สหรัฐเตรียมขายระบบป้องกันขีปนาวุธให้ญี่ปุ่น มุ่งรับมือเกาหลีเหนือคุกคาม

ข่าวการเมือง Wednesday January 10, 2018 13:48 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

กระทรวงต่างประเทศของสหรัฐ เปิดเผยว่า รัฐบาลสหรัฐได้ตัดสินใจขายระบบป้องกันขีปนาวุธ (Anti-ballistic Missiles - ABM) มูลค่าประมาณ 133.3 ล้านดอลลาร์ให้ญี่ปุ่น โดยสหรัฐและญี่ปุ่นซึ่งเป็นพันธมิตรกันมาอย่างยาวนานนั้น มีเป้าหมายเพื่อตอบโต้กับภัยคุกคามด้านขีปนาวุธและนิวเคลียร์จากเกาหลีเหนือ

เจ้าหน้าที่จากกระทรวงต่างประเทศ เปิดเผยว่า สหรัฐเตรียมขายระบบป้องกันขีปนาวุธ "Standard Missile-3 Block IIA" จำนวน 4 ลูก พร้อมท่อเก็บขีปนาวุธ MK 29 จำนวน 4 ชุด และบริการทางเทคนิคที่เกี่ยวข้อง ซึ่งจะช่วยยกระดับ "ศักยภาพทางทะเลของกองกำลังป้องกันตนเอง (SDF) ในการปกป้องญี่ปุ่นและมหาสมุทรแปซิฟิกฝั่งตะวันตกจากภัยคุกคามด้านขีปนาวุธ"

ระบบป้องกันขีปนาวุธ SM-3 Block IIA รองรับการติดตั้งบนเรือพิฆาตเล็กที่ติดระบบ Aegis และติดตั้งได้กับ Aegis Ashore ระบบป้องกันขีปนาวุธด้วยเทคโนโลยี Aegis ในภาคพื้นดิน ซึ่งญี่ปุ่นได้ตัดสินใจนำมาใช้ในประเทศ

ระบบป้องกันขีปนาวุธมีหน้าที่สกัดและทำลายหัวรบที่ถูกยิงและกำลังแล่นจากฐานยิง โดยเป็นขีปนาวุธจากพื้นสู่อากาศ (surface-to-air)

สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า ข้อตกลงดังกล่าวซึ่งขณะนี้กำลังรออนุมัติจากสภาคองเกรส มีขึ้นตามคำร้องขอของรัฐบาลญี่ปุ่น โดยทางสำนักงานความร่วมมือด้านความมั่นคงแห่งสหรัฐ ได้ยื่นเอกสารรับรองตามขั้นตอนเพื่อแจ้งสภาคองเกรสให้ทราบแล้วเมื่อวานนี้

เจ้าหน้าที่รายดังกล่าวเปิดเผยว่า การขายระบบป้องกันขีปนาวุธครั้งนี้จะ "เป็นไปตามพันธสัญญาของปธน.ทรัมป์ ในการช่วยเสริมแสนยานุภาพในการป้องกันประเทศแก่ชาติพันธมิตรที่ถูกคุกคามโดยพฤติกรรมอันยั่วยุของเกาหลีเหนือ"

นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่กล่าวเสริมว่า ข้อตกลงดังกล่าวจะยกระดับศักยภาพในการสกัดขีปนาวุธของญี่ปุ่น แต่ "จะไม่ทำให้ดุลยภาพทางการทหารในภูมิภาคเกิดการเปลี่ยนแปลง"

ทั้งนี้ รัฐบาลญี่ปุ่นมีแผนติดตั้งระบบป้องกันขีปนาวุธในปีงบประมาณ 2564


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ