การประชุมสุดยอดสมาคมประชาชาติแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (อาเซียน) ครั้งที่ 47 และการประชุมที่เกี่ยวข้อง ได้ปิดฉากลงแล้วในวันนี้
นายอันวาร์ อิบราฮิม นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ซึ่งดำรงตำแหน่งประธานอาเซียนในปีนี้ กล่าวในพิธีปิดการประชุมว่า "เราได้รื้อฟื้นการเจรจา สร้างสะพานเชื่อมใหม่ ๆ และพิสูจน์ให้เห็นว่า กลไกของอาเซียนยังคงทำงานได้เมื่อดำเนินการด้วยความอดทนและเหตุผล ขณะที่ความเป็นกลางของอาเซียนยังคงดำเนินต่อไปอย่างมั่นคง"
ทั้งนี้ ผู้นำระดับโลกหลายคนได้เข้าร่วมการประชุมสุดยอดอาเซียนครั้งที่ 47 อาทิ ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐ, นายหลี่ เฉียง นายกรัฐมนตรีจีน, ประธานาธิบดี ลูอิซ อินาซิโอ ลูลา ดา ซิลวา ผู้นำบราซิล, ประธานาธิบดีไซริล รามาโฟซา ผู้นำแอฟริกาใต้, นายมาร์ก คาร์นีย์ นายกรัฐมนตรีแคนาดา, นางซานาเอะ ทาคาอิจิ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น, ประธานาธิบดี อี แจ-มยอง ผู้นำเกาหลีใต้, นายแอนโทนี อัลบานีส นายกรัฐมนตรีออสเตรเลีย, นายอันโตนิโอ กูเตอร์เรส เลขาธิการสหประชาชาติ รวมทั้งตัวแทนจากกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) และธนาคารโลก
ความสำเร็จสำคัญของการประชุมครั้งนี้คือ การรับติมอร์-เลสเตเข้าเป็นสมาชิกอาเซียนอย่างเป็นทางการในฐานะประเทศสมาชิกที่ 11, พิธีลงนามในปฏิญญาปูทางสู่สันติภาพระหว่างไทย-กัมพูชา โดยมีปธน.ทรัมป์และนายอันวาร์เป็นสักขีพยาน และการลงนามในพิธีสารยกระดับความตกลงการค้าเสรีอาเซียน-จีน (ACFTA) 3.0
ในพิธีปิดการประชุมในวันนี้ นายอันวาร์ได้มอบค้อนประธานให้แก่นายเฟอร์ดินาน มาร์กอส จูเนียร์ ประธานาธิบดีฟิลิปปินส์ เพื่อเป็นสัญลักษณ์ในการส่งมอบตำแหน่งประธานอาเซียนปี 2026 ให้แก่ฟิลิปปินส์