สำนักงบประมาณสหรัฐเตือนการยกเลิก"โอบามาแคร์"อาจส่งผลชาวอเมริกัน 32 ล้านคนไม่มีประกันสุขภาพ

ข่าวการเมือง Thursday July 20, 2017 09:36 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

สำนักงานงบประมาณแห่งสภาคองเกรสสหรัฐ (CBO) ออกรายงานเตือนว่า หากร่างกฎหมาย "อเมริกันเฮลธ์แคร์" ซึ่งนำเสนอโดยพรรครีพับลิกัน ถูกนำมาบังคับใช้แทนกฎหมายประกันสุขภาพ "Affordable Care Act (ACA)" หรือที่เรียกกันโดยทั่วไปว่า "โอบามาแคร์" นั้น จะส่งผลให้ชาวอเมริกันที่ไม่มีประกันสุขภาพมีจำนวนสูงถึง 32 ล้านคน ภายในปี 2569

รายงานของ CBO ระบุว่า ภายในปี 2561 นี้ จำนวนชาวอเมริกันที่ไม่มีประกันสุขภาพจะเพิ่มขึ้น 17 ล้านคน หากกฎหมาย ACA ถูกยกเลิกโดยไม่มีกฎหมายอื่นมาแทนที่ พร้อมระบุว่า หากพรรครีพับลิกันสามารถผลักดันกฎหมายยกเลิกโอบามาแคร์สำเร็จ จะทำให้ชาวอเมริกันจำนวน 27 ล้านคนอยู่ในสถานะที่ไม่มีประกันสุขภาพภายในปี 2563 และ 32 ล้านคนภายในปี 2569

นายมิทช์ แมคคอนเนล ผู้นำเสียงข้างมากในวุฒิสภาสหรัฐ กล่าวว่า วุฒิสภาจะทำการลงมติต่อร่างกฎหมายที่จะยกเลิกกฎหมายประกันสุขภาพฉบับโอบามาแคร์ ในช่วงต้นสัปดาห์หน้า แต่จะยังไม่มีการออกกฎหมายที่จะมาทดแทนโอบามาแคร์

"ตามคำเรียกร้องของท่านประธานาธิบดี และรองประธานาธิบดี หลังจากการปรึกษากับสมาชิกของพวกเรา เราจะทำการลงมติต่อร่างกฎหมายกเลิกกฎหมายประกันสุขภาพฉบับโอบามาแคร์ในช่วงต้นสัปดาห์หน้า" นายแมคคอนเนลกล่าว

ทั้งนี้ ความพยายามของวุฒิสมาชิกพรรครีพับลิกันในการลงมติเพื่อยกเลิกกฎหมายประกันสุขภาพ "โอบามาแคร์" ของรัฐบาลชุดก่อน โดยที่ยังไม่มีร่างกฎหมายฉบับใหม่เข้ามาบังคับใช้แทนที่นั้น ประสบกับความล้มเหลว หลังจากที่นางลิซา เมอร์คอว์สกี นางเชลลีย์ มัวร์ และนางซูซาน คอลลินส์ ซึ่งเป็นวุฒิสภาชิกจากพรรครีพับลิกันได้ประกาศที่จะคัดค้านแผนการดังกล่าว

นอกจากนี้ นายไมค์ ลี วุฒิสมาชิกรัฐยูทาห์ นายเจอร์รี มอร์แรน วุฒิสมาชิกรัฐแคนซัส พร้อมด้วยนายแรนด์ พอล วุฒิสมาชิกจากรัฐเคนทักกี ก็ได้ออกมาแสดงจุดยืนที่จะโหวตคัดค้านร่างกฎหมายประกันสุขภาพฉบับปรับปรุงใหม่ในวุฒิสภาเช่นกัน

ปัจจุบัน พรรครีพับลิกันครองเสียงข้างมากในวุฒิสภา โดยมีจำนวนวุฒิสมาชิกทั้งหมด 52 ที่นั่งจากทั้งหมด 100 ที่นั่ง แต่การออกมาแสดงจุดยืนคัดค้านของวุฒิสมาชิกดังกล่าว จะส่งผลให้พรรครีพับลิกันไม่สามารถรวบรวมคะแนนเสียงได้เพียงพอต่อการโหวตล้มเลิกกฎหมายโอบามาแคร์ในวุฒิสภาได้ เนื่องจากพรรคต้องการเสียงสนับสนุนอย่างน้อย 50 เสียง บวกกับคะแนนเสียงชี้ขาดจากรองประธานาธิบดีไมค์ เพนซ์ ในฐานะประธานวุฒิสภาโดยตำแหน่ง ในกรณีที่คะแนนเสียงเท่ากัน


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ