ตามที่ได้เกิดเหตุการณ์การยิงจรวดจากฉนวนกาซาตกทางตอนใต้ของอิสราเอล เมื่อวันศุกร์ที่ ๙ มีนาคม ๒๕๕๕ จนเป็นเหตุให้มีแรงงานไทย ๔ คน ซึ่งทำงานในนิคมเกษตรกรรมเมือง Eshkol ได้รับบาดเจ็บ โดย ๑ คนได้รับบาดเจ็บสาหัส และรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาล และ ๓ คน ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย ซึ่งแพทย์ได้ให้เดินทางกลับที่พักแล้วนั้น
เมื่อวันที่ ๑๒ มีนาคม ๒๕๕๕ เอกอัครราชทูต ณ กรุงเทลอาวีฟ และเจ้าหน้าที่สถานเอกอัครราชทูตฯ ได้เดินทางไปเยี่ยมอาการคนไทยที่ได้รับบาดเจ็บสาหัสดังกล่าวที่โรงพยาบาล โดยแพทย์รายงานว่า แรงงานไทยดังกล่าวพ้นขีดอันตรายแล้ว ขณะนี้ ได้ส่งตัวไปพักฟื้นรอดูอาการอีก ๑ — ๒ สัปดาห์ ก็คาดว่าจะสามารถออกจากโรงพยาบาลได้ ซึ่งผู้ได้รับบาดเจ็บมีสติรู้สึกตัว สามารถพูดคุยโต้ตอบได้ตามปกติ และมีขวัญกำลังใจดี โดยเอกอัครราชทูตฯ ได้ติดต่อทางโทรศัพท์ให้ผู้บาดเจ็บดังกล่าวพูดคุยกับภรรยาในประเทศไทยด้วย นอกจากนี้ เอกอัครราชทูตฯ ได้แจ้งว่า เมื่อหายดีแล้วจะสามารถกลับไปทำงานได้ตามปกติ และระหว่างที่พักรักษาตัวอยู่นี้จะยังได้ค่าจ้างตามกฎหมายแรงงานด้วย
ต่อจากนั้น เอกอัครราชทูตฯ ได้เดินทางไปเยี่ยมคนไทยอีก ๓ คนที่ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อยที่นิคมเกษตรกรรม ซึ่งคนไทยทั้ง ๓ คนมีกำลังใจดี และสามารถทำงานได้ตามปกติแล้ว ทั้งนี้ เอกอัครราชทูตฯ ได้พบหารือกับประธานและผู้บริหารนิคมเกษตรกรรม ซึ่งได้รับคำยืนยันว่า จะดูแลคนงานไทยอย่างดีที่สุด และจะรับผิดชอบค่าใช้จ่ายต่างๆ และให้สิทธิประโยชน์แก่คนงานไทยทั้ง ๔ รายตามสัญญาจ้างต่อไป
ขณะเดียวกัน เอกอัครราชทูตฯ ได้พบหารือกับ Deputy Mayor of Regional Council of Eshkol และ President of Agricultural Committee โดยได้หารือเกี่ยวกับมาตรการรักษาความปลอดภัยของเขตเมือง Eshkol โดยที่เขตเมือง Eshkol มีแรงงานไทยอาศัยและทำงานอยู่ประมาณ ๒,๕๐๐ คน ซึ่งขณะนี้ เขตฯ อยู่ระหว่างการก่อสร้างที่กำบังเพิ่มอีก ๒๐๐ จุด จากเดิมที่อยู่แล้ว ๒๐๐ จุด อีกทั้งยังได้จัดทำคำแปลเกี่ยวกับแนวปฏิบัติเมื่อถูกโจมตีด้วยจรวดเป็นภาษาไทย และประสานกับนายจ้างเพื่อให้คำแนะนำในการดูแลแรงงานไทยอยู่เสมอ
นอกจากนี้ เอกอัครราชทูตฯ และเจ้าหน้าที่สถานเอกอัครราชทูตฯ ยังได้เดินทางไปเยี่ยมแรงงานไทยในเขตที่อยู่ติดกับเขตฉนวนกาซา และเน้นย้ำให้แรงงานไทยปฏิบัติตามแนวปฏิบัติกรณีเกิดเหตุถูกโจมตีด้วยจรวด รวมทั้งให้กำลังใจแก่แรงงานไทยที่อาศัยและทำงานอยู่ในบริเวณดังกล่าวด้วย
กองการสื่อมวลชน กรมสารนิเทศ กระทรวงการต่างประเทศ โทร. 643-5170 โทรสาร. 643-5169 E-mail : [email protected]จบ--