รัฐบาลญี่ปุ่นกำลังพิจารณาการส่งออกเรือพิฆาตมือสองของกองกำลังป้องกันตนเองทางทะเล (Maritime Self-Defense Force) ให้กับฟิลิปปินส์ โดยญี่ปุ่นและฟิลิปปินส์ซึ่งต่างก็เป็นชาติพันธมิตรที่สำคัญของสหรัฐฯ กำลังกระชับความร่วมมือด้านความมั่นคง ในช่วงเวลาที่จีนเริ่มแผ่ขยายอิทธิลทางทะเลอย่างแข็งกร้าว
สำนักข่าวเกียวโดรายงานโดยอ้างอิงแหล่งข่าวจากรัฐบาลญี่ปุ่นว่า เก็น นาคาทานิ รัฐมนตรีกลาโหมญี่ปุ่น และกิลแบร์โต เตโอโดโร รัฐมนตรีกลาโหมฟิลิปปินส์ ได้หารือถึงแผนการดังกล่าวเมื่อทั้งสองพบปะกันที่ประเทศสิงคโปร์ในเดือนมิ.ย.
สำหรับหลักการของญี่ปุ่นเกี่ยวกับการถ่ายโอนยุทโธปกรณ์ป้องกันประเทศและเทคโนโลยีให้กับต่างประเทศนั้น จะจำกัดการส่งออกอาวุธร้ายแรงภายใต้รัฐธรรมนูญที่ไม่ฝักใฝ่สงคราม อย่างไรก็ตาม ข้อห้ามนี้ไม่รวมถึงโครงการพัฒนาร่วมหรือการผลิตร่วมกับประเทศอื่น
แหล่งข่าวระบุว่า รัฐบาลญี่ปุ่นคาดว่าการส่งออกเรือพิฆาตมือสองให้กับฟิลิปปินส์นั้น จะได้รับการพิจารณาว่าเป็นการ "พัฒนาร่วม" เนื่องจากจะมีการปรับแต่งเรือให้ตรงกับความต้องการของฟิลิปปินส์ แม้ว่าเรือพิฆาตนี้จะมีขีดความสามารถในการโจมตีอย่างร้ายแรงก็ตาม
สำหรับเรือพิฆาตที่อยู่ระหว่างการพิจารณาเพื่อการส่งออกคือ เรือพิฆาตชั้นอาบูกุมะ (Abukuma-class) ขนาด 2,000 ตัน ซึ่งเข้าประจำการระหว่างปี 2532-2536 โดยตัวเรือมีความยาว 109 เมตร ติดตั้งขีปนาวุธต่อต้านเรือและปืนใหญ่ยิงเร็ว และมีลูกเรือในการปฏิบัติหน้าที่ราว 120 นาย
ข้อมูลจาก "โครงการเสริมสร้างกำลังป้องกันประเทศของญี่ปุ่น (Japan's Defense Buildup Program) ซึ่งจัดทำขึ้นในปี 2565 ระบุว่า ญี่ปุ่นมีแผนที่จะปลดระวาง "เรือที่ประจำการมาเป็นเวลานานและมีข้อจำกัดในการเพิ่มขีดความสามารถ" ในระยะแรก
ญี่ปุ่นและฟิลิปปินส์ได้เพิ่มความร่วมมือด้านความมั่นคงในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ท่ามกลางความตึงเครียดที่ทวีความรุนแรงขึ้นในทะเลจีนใต้ ในขณะที่ข้อพิพาทด้านดินแดนระหว่างฟิลิปปินส์และจีนยังคงดำเนินอยู่