รายงานภาวะเศรษฐกิจรายสัปดาห์ระหว่างวันที่ 28 - 30 ธันวาคม 2563

ข่าวเศรษฐกิจ Monday January 4, 2021 14:35 —กระทรวงการคลัง

Executive Summary

Indicators this week

ดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรม (MPI) เดือน พ.ย. 63 ขยายตัวที่ร้อยละ 0.4 จากช่วงเดียวกันปีก่อน

ปริมาณการจำหน่ายเหล็กและผลิตภัณฑ์เหล็กรวมภายในประเทศเดือน พ.ย. 63 หดตัวร้อยละ -6.5 ต่อปี

นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติในเดือน พ.ย. 63 มีจำนวน 3,065 คน ลดลงร้อยละ -99.91 ต่อปี Economic Indicators: This Week ดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรม (MPI) เดือน พ.ย. 63 ขยายตัวที่ร้อยละ 0.4 ต่อปี ปรับตัวดีขึ้นจากเดือน ก่อนหน้าที่หดตัวร้อยละ -0.4 โดยอุตสาหกรรมที่ขยายตัว ได้ดี ได้แก่ หมวดเครื่องใช้ไฟฟ้า ยานยนต์ และเฟอร์นิเจอร์ ที่ขยายตัวร้อยละ 17.5 10.5 และ 6.9 จากช่วงเดียวกันของ ปีก่อน ตามลำดับ ขณะที่อุตสาหกรรมเครื่องหนัง เครื่องดื่ม และ เคื่องประดับ/อุปกรณ์แพทย์ยังคงหดตัวอยู่ที่ร้อยละ -24.1 -16.1 และ -13.6 ตามลำดับ อย่างไรก็ตาม ดัชนี MPI ที่ปรับฤดูกาลแล้วยังคงหดตัวอยู่ที่ร้อยละ -3.1 เมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้า ปริมาณการจำหน่ายเหล็กและผลิตภัณฑ์เหล็กรวมภายในประเทศเดือน พ.ย. 63 หดตัวร้อยละ -6.5 ต่อปี แต่ปรับตัวดีขึ้นร้อยละ 1.9 จากเดือนก่อนหน้าหลังปรับ ผลทางฤดูกาล โดยมีปัจจัยมาจากการหดตัวของเหล็กที่ใช้ในการก่อสร้างหดตัวต่อเนื่อง ได้แก่ เหล็กเส้นข้ออ้อย เหล็กเส้นกลม และเหล็กลวดที่หดตัวร้อยละ -31.0 -16.6 และ -14.3 ต่อปีตามลำดับ ขณะที่เหล็กที่ใช้ในอุตสาหกรรมปรับตัวดีขึ้นต่อเนื่อง ได้แก่ เหล็กแผ่นรีดร้อนชนิดม้วน และเหล็กแผ่นรีดเย็น สอดคล้องกับดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรมที่กลับมาขยายตัวครั้งแรกรอบ 19 เดือน นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติในเดือน พ.ย. 63 มีจำนวน 3,065 คน ลดลงร้อยละ -99.91 ต่อปี ประกอบไปด้วยนักท่องเที่ยวประเภทพิเศษ (STV) รวมถึงนักท่องเที่ยวกลุ่มสิทธิพิเศษ (Thailand Privilege Card) และนักธุรกิจ โดยส่วนใหญ่เป็นนักท่องเที่ยวชาวจีน กัมพูชา และประเทศอื่นๆ ในอาเซียน นอกจากนี้ บางส่วนเป็นนักท่องเที่ยวชาวยุโรป โดยเฉพาะเยอรมนี อังกฤษ และสวิตเซอร์แลนด์ เป็นต้น

Global Economic Indicators: This Week

Japan ผลผลิตภาคอุตสาหกรรม เดือน พ.ย. 63 (เบื้องต้น) หดตัวที่ร้อยละ -3.4 จากช่วงเดียวกันของปีก่อน หดตัวเร่งขึ้นจากเดือน ต.ค. 63 ที่อยู่ที่ร้อยละ -3.0 จากช่วงเดียวกันของปีก่อน เป็นผลจากการผลิตในหมวดผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียมและถ่านหิน เหล็กและเหล็กกล้า และโลหะประดิษฐ์ที่ลดลงเป็นสำคัญ Hong Kong การส่งออก เดือน พ.ย. 63 ขยายตัวที่ร้อยละ 5.6 จากช่วงเดียวกันของปีก่อน คิดเป็นมูลค่าการส่งออก 379.6 พันล้านดอลลาร์ฮ่องกง เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนหน้าที่อยู่ที่ 344.7 พันล้านดอลลาร์ฮ่องกง ขยายตัวเร่งขึ้นจากเดือนก่อนหน้าที่หดตัวที่ร้อยละ -1.1 โดยสามารถส่งออกไปยังประเทศคู่ค้าอย่างจีน ไต้หวัน และเวียดนามได้เพิ่มขึ้น ขณะที่การนำเข้า เดือน พ.ย. 63 ขยายตัว ที่ร้อยละ 5.1 จากช่วงเดียวกันของปีก่อน คิดเป็นมูลค่าการนำเข้า 405.2 พันล้านดอลลาร์ฮ่องกง เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนหน้า ที่ขยายตัวที่ร้อยละ 0.6 โดยได้รับคำสั่งซื้อจากประเทศจีน ไต้หวัน สิงคโปร์ และเกาหลีใต้เพิ่มมากขึ้น ส่งผลให้ดุลการค้า เดือน พ.ย. 63 ขาดดุลอยู่ที่ -25.6 พันล้านดอลลาร์ฮ่องกง Malaysia การส่งออก เดือน พ.ย. 63 ขยายตัวที่ร้อยละ 4.3 จากช่วงเดียวกันของปีก่อน คิดเป็นมูลค่าการส่งออกอยู่ที่ 84.4 พันล้านริงกิตมาเลเซีย จากสินค้าในหมวดสินค้าอุตสาหกรรม ขณะที่การนำเข้า เดือน พ.ย. 63 หดตัวที่ร้อยละ -9.0 จากช่วงเดียวกัน ของปีก่อน คิดเป็นมูลค่าการนำเข้า 67.6 พันล้านริงกิตมาเลเซีย จากอุปสงค์ที่ลดลงจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ส่งผลให้ดุลการค้าเดือน พ.ย. 63 เกินดุลอยู่ที่ 16.8 พันล้านริงกิตมาเลเซีย South Korea ระดับความเชื่อมั่นผู้บริโภค เดือน ธ.ค. 63 อยู่ที่ 89.8 จุด ปรับตัวลดลงจากเดือนก่อนหน้าที่อยู่ที่ระดับ 97.9 จุด เนื่องจาก สภาพเศรษฐกิจในประเทศที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 การใช้จ่ายครัวเรือนในอนาคตลดลง รายได้ครัวเรือนในอนาคตลดลง และคุณภาพชีวิตในปัจจุบันและอนาคตก็ลดลงเช่นกัน .ผลผลิตภาคอุตสาหกรรม เดือน พ.ย. 63 ขยายตัวที่ร้อยละ 0.5 จากช่วงเดียวกันของปีก่อน เป็นการกลับมาขยายตัวหลังจากที่เดือน ต.ค. 63 หดตัวที่ร้อยละ -2.0 ยอดค้าปลีก เดือน พ.ย. 63 หดตัวที่ร้อยละ -1.5 จากช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยหดตัวเป็นเดือนที่ 2 ติดต่อกัน

Weekly Financial Indicators

ดัชนี SET ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากสัปดาห์ก่อน สอดคล้องกับตลาดหลักทรัพย์อื่น ๆ ในภูมิภาคที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น เช่น Nikkei225 (ญี่ปุ่น) HSI (ฮ่องกง) TWSE (ไต้หวัน) และ S&P/ASX 200 (ออสเตรเลีย)เป็นต้น โดยดัชนี SET เมื่อวันที่ 29 ธ.ค. 63 ปิดที่ระดับ 1,461.95 จุด ด้วยมูลค่าซื้อขายเฉลี่ยระหว่างวันที่ 28 - 29 ธ.ค. 63 ที่ 77,719.72 ล้านบาทต่อวัน โดยนักลงทุนต่างชาติ และนักลงทุนทั่วไปในประเทศ เป็นผู้ซื้อสุทธิ ขณะที่ นักลงทุนสถาบันในประเทศ และนักลงทุนบัญชีบริษัทหลักทรัพย์ เป็นผู้ขายสุทธิ ทั้งนี้ ระหว่างวันที่ 28-29 ธ.ค. 63 นักลงทุนต่างชาติ ซื้อ หลักทรัพย์สุทธิ 882.14 ล้านบาท

อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลโดยรวมปรับตัวลดลงในช่วง -1 ถึง -6 bps โดยในสัปดาห์นี้ นักลงทุนไม่มี การประมูลพันธบัตรรัฐบาล ทั้งนี้ระหว่างวันที่ 28 - 29 ธ.ค. 63 กระแสเงินทุนของนักลงทุนต่างชาติ ไหลเข้า ในตลาดพันธบัตรสุทธิ 557.82 ล้านบาท และหากนับจากต้นปี จนถึงวันที่ 29 ธ.ค. 63 กระแสเงินทุนของนักลงทุนต่างชาติ ไหลออก จากตลาดพันธบัตรสุทธิ -68,872.59 ล้านบาทเงินบาทแข็งค่าขึ้นจากสัปดาห์ก่อน โดย ณ วันที่ 29 ธ.ค. 63 เงินบาทปิดที่ 30.07 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ แข็งค่าขึ้น ร้อยละ 0.28 จากสัปดาห์ก่อนหน้า สอดคล้องกับเงินสกุลอื่น ในภูมิภาค อาทิ เงินสกุลยูโร ริงกิต วอน และดอลลาร์สิงคโปร์ ที่แข็งค่าขึ้นจากสัปดาห์ก่อนเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่ค่าเงินสกุลเยน และหยวนอ่อนค่าลงจากสัปดาห์ก่อนเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ทั้งนี้ เงินบาทแข็งค่าขึ้นมากกว่าเงินสกุล หลักอื่น ๆ ส่งผลให้ดัชนีค่าเงินบาท (NEER) แข็งค่าขึ้นร้อยละ 0.18 จากสัปดาห์ก่อน

ที่มา: สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง กระทรวงการคลัง


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ