ราคาน้ำมัน WTI ดิ่งลงกว่า 2% หลุดระดับ 62 ดอลลาร์ หลังสหรัฐเปิดเผยตัวเลขการจ้างงานที่ซบเซา ซึ่งบ่งชี้ถึงการชะลอตัวทางเศรษฐกิจ และอุปสงค์ที่ลดลงในตลาดน้ำมัน
ณ เวลา 22.15 น.ตามเวลาไทย ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ส่งมอบเดือนต.ค. ลบ 1.71 ดอลลาร์ หรือ 2.70% สู่ระดับ 61.77 ดอลลาร์/บาร์เรล
กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรเพิ่มขึ้นเพียง 22,000 ตำแหน่งในเดือนส.ค. ต่ำกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 75,000 ตำแหน่ง หลังจากเพิ่มขึ้น 79,000 ตำแหน่งในเดือนก.ค.
ส่วนอัตราการว่างงานเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 4.3% จากระดับ 4.2% ในเดือนก.ค.
นอกจากนี้ ราคาน้ำมันยังได้รับผลกระทบจากการที่สหรัฐเปิดเผยสต็อกน้ำมันดิบเพิ่มขึ้นในสัปดาห์ที่แล้ว และการคาดการณ์ที่ว่ากลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) และชาติพันธมิตร หรือโอเปกพลัส จะปรับเพิ่มกำลังการผลิตน้ำมันในการประชุมวันอาทิตย์ที่ 7 ก.ย.
ทั้งนี้ สมาชิก 8 ชาติของกลุ่มโอเปกพลัส ได้แก่ ซาอุดีอาระเบีย รัสเซีย สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ คูเวต โอมาน อิรัก คาซัคสถาน และแอลจีเรีย จะจัดการประชุมผ่านระบบออนไลน์ในวันอาทิตย์นี้เพื่อพิจารณาเพิ่มกำลังการผลิตน้ำมันในเดือนต.ค.
ในการประชุมครั้งล่าสุดในเดือนส.ค. สมาชิก 8 ชาติของโอเปกพลัสมีมติเพิ่มกำลังการผลิตน้ำมัน 547,000 บาร์เรล/วันในเดือนก.ย.
โอเปกพลัสได้ปรับลดกำลังการผลิตต่อเนื่องเป็นเวลาหลายปีเพื่อพยุงราคาน้ำมันในตลาด แต่ในปีนี้ โอเปกพลัสได้เริ่มเปลี่ยนแปลงท่าทีเพื่อกลับมาแย่งชิงส่วนแบ่งในตลาดอีกครั้ง โดยได้เริ่มปรับเพิ่มกำลังการผลิตในเดือนเม.ย.ภายใต้แรงกดดันจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ที่ได้เรียกร้องให้โอเปกปรับเพิ่มกำลังการผลิตเพื่อช่วยควบคุมราคาน้ำมันในตลาด