สื่อต่างประเทศรายงานว่า แผนการยกเลิกมาตรการล็อกดาวน์เพื่อปลดล็อกเศรษฐกิจของนายบอริส จอห์นสัน นายกรัฐมนตรีอังกฤษนั้นมีแนวโน้มคืบหน้า หลังมีข้อมูลระบุว่า วัคซีนป้องกันโควิด-19 มีประสิทธิภาพในการป้องกันไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์ที่น่ากังวล ซึ่งได้ช่วยสร้างความเชื่อมั่นว่า รัฐบาลจะสามารถเดินหน้าได้ตามแผนการ
ก่อนหน้านี้แผนระดมฉีดวัคซีนของรัฐบาลอังกฤษส่อเค้าว่าอาจจะไม่เป็นไปตามที่กำหนดไว้ หลังจากมีรายงานว่า เชื้อไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์อินเดียได้แพร่กระจายอย่างรวดเร็วในพื้นที่ 86 จุดของสหราชอาณาจักร รวมถึงทางตะวันตกเฉียงเหนือของอังกฤษและในเขตเมืองที่ใหญ่ที่สุดของสกอตแลนด์ จนสร้างความกังวลเป็นอย่างมาก
อย่างไรก็ดี รายงานจากกระทรวงสาธารณสุขของอังกฤษ (PHE) ระบุว่า วัคซีนป้องกันโควิด-19 ของบริษัทไฟเซอร์และแอสตร้าเซนเนก้าที่ฉีดครบสองโดสนั้น มีประสิทธิภาพในการป้องกันเชื้อไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์อินเดียได้ในระดับสูง ซึ่งช่วยคลายวิตกกังวลดังกล่าวลงได้
พ.ญ.เจนนี แฮร์ริส หัวหน้าสำนักงานบริการสุขภาพของอังกฤษให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวบีบีซีว่า แนวโน้มที่รัฐบาลจะผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์ในวันที่ 21 มิ.ย.นี้ อยู่ในทิศทางที่ดีหากประชาชนใช้ความระมัดระวัง
ขณะที่นายแมตต์ แฮนค็อก รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขของอังกฤษแสดงความเชื่อมั่นกับสถานีโทรทัศน์สกายนิวส์ว่า รัฐบาลจะยกเลิกมาตรการล็อกดาวน์ได้ตามกรอบเวลา และกล่าวว่า "ข้อมูลชี้ให้เห็นว่า การฉีดวัคซีนครบสองโดสมีประสิทธิภาพป้องกันโรคได้ และเราทุกคนต่างรู้ว่าวัคซีนคือทางออกสำหรับปัญหานี้"
อย่างไรก็ดี นางปรีติ ปาเตล รัฐมนตรีมหาดไทยอังกฤษได้แสดงความเห็นอย่างระมัดระวัง โดยกล่าวว่าแม้ข้อมูลดังกล่าวจะดูดี แต่ก็ไม่ได้หมายความว่า มาตรการทุกอย่างจะได้รับการยกเลิกทั้งหมด ทั้งนี้ การตัดสินใจขั้นสุดท้ายเกี่ยวกับความคืบหน้าในวันที่ 21 มิ.ย.นั้น จะต้องพิจารณาอีกครั้งในช่วงสัปดาห์ข้างหน้า หลังจากผู้เชี่ยวชาญและคณะรัฐมนตรีได้วิเคราะห์ข้อมูลจำนวนผู้ติดเชื้อและผู้ป่วยที่รักษาตัวในโรงพยาบาลแล้ว
ทั้งนี้ ความสำเร็จของโครงการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 ในอังกฤษนั้น เป็นปัจจัยหนุนสำคัญที่ช่วยให้รัฐบาลเดินหน้าไปสู่เป้าหมายในการยกเลิกมาตรการล็อกดาวน์ภายในวันที่ 21 มิ.ย. ซึ่งจนถึงปัจจุบัน อังกฤษฉีดวัคซีนให้กับประชาชนไปแล้วกว่า 60 ล้านโดส โดยนายจอห์นสันจะชี้แจงรายละเอียดแผนคลายล็อกดาวน์ให้ประชาชนรับทราบในอีกไม่กี่วัน