ทำเนียบขาวยัน สหรัฐฯ ทำถูกกฎหมายปมถล่มเรือเวเนฯ ชี้ "เฮกเซธ" ไฟเขียวสั่งการ

ข่าวต่างประเทศ Tuesday December 2, 2025 09:32 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ทำเนียบขาวแถลงปกป้องปฏิบัติการของกองทัพเรือสหรัฐฯ กรณีโจมตีเรือขนยาเสพติดของเวเนซุเอลาหลายระลอกเมื่อเดือนก.ย. ระบุ พีท เฮกเซธ รัฐมนตรีกลาโหมเป็นผู้อนุมัติ และเป็นการกระทำที่ชอบด้วยกฎหมาย ท่ามกลางเสียงวิจารณ์หนักเรื่องคำสั่งสังหารผู้รอดชีวิต

คาโรไลน์ เลวิตต์ โฆษกทำเนียบขาว แถลงเมื่อวันจันทร์ (1 ธ.ค.) ว่า เฮกเซธได้อนุมัติให้พลเรือเอกแฟรงก์ แบรดลีย์ ปฏิบัติการโจมตีเมื่อวันที่ 2 ก.ย.จริง โดยยืนยันว่า พล.ร.อ. แบรดลีย์ปฏิบัติหน้าที่ตามอำนาจและกฎหมายการปะทะ และการโจมตีดังกล่าวถือเป็น "การป้องกันตัว" ในน่านน้ำสากล เพื่อรักษาผลประโยชน์ของสหรัฐฯ เนื่องจากรัฐบาลได้ขึ้นบัญชีกลุ่มค้ายาเสพติดเหล่านี้เป็นองค์กรก่อการร้ายต่างชาติแล้ว

"ท่านรัฐมนตรีเฮกเซธอนุมัติให้พลเรือเอกแบรดลีย์ใช้กำลังเข้าจัดการ ... เพื่อให้แน่ใจว่าจะทำลายเรือและขจัดภัยคุกคามต่อสหรัฐอเมริกาได้สิ้นซาก" เลวิตต์ระบุ

ประเด็นดังกล่าวกลายเป็นข้อถกเถียงรุนแรง หลังหนังสือพิมพ์วอชิงตันโพสต์รายงานว่า มีการสั่งโจมตีซ้ำเพื่อสังหารผู้รอดชีวิต 2 คนจากระลอกแรก เพื่อสนองคำสั่งของเฮกเซธที่ต้องการให้สังหารทุกคน

ด้านประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ กล่าวว่า ตนคงไม่ต้องการให้มีการโจมตีเรือซ้ำ และอ้างว่าเฮกเซธปฏิเสธว่าไม่เคยออกคำสั่งดังกล่าว

อย่างไรก็ตาม บนแพลตฟอร์มเอ็กซ์ เฮกเซธกลับโพสต์ข้อความยกย่องพล.ร.อ. แบรดลีย์ว่าเป็น "วีรบุรุษอเมริกัน" และยืนยันสนับสนุนการตัดสินใจสู้รบของแบรดลีย์ "ทั้งในภารกิจวันที่ 2 ก.ย. และภารกิจอื่น ๆ หลังจากนั้นทั้งหมด"

ข้อมูลระบุว่า นับตั้งแต่เดือนก.ย. กองทัพสหรัฐฯ โจมตีเรือต้องสงสัยขนยาเสพติดในแถบแคริบเบียนและแปซิฟิกไปแล้วอย่างน้อย 19 ครั้ง มีผู้เสียชีวิตกว่า 76 ราย ซึ่งสร้างความกังขาแก่นักวิจารณ์และสมาชิกรัฐสภาจากทั้งสองพรรคถึงความถูกต้องตามกฎหมาย

ในประเด็นข้อกฎหมาย ผู้เชี่ยวชาญชี้ว่าตามหลักมนุษยธรรมระหว่างประเทศและคู่มือกฎหมายสงครามของสหรัฐฯ เอง ห้ามจงใจโจมตีผู้ประสบภัยเรือแตกที่หมดทางสู้ และต้องให้การดูแลทางการแพทย์

ลอรา ดิกคินสัน ศาสตราจารย์ด้านกฎหมายจากมหาวิทยาลัยจอร์จวอชิงตัน ให้ความเห็นว่า เหตุการณ์นี้ไม่น่าจะเข้าข่ายการขัดกันด้วยอาวุธ ซึ่งหากเป็นเช่นนั้น "เรื่องนี้ถือเป็นฆาตกรรม" หรือต่อให้เป็นภาวะสงคราม การสังหารผู้รอดชีวิต "ก็น่าจะถือเป็นอาชญากรรมสงคราม" สอดคล้องกับกลุ่มอดีตทนายความทหาร (JAGs Working Group) ที่ระบุว่าคำสั่งลักษณะนี้ "ผิดกฎหมายชัดแจ้ง" และทหารมีหน้าที่ต้องขัดขืนคำสั่ง

ทั้งนี้ รัฐบาลทรัมป์เพิ่งประกาศขึ้นบัญชีกลุ่ม "การ์เตล เด โลส โซเลส" (Cartel de los Soles) เป็นองค์กรก่อการร้ายต่างชาติ โดยกล่าวหาว่านิโคลัส มาดูโร ประธานาธิบดีเวเนซุเอลา เป็นผู้สั่งการกลุ่มนี้ อย่างไรก็ตาม ทรัมป์ยังคงระบุว่าพร้อมเปิดช่องเจรจากับมาดูโร เพื่อหาทางออกทางการทูต

ด้านรัฐบาลเวเนซุเอลาออกมาตอบโต้ว่า องค์กรที่สหรัฐฯ กล่าวอ้าง "ไม่มีอยู่จริง" และประณามการกระทำนี้ว่าเป็น "คำโกหกที่น่ารังเกียจ" โดยมาดูโรยืนยันว่าตนไม่เกี่ยวข้องกับการค้ายาเสพติด และกล่าวหาสหรัฐฯ ว่ากำลัง "สร้างสถานการณ์" เพื่อหาข้ออ้างก่อสงครามเปลี่ยนระบอบการปกครองในเวเนซุเอลา

ล่าสุดประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ยืนยันในวันอาทิตย์ (30 พ.ย.) ว่า เขาได้สนทนาทางโทรศัพท์กับประธานาธิบดีเวเนซุเอลา แต่ปฏิเสธที่จะเปิดเผยรายละเอียดใด ๆ เกี่ยวกับการสนทนาดังกล่าว


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ