สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า การประชุมรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศสามฝ่ายระหว่างจีน กัมพูชา และไทย ณ เมืองอวี้ซี มณฑลยูนนาน ทางตะวันตกเฉียงใต้ของจีน เสร็จสิ้นลงแล้วในวันนี้ (29 ธ.ค.)
ทั้งนี้ ภายหลังการลงนามในแถลงการณ์ร่วมเพื่อตกลงหยุดยิง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของกัมพูชาและไทยได้นำคณะผู้แทนเข้าร่วมประชุม ณ มณฑลยูนนาน ระหว่างวันที่ 28-29 ธ.ค. ตามคำเชิญของนายหวัง อี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของจีน
นายหวังระบุว่า เจ้าหน้าที่ด้านการต่างประเทศและฝ่ายความมั่นคงของกัมพูชาและไทยได้หารือกันอย่างละเอียด โดยทั้งสองฝ่ายต่างมุ่งมั่นลดความตึงเครียดของสถานการณ์ และพร้อมพัฒนาความสัมพันธ์ทวิภาคีให้ดีขึ้นบนพื้นฐานของการหยุดยิง
นายหวังกล่าวเพิ่มเติมว่า การหารือสามฝ่ายในครั้งนี้เป็นไปอย่างสร้างสรรค์และเกิดผลลัพธ์ที่เป็นรูปธรรม จนนำไปสู่การบรรลุฉันทามติที่สำคัญ 3 ประการ ดังนี้
ประการแรก ทุกฝ่ายควรมองไปข้างหน้าและก้าวต่อไปด้วยกัน ข้อตกลงหยุดยิงนี้ไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะบรรลุผล จึงไม่ควรล้มเลิกกลางคัน และยิ่งไม่ควรปล่อยให้เกิดการสู้รบกันขึ้นอีก
ประการที่สอง ความคืบหน้าควรเป็นไปอย่างมั่นคงตามลำดับขั้นตอน เพื่อหลีกเลี่ยงภาวะชะงักงัน การปฏิบัติตามข้อตกลงหยุดยิงจำเป็นต้องอาศัยการสื่อสารและปรึกษาหารืออย่างต่อเนื่อง ส่วนการฟื้นฟูความสัมพันธ์ทวิภาคีก็ต้องร่วมกันผลักดันให้ก้าวหน้าไปอย่างค่อยเป็นค่อยไป
ประการที่สาม การสร้างความไว้วางใจขึ้นใหม่เป็นเรื่องสำคัญที่สุด แม้ความขัดแย้งจะทำลายความเชื่อใจที่เคยมี แต่กัมพูชากับไทยยังคงเป็นประเทศเพื่อนบ้านกันตลอดไป จึงหวังว่าการประชุมที่มณฑลยูนนานครั้งนี้จะช่วยลบความบาดหมาง ซึ่งจะเกิดประโยชน์ต่อประชาชนทั้งสองประเทศ ทั้งยังสะท้อนถึงความปรารถนาร่วมกันของทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง
หลังเสร็จสิ้นการประชุมไตรภาคี ได้มีการออกแถลงการณ์ร่วมซึ่งระบุแนวทางสำคัญ 5 ด้าน เพื่อให้กัมพูชาและไทยยกระดับการสื่อสาร เสริมสร้างความเข้าใจ และกระชับสถานการณ์หยุดยิงให้มั่นคงยิ่งขึ้น ตลอดจนฟื้นฟูการแลกเปลี่ยนระหว่างกัน สร้างความเชื่อมั่นทางการเมืองขึ้นใหม่ สร้างจุดพลิกฟื้นความสัมพันธ์ และรักษาสันติภาพในภูมิภาคสืบไป