Macro Morning Focus ประจำวันที่ 27 ธันวาคม 2554
Summary:
1.'กิตติรัตน์' เผยพร้อมดำเนินมาตรการรับจำนำหลังพบราคามันสำปะหลังร่วง
2. สมาคมฯ สิ่งทอขาดแคลนแรงงานกว่า 7 หมื่นคน
3. ธนาคารกลางจีนแนะรัฐบาลซื้อทองคำเพื่อลดแรงกดดันด้านเฟ้อ
Highlight:
1. 'กิตติรัตน์' เผยพร้อมดำเนินมาตรการรับจำนำหลังพบราคามันสำปะหลังร่วง
- นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่ราคาหัวมันสาปะหลังสดบางพื้นที่ปรับตัวลดลงกว่าราคาตลาดว่ารัฐบาลมีความพร้อมที่จะช่วยเหลือเกษตรกร ผ่านโครงการรับจำนำ โดยขณะนี้ได้เตรียมแผนการรับจำนำหัวมันสาปะหลังสดไว้เรียบร้อยแล้ว ซึ่งหากมีความจาเป็นจะดำเนินการได้ทันที ทั้งนี้มองว่าการปรับตัวลดลงของราคาหัวมันสาปะหลังสดเกิดขึ้นในบางพื้นที่เท่านั้นแต่ในบางพื้นที่มีราคาที่สูง ดังนั้นจึงอยากให้เกษตรกรคำนึงถึงราคารับจำนำของรัฐบาลเป็นหลักในการพิจารณาขายหัวมันสำปะหลังสด
- สศค. วิเคราะห์ว่า ราคามันสำปะหลังสดปรับตัวลดลงต่อเนื่องตั้งแต่ช่วงต้นปีจากระดับราคา 2.96 บาท/กิโลกรัม ในเดือน ก.พ.54 ลงมาเหลือ 2.22 บาท/กิโลกรัมในเดือน พ.ย.54 คิดเป็นการปรับตัวลดลงกว่าร้อยละ -25.0 สาเหตุหลักจากอุปสงค์ในตลาดโลกที่ลดลงโดยเฉพาะจากประเทศจีน นอกจากนั้นยังพบว่าผลผลิตในปี นี้มีออกมาสู่ตลาดมากกว่าปกติ เนื่องจากปริมาณน้ำฝนที่มีมากได้ชะล้างเพลี้ยแป้งซึ่งเป็นศัตรูพืชที่สาคัญทำให้หัวมันมีการเจริญเติบโตได้ดี ทั้งนี้การใช้มาตรการจานาจะเป็นมาตรการช่วยเหลือเกษตรกรที่เหมาะสมและไม่ขัดกับกฎเกณฑ์ของ WTO ส่วนการตั้งราคาจำนำ จำเป็นต้องดูข้อมูลด้านต้นทุนของเกษตรกร และความต้องการของตลาดทั้งในประเทศและต่างประเทศมาประกอบการพิจารณาอย่างรอบคอบ
2. สมาคมฯ สิ่งทอ ขาดแคลนแรงงานกว่า 7 หมื่นคน
- ผู้ช่วยผู้จัดการสมาคมอุตสาหกรรมสิ่งทอ เปิดเผยว่าอุตสาหกรรมสิ่งทอกาลังประสบปัญหาขาดแคลนแรงงานประมาณ 7 หมื่นคน เนื่องจากเป็นอาชีพที่คนไทยไม่นิยมเรียนกัน ส่งผลให้ต้องมีการจ้างแรงงานต่างด้าว แต่ก็ยังคงติดเงื่อนไขของสานักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุนในการจ้างแรงงานต่างด้าว ซึ่งทางสมาคมอุตสาหกรรมสิ่งทอได้มีการทาการสารวจความต้องการแรงงานไว้อยู่แล้ว และพร้อมส่งข้อมูลให้กระทรวงแรงงานนาไปประกอบการแก้ปัญหา
- สศค. วิเคราะห์ว่า แรงงานส่วนใหญ่จะกระจุกตัวอยู่ในการจ้างงานนอกภาคการเกษตรโดยเฉพาะการจ้างงานภาคอุตสาหกรรมโดยคิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 21.4 ของการจ้างงานรวม จากข้อมูลล่าสุดเดือน ก.ย.54 ภาคอุตสากรรมมีการจ้างงานจานวน 8.1 ล้านคน เพิ่มขึ้นจานวน 3.2 แสนคนเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี ก่อน แต่ปรับลดลงจานวน 3.8 หมื่นคนเมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้าซึ่งเป็ นผลมากจากปัญหาอุทกภัยที่เกิดขึ้นในหลายพืน้ ที่ได้ส่งผลกระทบต่อนิคมอุตสาหกรรมหลายแห่งทำให้การผลิตในภาคอุตสาหกรรมต้องหยุกชะงักลง ส่งผลให้การจ้างงานในภาคอุตสาหกรรมลดลงอย่างไรก็ดี อัตราการว่างงานของไทยถือว่ายังอยู่ในระดับต่า และยังคงมีปัญหาเรื่องการขาดแคลนแรงงานในบางอุตสาหกรรม โดยเฉพาะแรงงานระดับล่าง เช่น อุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ ยานยนต์ และอุตสาหกรรมสิ่งทอ เป็ นต้น
3. ธนาคารกลางจีนแนะรัฐบาลซือ้ ทองคา เพื่อลดแรงกดดันด้านเฟ้ อ
- หัวหน้าสานักวิจัยของธนาคารกลางจีน กล่าวว่ารัฐบาลจีนควรระวังแรงกดดันด้านเงินเฟ้อที่อาจจะดีดตัวขึ้นและควรซื้อทองคาเพิ่มขึ้น เมื่อราคาปรับตัวลดลง เพื่อเป็นการสร้างความหลากหลายและปกป้องทุนสารองเงินตราต่างประเทศ ทั้งนี้ปัจจุบันจีนถือครองทองคาในทุนสารองเงินตราต่างประเทศอยู่ 33.89 ล้านออนซ์ ซึ่งไม่เปลี่ยนแปลงนับตัง้ แต่เดือนเม.ย.2552
- สศค. วิเคราะห์ว่า ที่ผ่านมาจีนจะเลือกใช้มาตรการทางการคลังผ่านการลดหย่อนภาษีเพื่อกระตุ้นการใช้จ่ายในประเทศ เพื่อทดแทนภาคการส่งออกที่ได้รับผลกระทบจากวิกฤตยุโรป (โดยตัวเลขการส่งออกของจีนในเดือน พ.ย. 54 อยู่ที่ร้อยละ 13.8 ชะลอลงจากร้อยละ 15.9 ในเดือนก่อน) ทดแทนมาตรการทางการเงินที่เน้นเสถียรภาพและรักษาระดับราคาผู้บริโภค อย่างไรก็ดี จีนยังคงเผชิญความเสี่ยงด้านเงินเฟ้ อเนื่องจากราคาอสังหาริมทรัพย์ที่ยังคงอยู่ในระดับสูง และอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจที่ยังคงร้อนแรง ( 3 ไตรมาสแรกปี 54 ขยายตัวเฉลี่ยร้อยละ 9.4) ดังนั้นการลงทุนในทองคาที่มีแนวโน้มราคาลดลงในช่วงไตรมาสแรกปี 55 จึงเป็ นแนวทางหนึ่งในการกระจายความเสี่ยงจากเงินเฟ้ อดังกล่าว อย่างไรก็ดีในระยะยาวคาดว่าราคาทองคาจะผันผวนและมีความเสี่ยงมากขึ้นจากความกังวลในภาวะเศรษฐกิจยุโรปและสหรั ฐที่จะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจทั่วโลกในปี หน้า
ที่มา: Macroeconomic Analysis Group:
Fiscal Policy Office Tel. 02-273-9020 Ext.3665 : www.fpo.go.th