ผลสำรวจทางโทรศัพท์ทั่วประเทศหลังการเลือกตั้งหัวหน้าพรรคเสรีประชาธิปไตย (LDP) ซึ่งเป็นพรรครัฐบาลของญี่ปุ่น เปิดเผยเมื่อวันจันทร์ (6 ต.ค.) ว่า ผู้ตอบแบบสอบถาม 68.4% ตั้งความหวังไว้สูงกับซานาเอะ ทาคาอิจิ หัวหน้าพรรคคนใหม่
สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า ชัยชนะในศึกเลือกตั้งหัวหน้าพรรคเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา (4 ต.ค.) ส่งผลให้ทาคาอิจิ สส. อาวุโสสายอนุรักษนิยมเข้มข้นวัย 64 ปี มีแนวโน้มจะได้รับการแต่งตั้งจากรัฐสภาให้ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีคนต่อไปในช่วงปลายเดือนนี้ และจะกลายเป็นนายกรัฐมนตรีหญิงคนแรกของญี่ปุ่น
ผลสำรวจระบุว่า 53.6% ของผู้ตอบแบบสอบถามมองว่า ความสัมพันธ์ระหว่างญี่ปุ่นกับจีนจะแย่ลงหลังจากทาคาอิจิเข้ารับตำแหน่งต่อจากนายกรัฐมนตรีชิเงรุ อิชิบะ ที่กำลังจะพ้นจากตำแหน่ง
ทาคาอิจิเป็นที่รู้จักในฐานะผู้สนับสนุนนโยบายการเงินแบบผ่อนคลาย และได้กล่าวว่าพร้อมจะใช้มาตรการต่าง ๆ เช่น ลดหย่อนภาษีเพื่อบรรเทาผลกระทบจากค่าครองชีพที่สูงขึ้น รวมถึงออกกฎระเบียบที่เข้มงวดขึ้นเกี่ยวกับการถือครองที่ดินของชาวต่างชาติที่ไม่ใช่ผู้มีถิ่นพำนักถาวร และปัญหาการอยู่เกินกำหนดวีซ่า
อย่างไรก็ตาม เธอเป็นที่รู้จักว่ามีมุมมองด้านความมั่นคงที่แข็งกร้าวเช่นเดียวกับอดีตนายกรัฐมนตรีชินโซ อาเบะ ผู้ล่วงลับ นอกจากนี้ การไปเยือนศาลเจ้ายาสุกุนิเป็นครั้งคราวของเธอก็ได้สร้างเสียงวิพากษ์วิจารณ์จากประเทศเพื่อนบ้านในเอเชีย เนื่องจากศาลเจ้าดังกล่าวเป็นสถานที่รำลึกถึงทหารผ่านศึก รวมถึงอาชญากรสงครามที่ถูกตัดสินว่ามีความผิด จึงเป็นประเด็นที่สร้างความขัดแย้งมาโดยตลอด
ทั้งนี้ ผลสำรวจที่จัดทำเป็นเวลา 3 วันสิ้นสุดเมื่อวันจันทร์ยังพบว่า 25.5% ของผู้ตอบแบบสอบถามไม่คาดหวังในตัวเธอ ขณะที่ 77.5% คัดค้านหากเธอจะแต่งตั้งสส. ที่พัวพันกับข่าวฉาวเรื่องกองทุนส่วยการเมืองของพรรค LDP ให้ดำรงตำแหน่งในคณะผู้บริหารพรรคหรือรัฐมนตรี