กระทรวงการต่างประเทศย้ายไปเปิดให้บริการสำนักงานหนังสือเดินทางชั่วคราวภูเก็ตแห่งใหม่ในศูนย์การค้าเซ็นทรัล ภูเก็ต เฟสติวัล เพื่อช่วยอำนวยความสะดวกแก่ประชาชนยิ่งขึ้น

ข่าวต่างประเทศ Tuesday November 3, 2020 13:42 —กระทรวงการต่างประเทศ

เมื่อวันที่ ๒ พฤศจิกายน ๒๕๖๒ นายดอน ปรมัตถ์วินัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีการกระทรวงการต่างประเทศ เป็นประธานในพิธีเปิดสำนักงานหนังสือเดินทางชั่วคราว ภูเก็ต ณ ศูนย์การค้าเซ็นทรัล ภูเก็ต เฟสติวัล โดยมีนายวิชาวัฒน์ อิศรภักดี ผู้ช่วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ม.ล. สุภรัตน์ เทวกุล ที่ปรึกษากระทรวงการต่างประเทศ นายชาตรี อรรจนานันท์ อธิบดีกรมการกงสุล นายธานี แสงรัตน์ อธิบดีกรมสารนิเทศ นายรุจิเรศ นีรปัทมะ ผู้อำนวยการอาวุโส กลุ่มงานรัฐกิจสัมพันธ์ และสรรหาที่ดิน-สถาบัน บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) นางวิไลพร ปิติมานะอารี ผู้อำนวยการอาวุโสกลุ่มงานปฎิบัติการสาขา เขต ๘ ภูเก็ต นายโกสินทร์ ผลมั่ง หัวหน้าสำนักงานหนังสือเดินทางจังหวัดภูเก็ต เข้าร่วมงาน

สำนักงานหนังสือเดินทางแห่งเดิมฯ ตั้งอยู่ที่ศาลากลางจังหวัดภูเก็ต โดยเปิดให้บริการตั้งแต่วันที่ ๑ ตุลาคม ๒๕๕๒ และได้ย้ายมายังที่ทำการปัจจุบันภายใต้โครงการจัดจ้างผลิตและให้บริการทำหนังสือเดินทางอิเล็กทรอนิกส์ ระยะที่ ๓ เพื่อขยายพื้นที่ให้บริการและอำนวยความสะดวกประชาชนมากยิ่งขึ้น

สำหรับสำนักงานหนังสือเดินทางชั่วคราว จังหวัดภูเก็ตแห่งใหม่นี้ ตั้งอยู่บริเวณ ชั้น B ของศูนย์การค้าเซ็นทรัล ภูเก็ต เฟสติวัล โดยเซ็นทรัลพัฒนา ได้สนับสนุนพื้นที่รวมขนาดกว่า ๒๒๘ ตารางเมตร โดยให้บริการ ๘ เคาน์เตอร์ สามารถรองรับประชาชนได้มากกว่า ๓๐๐ คนต่อวัน เปิดบริการทุกวันจันทร์ พุธ ศุกร์ ตั้งแต่เวลา ๑๐.๐๐- ๑๘.๐๐ น.(อาจปรับเปลี่ยนตามสถานการณ์โควิด-๑๙)

นอกจากภูเก็ตแล้ว เซ็นทรัลพัฒนาได้มอบพื้นที่สำหรับเปิดสำนักงานหนังสือเดินทางชั่วคราว ณ ศูนย์การค้าเซ็นทรัลอีก ๕ สาขา ได้แก่ เวสต์เกต พิษณุโลก อุดรธานี นครราชสีมา และนครศรีธรรมราช

ผู้ที่สนใจเข้าใช้บริการสามารถตรวจสอบสถานะการเปิดให้บริการของสำนักงานหนังสือเดินทางทั่วประเทศทั้ง ๒๗ แห่ง ก่อนเข้ารับบริการ เนื่องจากอาจปรับเปลี่ยนตามสถานการณ์โควิด-๑๙ ผ่านช่องทางต่างๆ ได้แก่ (๑) Call Center กรมการกงสุลตลอด ๒๔ ชั่วโมง โทร. ๐๒-๕๗๒-๘๔๔๒ (๒) Facebook กรมการกงสุล กระทรวงต่างประเทศ หรือ (๓) Facebook สำนักงานหนังสือเดินทางชั่วคราวแต่ละแห่ง

ที่มา: กระทรวงการต่างประเทศ


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ