ฉบับที่ 49/2566 วันที่ 15 มีนาคม 2566
โครงการ
ประกันภัยข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ปีการผลิต 2566
นาย
พรชัย ฐีระเวช ผู้อำนวยการ
สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง ในฐานะโฆษก
กระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า ในการประชุม
คณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 14 มีนาคม 2566
คณะรัฐมนตรีได้มีมติเห็นชอบโครงการ
ประกันภัย
ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ (โครงการฯ) ปีการผลิต 2566 เพื่อใช้เป็นเครื่องมือในการบริหารจัดการความเสี่ยงจากภัยธรรมชาติให้แก่เกษตรกรผู้เพาะปลูก
ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์และเป็นการต่อยอดความช่วยเหลือของภาครัฐ ตามที่
กระทรวงการคลังเสนอ โดยการดำเนินโครงการฯ ปีการผลิต 2566 มีรูปแบบและความคุ้มครอง ดังนี้
1. ผู้รับ
ประกันภัย บริษัทเอกชนที่สมัครเข้าร่วมโครงการ
ประกันภัยข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ปีการผลิต 2566 ตามกรมธรรม์
2. ผู้เอาประกัน เกษตรกรที่ขึ้นทะเบียนเพาะปลูก
ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ และปรับปรุงทะเบียนในปีการผลิต 2566
3. พื้นที่รับ
ประกันภัย ดังนี้ การรับ
ประกันภัยพื้นฐาน (Tier 1) จำนวน 2.06 ล้านไร่ การรับ
ประกันภัย
โดยภาคสมัครใจ (Tier 2) ไม่เกิน 6 หมื่นไร่ รวม Tier 1 และ Tier 2 จำนวน 2.12 ล้านไร่
4. อัตราค่าเบี้ย
ประกันภัย จำแนกเป็น การรับ
ประกันภัยพื้นฐาน (Tier 1) แบ่งเป็น 4 อัตรา (ไม่รวมอากรแสตมป์และภาษีมูลค่าเพิ่ม) ดังนี้ (1) เกษตรกรลูกค้าสินเชื่อ ธ.ก.ส. 160 บาทต่อไร่ เท่ากันทุกพื้นที่ (2) เกษตรกรทั่วไปในพื้นที่เสี่ยงต่ำ 150 บาทต่อไร่ (3) เกษตรกรทั่วไปในพื้นที่เสี่ยงปานกลาง 350 บาทต่อไร่ และ (4) เกษตรกรทั่วไปในพื้นที่เสี่ยงสูง 550 บาทต่อไร่ และการรับ
ประกันภัยส่วนเพิ่ม (Tier 2) แบ่งเป็น 3 อัตรา (เกษตรกรจ่ายเอง พร้อมทั้งอากรแสตมป์และภาษีมูลค่าเพิ่ม) ดังนี้ (1) พื้นที่เสี่ยงต่ำ 90 บาทต่อไร่ (2) พื้นที่เสี่ยงปานกลาง 100 บาทต่อไร่ และ (3) พื้นที่เสี่ยงสูง 110 บาทต่อไร่
5. การอุดหนุนค่าเบี้ย
ประกันภัย ธ.ก.ส. จะอุดหนุนค่าเบี้ย
ประกันภัย 64 บาทต่อไร่ (สูงสุดไม่เกิน
30 ไร่ต่อราย) สำหรับเกษตรกรที่เป็นลูกค้าสินเชื่อเพื่อการเพาะปลูก
ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ปีการผลิต 2566 ของ ธ.ก.ส. และรัฐบาลอุดหนุนค่าเบี้ย
ประกันภัย 96 บาทต่อไร่ พร้อมทั้งภาษีมูลค่าเพิ่มและอากรแสตมป์ ให้แก่ลูกค้าสินเชื่อ ธ.ก.ส. และ 90 บาทต่อไร่ พร้อมทั้งภาษีมูลค่าเพิ่มและอากรแสตมป์ ให้แก่เกษตรกรทั่วไป ทั้งนี้ การอุดหนุนค่าเบี้ย
ประกันภัยดังกล่าวเป็นการอุดหนุนเฉพาะการ
ประกันภัยในส่วนที่ 1 (Tier 1) เท่านั้น
6. วงเงินคุ้มครอง จำแนกเป็นวงเงินคุ้มครองภัยธรรมชาติทั้งหมด 7 ภัย ได้แก่ น้ำท่วม หรือฝนตกหนัก, ภัยแล้ง ฝนแล้งหรือฝนทิ้งช่วง, ลมพายุหรือพายุไต้ฝุ่น, ภัยอากาศหนาวหรือน้ำค้างแข็ง, ลูกเห็บ, ไฟไหม้ และช้างป่า สำหรับการรับ
ประกันภัยพื้นฐาน (Tier 1) มีวงเงินความคุ้มครอง 1,500 บาทต่อไร่ และการรับ
ประกันภัย
โดยภาคสมัครใจ (Tier 2) มีวงเงินความคุ้มครอง 240 บาทต่อไร่ รวมวงเงินความคุ้มครอง Tier 1 และ Tier 2 จำนวน 1,740 บาทต่อไร่ และวงเงินคุ้มครองภัยศัตรูพืชและโรคระบาด การรับ
ประกันภัยพื้นฐาน (Tier 1) มีวงเงินความคุ้มครอง 750 บาทต่อไร่ และการรับ
ประกันภัยโดยภาคสมัครใจ (Tier 2) มีวงเงินความคุ้มครอง 120 บาทต่อไร่ รวมวงเงิน
ความคุ้มครอง Tier 1 และ Tier 2 จำนวน 870 บาทต่อไร่
7. ระยะเวลาการจำหน่ายกรมธรรม์ กำหนดวันเริ่มจำหน่ายกรมธรรม์
ประกันภัยข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ฤดูฝน ตั้งแต่วันที่
คณะรัฐมนตรีมีมติให้ความเห็นชอบโครงการฯ และกรมธรรม์
ประกันภัยและอัตราเบี้ย
ประกันภัยได้รับความเห็นชอบจากสำนักงาน คปภ. จนถึงไม่เกินวันที่ 31 พฤษภาคม 2566 และสำหรับกรมธรรม์
ประกันภัยข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ฤดูแล้ง เริ่มจำหน่ายตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2566 จนถึงไม่เกินวันที่ 15 มกราคม 2567 ทั้งนี้ เกษตรกรสามารถซื้อกรมธรรม์
ประกันภัยได้ที่ ธ.ก.ส. ทุกสาขา
กองนโยบายระบบการคุ้มครองผลประโยชน์ทางการเงิน สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง
โทร. 0 2273 9020 ต่อ 3673
ที่มา: กระทรวงการคลัง