ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐฯ กล่าวเมื่อวันเสาร์ (17 พ.ค.) ว่า เขาจะพูดคุยกับประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูตินของรัสเซีย และประธานาธิบดีโวโลดิเมียร์ เซเลนสกีของยูเครน ในวันจันทร์นี้ เพื่อผลักดันข้อตกลงหยุดยิงระหว่างทั้งสองประเทศ
"ผมจะโทรศัพท์คุยกับประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูตินของรัสเซียในวันจันทร์ เวลา 10.00 น." ทรัมป์โพสต์ข้อความบนทรูธโซเชียล และเสริมว่าหัวข้อของการหารือครั้งนี้คือหยุดการนองเลือดที่คร่าชีวิตทหารรัสเซียและยูเครนเฉลี่ยมากกว่า 5,000 นายต่อสัปดาห์ รวมทั้งจะพูดคุยเรื่องการค้าด้วย
ทรัมป์กล่าวต่อไปว่า "จากนั้นจะเป็นการพูดคุยกับประธานาธิบดีเซเลนสกีของยูเครน และต่อด้วยการคุยกับสมาชิกนาโตหลายประเทศ ร่วมกับประธานาธิบดีเซเลนสกี" พร้อมแสดงความหวังว่า "การหยุดยิงจะเกิดขึ้น"
ทั้งนี้ คณะผู้แทนรัสเซียและยูเครนเสร็จสิ้นการเจรจาสันติภาพที่กรุงอิสตันบูลของตุรกีเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นการเจรจาโดยตรงของทั้งสองฝ่ายเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 2565 ผลลัพธ์ที่สำคัญของการเจรจาซึ่งกินเวลาราวสองชั่วโมงคือ ที่ประชุมสามารถบรรลุข้อตกลงในการแลกเปลี่ยนนักโทษฝ่ายละ 1,000 คน โดยจะมีการกำหนดวันที่จะดำเนินการในเวลาต่อไป
อย่างไรก็ดี นอกจากการแลกเปลี่ยนนักโทษแล้ว รัสเซียและยูเครนยังคงไร้ความคืบหน้าในการลดความขัดแย้งของทั้งสองฝ่าย
แหล่งข่าวจากยูเครนเปิดเผยว่า ข้อเรียกร้องของรัสเซียไม่สอดคล้องกับความเป็นจริง และไกลเกินกว่าสิ่งที่มีการหารือกันในอดีต ซึ่งรวมถึงการยื่นคำขาดให้ยูเครนถอนตัวจากดินแดนบางส่วนของยูเครนเองเพื่อให้มีการหยุดยิง และการตั้งเงื่อนไขที่ไม่สร้างสรรค์
ก่อนหน้านี้ เจ้าหน้าที่รัสเซียและยูเครนเคยเจรจากันโดยตรงที่กรุงอิสตันบูลในเดือนมี.ค.2565 หลังจากที่รัสเซียใช้ปฏิบัติการพิเศษทางทหารโจมตียูเครนในเดือนก.พ.2565 แต่การเจรจาครั้งนั้นประสบความล้มเหลวและไม่สามารถนำไปสู่การยุติสงครามได้