กองทัพอิสราเอลแถลงเมื่อค่ำวันอังคาร (13 พ.ค.) ว่า สามารถสกัดขีปนาวุธที่ถูกยิงมาจากเยเมนได้ ท่ามกลางสถานการณ์ที่กลุ่มฮูตีในเยเมนกลับมาเปิดฉากโจมตีข้ามพรมแดนอีกครั้ง
ผู้สื่อข่าวของสำนักข่าวซินหัวในกรุงเยรูซาเล็มรายงานว่า ได้ยินเสียงระเบิดดังขึ้นหลายครั้ง หลังจากสัญญาณเตือนภัยทางอากาศดังลั่นไปทั่วภาคกลางของอิสราเอล รวมถึงกรุงเทลอาวีฟ
ชาวอิสราเอลในหลายพื้นที่ภาคกลางได้รับข้อความแจ้งเตือนทางสมาร์ตโฟนไม่นานหลังการยิง จากนั้นไม่กี่นาที สัญญาณเตือนภัยก็ดังขึ้น ทำให้ผู้คนนับล้านต้องรีบหาที่หลบภัยกันจ้าละหวั่น
ทางด้านหน่วยบริการการแพทย์ฉุกเฉินของอิสราเอล "มาเกน เดวิด อาดอม" (Magen David Adom) เปิดเผยว่า มีผู้หญิง 2 คนได้รับบาดเจ็บปานกลางและเล็กน้อยขณะพยายามวิ่งเข้าที่หลบภัย
ในเบื้องต้น กลุ่มฮูตียังไม่ได้ออกมาอ้างความรับผิดชอบใด ๆ
สื่ออิสราเอลรายงานว่า นับตั้งแต่อิสราเอลกลับมาเปิดปฏิบัติการทางทหารในฉนวนกาซาอีกครั้งเมื่อวันที่ 18 มี.ค. กลุ่มฮูตีได้ยิงขีปนาวุธมาแล้วเกือบ 30 ลูก และส่งโดรนโจมตีดินแดนอิสราเอลอีกหลายสิบลำ
การโจมตีครั้งล่าสุดนี้เกิดขึ้นเพียงหนึ่งวันหลังจากมีรายงานว่ากลุ่มฮูตียิงขีปนาวุธถี่ขึ้น โดยมีลูกหนึ่งตกนอกอาณาเขตอิสราเอลเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา (12 พ.ค.)
สถานการณ์ที่ตึงเครียดขึ้นนี้เกิดขึ้นแม้ว่าสหรัฐฯ และกลุ่มฮูตีเพิ่งจะบรรลุข้อตกลงหยุดยิงเมื่อวันที่ 6 พ.ค. โดยมีโอมานเป็นคนกลาง เพื่อหวังจะยุติการโจมตีตอบโต้กันที่ดำเนินมานานหลายสัปดาห์ อย่างไรก็ตาม แม้จะมีข้อตกลงดังกล่าว ผู้นำกลุ่มฮูตียังคงประกาศกร้าวว่าจะเดินหน้าโจมตีอิสราเอลต่อไป จนกว่าอิสราเอลจะยุติปฏิบัติการทางทหารในกาซาและยกเลิกการปิดล้อมพื้นที่ดังกล่าว