สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงติดต่อกันเป็นวันที่สองในวันพฤหัสบดี (10 มี.ค.) หลังจากรัสเซียให้คำมั่นว่าจะยังคงจัดส่งน้ำมันตามที่ตกลงไว้กับบรรดาผู้ซื้อ นอกจากนี้ การส่งสัญญาณที่สับสนของเจ้าหน้าที่ระดับสูงของสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (UAE) ยังส่งผลให้ภาวะการซื้อขายในตลาดน้ำมันเป็นไปอย่างผันผวน
ทั้งนี้ สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนเม.ย. ลดลง 2.68 ดอลลาร์ หรือ 2.5% ปิดที่ 106.02 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนพ.ค. ลดลง 1.81 ดอลลาร์ หรือ 1.6% ปิดที่ 109.33 ดอลลาร์/บาร์เรล
ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ผู้นำรัสเซีย ได้กล่าวในการประชุมวานนี้ว่า รัสเซียจะยังคงดำเนินการตามพันธกรณีในการจัดส่งน้ำมันให้กับกลุ่มผู้ซื้อ โดยรัสเซียเป็นผู้จัดหาก๊าซธรรมชาติให้กับยุโรปในสัดส่วน 1 ใน 3 และจัดหาน้ำมันให้กับยุโรปในอัตราส่วน 7% ของปริมาณน้ำมันทั่วโลก
ทางด้านนายเซอร์เก ลาฟรอฟ รมว.ต่างประเทศรัสเซียกล่าวว่า รัสเซียไม่วิตกกังวลต่อการที่สหรัฐและชาติตะวันตกคว่ำบาตรการนำเข้าน้ำมันและก๊าซธรรมชาติจากรัสเซีย เนื่องจากยังคงมีหลายประเทศที่ต้องการซื้อพลังงานจากรัสเซีย และรัสเซียจะไม่วิงวอนให้ชาติตะวันตกซื้อน้ำมันและก๊าซ เนื่องจากรัสเซียมีตลาดอื่นอยู่แล้ว
ภาวะการซื้อขายในตลาดน้ำมันเป็นไปอย่างผันผวน หลังจากเจ้าหน้าที่ระดับสูงของ UAE ส่งสัญญาณที่สับสนเกี่ยวกับจุดยืนด้านการผลิต โดยนายยูซุฟ อัล โอไทบา เอกอัครราชทูตของ UAE ประจำสหรัฐกล่าวว่า UAE สนับสนุนให้กลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) และชาติพันธมิตร หรือโอเปกพลัส เพิ่มการผลิตน้ำมันเพื่อแก้ไขภาวะน้ำมันตึงตัว อันเนื่องจากการที่รัสเซียถูกนานาชาติคว่ำบาตร
อย่างไรก็ดี นายซูฮาอิล อัล-มาซโรอี รัฐมนตรีพลังงานของ UAE ได้ปฏิเสธคำกล่าวของนายโอไทบาในเวลาต่อมา โดยยืนยันว่า UAE จะยังคงยึดมั่นตามมติของโอเปกพลัส และมีเพียงกระทรวงพลังงานของ UAE เท่านั้นที่มีหน้าที่รับผิดชอบต่อนโยบายน้ำมันของประเทศ