คณะลูกขุนในศาลรัฐมิสซูรีมีคำสั่งให้บริษัทจอห์นสัน แอนด์ จอห์นสันจ่ายเงินชดเชยเป็นจำนวน 4.69 พันล้านดอลลาร์ หรือราว 1.56 แสนล้านบาท แก่ผู้หญิง 22 คนซึ่งป่วยเป็นมะเร็งในรังไข่ หลังจากใช้ผลิตภัณฑ์แป้งโรยตัวของบริษัท ซึ่งรวมถึงแป้งเด็กจอห์นสัน ที่มีส่วนผสมของทัลคัม
ทั้งนี้ ฝ่ายโจทก์ระบุว่า ได้ป่วยเป็นมะเร็งในรังไข่ หลังจากใช้ผลิตภัณฑ์แป้งโรยตัวของบริษัทเป็นเวลานานหลายสิบปี และกล่าวหาว่าบริษัททราบมาโดยตลอดนับตั้งแต่ทศวรรษ 1970 ว่าผลิตภัณฑ์ของบริษัทปนเปื้อนแร่ใยหิน แต่ไม่ได้แจ้งเตือนผู้บริโภคถึงความเสี่ยงดังกล่าว
วงเงินชดเชยดังกล่าวแบ่งเป็นวงเงินลงโทษสำหรับความเสียหายจำนวน 4.14 พันล้านดอลลาร์ และวงเงินชดเชยความเสียหายจำนวน 550 ล้านดอลลาร์
คำตัดสินดังกล่าวถือเป็นการสั่งจ่ายเงินชดเชยในวงเงินสูงที่สุดที่บริษัทจอห์นสันเผชิญในข้อหาดังกล่าว
บริษัทจอห์นสันออกแถลงการณ์ระบุว่า การพิจารณาคดีดังกล่าวไม่เป็นธรรม และบริษัทจะยื่นอุทธรณ์เพื่อสู้คดีต่อไป
ขณะนี้ บริษัทจอห์นสันกำลังต่อสู้กับคดีความดังกล่าวราว 9,000 คดี โดยบริษัทระบุว่าผลิตภัณฑ์แป้งโรยตัวของบริษัทไม่ได้เป็นสาเหตุก่อให้เกิดมะเร็ง และไม่มีสารประกอบของแร่ใยหิน
ก่อนหน้านี้ คณะลูกขุนของศาลสูงในลอส แองเจลิส เคาน์ตี ตัดสินให้บริษัทจอห์นสัน แอนด์ จอห์นสันจ่ายเงินชดเชยเป็นจำนวน 417 ล้านดอลลาร์แก่นางอีวา อีเชเวอร์เรีย วัย 62 ปี ซึ่งป่วยเป็นโรคมะเร็งรังไข่
คณะลูกขุนระบุว่า บริษัทจอห์นสันต้องรับผิดชอบต่อการที่ไม่มีการแจ้งเตือนนางอีเชเวอร์เรียเกี่ยวกับความเสี่ยงในการเกิดมะเร็งจากการใช้ผลิตภัณฑ์แป้งเด็กจอห์นสัน
ทั้งนี้ นางอีเชเวอร์เรียให้การว่าได้ใช้แป้งเด็กจอห์นสันตั้งแต่อายุ 11 ปี จนถึงปี 2559 ขณะที่ได้ป่วยเป็นมะเร็งรังไข่ในปี 2550 ซึ่งถ้าบริษัทจอห์นสันมีการแจ้งเตือนในผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับความเสี่ยงในการเกิดมะเร็งจากการใช้แป้งเด็ก เธอก็จะไม่ใช้แป้งเด็กจอห์นสันเป็นเวลานานหลายสิบปี