ปากีสถานดำเนินการทดสอบขีปนาวุธครั้งที่ 2 ในรอบ 3 วันในวันจันทร์ (5 พ.ค.) ขณะที่อินเดียสั่งการให้หลายรัฐดำเนินการฝึกซ้อมรับมือด้านความปลอดภัยท่ามกลางความกังวลว่าทั้งสองชาติจะปะทะกันจากเหตุโจมตีในแคชเมียร์
ความสัมพันธ์ระหว่างปากีสถานและอินเดียย่ำแย่ลงอย่างมากหลังจากเกิดเหตุคนร้ายกราดยิงนักท่องเที่ยวชาวฮินดูในแคชเมียร์ฝั่งอินเดียเมื่อวันที่ 22 เม.ย. ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตถึง 26 ราย ซึ่งถือเป็นเหตุโจมตีพลเรือนที่รุนแรงที่สุดในอินเดียในรอบเกือบ 20 ปี
อินเดียกล่าวหาว่าปากีสถานอยู่เบื้องหลังการโจมตี แต่ทางการปากีสถานปฏิเสธ พร้อมระบุว่าพวกเขามีข้อมูลข่าวกรองว่าอินเดียอาจเตรียมใช้ปฏิบัติการทางทหารโจมตีปากีสถานในเร็ว ๆ นี้
เชห์บาซ ชารีฟ นายกรัฐมนตรีปากีสถานระบุว่า ความสำเร็จในการทดสอบยิงขีปนาวุธแสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่า การป้องกันของปากีสถานมีความแข็งแกร่ง ขณะที่อัตตูลลาห์ ทาราร์ รัฐมนตรีกระทรวงข้อมูลข่าวสารปากีสถานเผยว่า ขณะนี้ทั้งสองประเทศไม่มีช่องทางการสื่อสารอย่างเป็นทางการระหว่างกัน
ด้านกระทรวงมหาดไทยอินเดียได้ขอให้รัฐต่าง ๆ จัดการฝึกซ้อมรับมือสถานการณ์ฉุกเฉินในวันที่ 7 พ.ค. ซึ่งจะรวมถึงการเปิดสัญญาณเตือนภัยทางอากาศ การซ้อมอพยพประชาชน และการฝึกอบรมวิธีรับมือในกรณีถูกโจมตี
ความขัดแย้งในแคชเมียร์ได้ลุกลามไปสู่มาตรการตอบโต้ทางการทูตและเศรษฐกิจ โดยอินเดียได้ระงับข้อตกลงสำคัญว่าด้วยการแบ่งปันน้ำในแม่น้ำสินธุ ขณะที่ปากีสถานปิดน่านฟ้าห้ามเครื่องบินอินเดียผ่าน นอกจากนี้ ทั้งสองฝ่ายยังใช้อาวุธขนาดเล็กยิงตอบโต้กันบริเวณแนวหน้าของแคชเมียร์ด้วย
ทั้งนี้ มูดี้ส์ ซึ่งเป็นบริษัทจัดอันดับความน่าเชื่อถือเตือนว่า สถานการณ์ตึงเครียดอาจทำให้การปฏิรูปเศรษฐกิจของปากีสถานล่าช้า ขณะที่มหาอำนาจระดับโลกต่างเรียกร้องให้แต่ละฝ่ายใจเย็น