ไทยพร้อมย้ำความตั้งใจในการเสริมสร้างสันติสุขและความมั่งคั่งให้ชาวไทยมุสลิมและส่งเสริมความร่วมมือกับประเทศมุสลิม ในการประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศองค์การการประชุมอิสลาม ครั้งที่ ๓๘

ข่าวต่างประเทศ Monday June 27, 2011 15:52 —กระทรวงการต่างประเทศ

นายกษิต ภิรมย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ จะเข้าร่วมการประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศองค์การการประชุมอิสลาม ครั้งที่ ๓๘ (OIC CFM ๓๘) ระหว่างวันที่ ๒๘-๓๐ มิถุนายน ๒๕๕๔ ณ กรุงอัสตานา ประเทศคาซัคสถาน โดยไทยจะย้ำความตั้งใจที่จะเสริมสร้างสันติสุขและความมั่งคั่งให้แก่ชาวไทยมุสลิมและความร่วมมือที่สร้างสรรค์กับกลุ่มประเทศมุสลิมภายใต้กรอบของ OIC

ในการประชุม OIC CFM ๓๘ ไทยจะย้ำความพยายามของรัฐบาลในการส่งเสริมสันติสุขและความมั่งคั่งอย่างยั่งยืนในจังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยรัฐสภาให้การรับรอง พระราชบัญญัติการบริหารกิจการจังหวัดชายแดนภาคใต้ พ.ศ. ๒๕๕๓ ซึ่งกำหนดให้มีการจัดตั้งศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ เป็นส่วนราชการพิเศษเพื่อดูแลการพัฒนาจังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยให้ความสำคัญกับการมีส่วนร่วมของประชาชนในพื้นที่ และอยู่ภายใต้การกำกับของนายกรัฐมนตรี ทั้งนี้ พระราชบัญญัติฯ ได้รับรองว่าจะเน้นความมีส่วนร่วมของคนในท้องถิ่น โดยมีการจัดตั้งสภาที่ปรึกษาศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ ที่มีที่มาจากการคัดเลือกกันเองของผู้แทนที่ได้รับการเลือกตั้งท้องถิ่น ชุมชน กลุ่มศาสนา กลุ่มสตรี และสถาบันการศึกษาของจังหวัดชายแดนภาคใต้ ๕ จังหวัด

นอกจากนี้ ไทยยังได้มีการยกเลิกการบังคับใช้กฎอัยการศึกและพระราชกำหนดการบริหารราชการภายใต้สถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. ๒๕๔๘ ในบางพื้นที่ของจังหวัดชายแดนภาคใต้และให้ใช้พระราชบัญญัติความมั่นคงภายใน พ.ศ. ๒๕๕๑ แทน ซึ่งมีมาตราที่กำหนดให้ศาลมีอำนาจในการสั่งให้ผู้ร่วมก่อความไม่สงบที่เข้ามอบตัวโดยสมัครใจและให้คำมั่นว่า จะไม่กลับไปใช้ความรุนแรงอีก ให้เข้ารับโครงการฝึกอบรมแทนการดำเนินคดีตามกระบวนการยุติธรรม

ไทยจะย้ำกับ OIC ด้วยว่า ชีวิตความเป็นอยู่ของชาวไทยมุสลิมมีความสะดวกสบายในอีกหลายด้าน โดยได้มีการร่างตัวบทกฎหมายเกี่ยวกับการบังคับใช้กฎหมายอิสลามในคดีแพ่งที่เกี่ยวกับครอบครัวและการสืบทอดสมบัติ นอกจากนี้ ระบบการศึกษาไทย-มาเลย์ได้ขยายไปสู่โรงเรียน ๕๑ แห่ง โดยมีเป้าหมายที่จะครอบคลุมให้ถึงทุกโรงเรียนในจังหวัดชายแดนภาคใต้

นอกจากนั้น ประเทศไทยต้องการขยายความร่วมมือไปสู่เรื่องการศึกษาและวัฒนธรรม ผ่านความร่วมมือกับองค์กรการศึกษา วิทยาศาสตร์และวัฒนธรรมอิสลาม ซึ่งไทยมีสถานะเป็นประเทศผู้สังเกตการณ์ ทั้งนี้ รัฐบาลไทยโดยกระทรวงศึกษาธิการและองค์กรการศึกษา วิทยาศาสตร์และวัฒนธรรมอิสลาม ได้เริ่มกระบวนการการแลกเปลี่ยนข้อคิดเห็นเกี่ยวกับพิธีสารว่าด้วยความร่วมมือระหว่างกันแล้ว

ไทยเข้าเป็นประเทศผู้สังเกตการณ์ (Observer) ของ OIC เมื่อวันที่ ๑ ตุลาคม ๒๕๔๑ และได้ส่งคณะผู้แทนเข้าร่วม การประชุมสำคัญของ OIC เกือบทุกครั้ง และมีความร่วมมือในหลายมิติสำคัญในกรอบความร่วมมือนี้ อาทิ ด้านการศึกษา วัฒนธรรม วิทยาศาสตร์ การค้าและอุตสาหกรรม และความร่วมมือด้านวิชาการ

OIC ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี ๒๕๑๔ เป็นองค์การระหว่างประเทศของกลุ่มประเทศอิสลาม ปัจจุบันมีสมาชิก ๕๗ ประเทศ จากทุกภูมิภาคทั้ง เอเชีย ยุโรป แอฟริกา และอเมริกาใต้ จึงนับเป็นองค์กรระหว่างประเทศของโลกมุสลิมขนาดใหญ่ที่สุดและมีบทบาทความสำคัญมากที่สุด ทั้งนี้ มีสำนักงานเลขาธิการเป็นหน่วยงานบริหารกลางตั้งอยู่ที่ประเทศซาอุดีอาระเบีย

กองการสื่อมวลชน กรมสารนิเทศ กระทรวงการต่างประเทศ โทร. 643-5170 โทรสาร. 643-5169 E-mail : div0704@mfa.go.th--จบ--


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ