอลลาร์/บุชเชล, สัญญาข้าวสาลีส่งมอบเดือนก.ค. ลดลง 7.50 เซนต์ หรือ1.38% ปิดที่ 5.3450 ดอลลาร์/บุชเชล และสัญญาถั่วเหลืองส่งมอบเดือนก.ค. เพิ่มขึ้น 1.75 เซนต์ หรือ 0.17% ปิดที่ 10.5775 ดอลลาร์/บุชเชล
สัญญาข้าวสาลีปรับตัวลงแตะระดับต่ำสุดในรอบกว่าหนึ่งสัปดาห์ โดยเทรดเดอร์ระบุว่า การปรับตัวดีขึ้นของคุณภาพพืชผลในสหรัฐฯ และแรงกดดันตามฤดูกาล ได้บดบังปัจจัยบวกจากความล่าช้าในช่วงเริ่มต้นการเก็บเกี่ยวและภัยแล้งในรัสเซีย ส่วนสัญญาข้าวโพดดีดตัวขึ้นจากระดับต่ำสุดในรอบหลายเดือน ขณะที่สัญญาถั่วเหลืองปรับตัวขึ้นเช่นกัน
สัญญาข้าวสาลีร่วงลงหลังจากกระทรวงเกษตรสหรัฐฯ (USDA) ปรับเพิ่มอันดับคุณภาพของพืชผลข้าวสาลีฤดูใบไม้ผลิและฤดูหนาวมากกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาด โดยข้าวสาลีฤดูใบไม้ผลิได้รับการจัดอันดับให้อยู่ในเกณฑ์ดีถึงดีมากที่ 53% เพิ่มจาก 50% ในสัปดาห์ก่อน ขณะที่ข้าวสาลีฤดูหนาวดีขึ้น 2 จุดเป็น 54%
การปรับดีขึ้นดังกล่าวสะท้อนศักยภาพผลผลิตที่เพิ่มขึ้น ซึ่งบดบังความกังวลเรื่องความล่าช้าในการเก็บเกี่ยวข้าวสาลีฤดูหนาวของสหรัฐฯ ที่เพิ่งเริ่มต้นเพียง 4% เทียบกับค่าเฉลี่ย 5 ปีที่ 7%
ด้านรัสเซียซึ่งเป็นผู้ส่งออกข้าวสาลีรายใหญ่ที่สุดของโลก ภูมิภาครอสตอฟซึ่งเป็นแหล่งผลิตธัญพืชหลัก ได้ประกาศภาวะฉุกเฉินทางการเกษตรในบางพื้นที่ที่เผชิญภัยแล้ง อย่างไรก็ตาม รองนายกรัฐมนตรี ดมิทรี พาทรูเชฟ ระบุผ่านสำนักข่าวอินเตอร์แฟกซ์ว่าผลผลิตธัญพืชของรัสเซียในปี 2025 คาดว่าจะอยู่ที่ 135 ล้านตัน มากกว่าปีที่แล้วที่ 130 ล้านตัน
สัญญาถั่วเหลืองปรับตัวขึ้นเล็กน้อย โดยได้รับแรงหนุนจากความหวังในการแก้ไขข้อพิพาทภาษีระหว่างจีนและสหรัฐฯ ซึ่งเป็นประเทศผู้นำเข้าและผู้ส่งออกอันดับ 1 และ 2 ตามลำดับ โดยคณะเจรจาสหรัฐฯ ระบุว่า การเจรจาที่กรุงลอนดอนมีความคืบหน้า