รายงานภาวะเศรษฐกิจรายวันประจำวันที่ 5 กันยายน 2551

ข่าวเศรษฐกิจ Friday September 5, 2008 11:54 —กระทรวงการคลัง

Macro Morning Focus ประจำวันที่ 5 ก.ย. 2551 
SUMMARY:
- นักท่องเที่ยวหลีกเลี่ยงเข้าไทยในช่วงไฮซีซั่นเสียหาย 6 หมื่นล้านบาท
- ธปท. เตรียมใช้เป้าหมายเงินเฟ้อทั่วไปในการดำเนินนโยบาย
- หุ้นเอเซียดิ่งหนักในรอบ 2ปี จากปัจจัยลบหลายประการ
HIGHLIGHT:
1. นักท่องเที่ยวหลีกเลี่ยงเข้าไทยในช่วงไฮซีซั่นเสียหาย 6 หมื่นล้านบาท
- ผู้ประกอบการทัวร์ยอมรับนักท่องเที่ยวแจ้งยกเลิกเที่ยวประเทศไทย หลังเกิดเหตุการณ์วุ่นวายทางการเมือง โดยสภาอุตสาหกรรมท่องเทียวระบุว่าในช่วงไตรมาสที่ 4 ปี 2551 รายได้คาดว่าจะลดลงรวม 5 — 6 หมื่นล้านบาทจากการท่องเที่ยวทั้งหมดซึ่งมีมูลค่า 6 — 7 แสนล้านบาทต่อปี โดยกลุ่มโรงแรมที่ได้รับผลกระทบกระจายอยู่ในจังหวัดต่างๆ เช่น ภูเก็ต หัวหิน ชะอำ รวมทั้งโรงแรมต่างๆในกรุงเทพฯ ซึ่งยอดผู้จองเข้ที่พักในโรงแรมลดลงแล้วประมาณร้อยละ 30 — 40 ของจำนวนผู้เข้าพักในอัตราปกติ
- สศค. วิเคราะห์ว่าในช่วง7เดือนแรกปี2551มีนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางเข้าประเทศไทยจำนวนทั้งสิ้น 9.2 ล้านคน คิดเป็นอัตราการขยายตัวร้อยละ 13.4 โดยหากไม่มีปัจจัยอื่นมากระทบคาดว่าทั้งปีจะเป็นไปตามเป้าหมายที่15.8 ล้านคน ขยายตัวในอัตราร้อยละ 9.4 ต่อปีซึ่งจะนำรายได้เข้าสู่ประเทศเป็นจำนวน 6.7 แสนล้านบาท อย่างไรก็ตาม คาดว่าผลกระทบจากการเมืองจะส่งผลให้รายได้ในไตรมาสที่ 4 ปี 2551 ลดลงประมาณ 5- 6 หมื่นล้านบาทคิดเป็นร้อยละ 40 ของรายได้ในช่วงดังกล่าว และส่งผลให้รายได้รวมจากภาคการท่องเที่ยวลดลงร้อยละ 10 ของรายได้ในปี 2551
2. ธปท. เตรียมใช้เป้าหมายเงินเฟ้อทั่วไปในการดำเนินนโยบาย
- ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) กล่าวถึงการใช้กรอบเป้าหมายในการดำเนินนโยบายการเงินของธปท.ว่า หลังจากที่ ธปท.มีกรรมการนโยบายการเงินชุดใหม่แล้ว น่าจะมีการหารือกันถึงการเปลี่ยนเป้าหมายนโยบายการเงินจากปัจจุบันที่ใช้การดูแลเงินเฟ้อพื้นฐานให้อยู่ในช่วงร้อยละ 0- 3.5 โดยอาจจะเปลี่ยนไปเป็นการใช้เป้าหมายเงินฟ้อทั่วไปแทน แต่ก็จะต้องพิจารณาปัจจัยต่างๆร่วมกันกับคณะกรรมการอีกครั้ง
- สศค. วิเคราะห์ว่า หากธปท.มีการเปลี่ยนเป้าหมายอัตราเงินเฟ้อทั่วไปการดำเนินนโยบายการเงินแทนอัตราเงินเฟ้อพื้นฐานนั้น จะส่งผลดีต่อการควบคุมความคาดหวังของอัตราเงินเฟ้อ (Inflation Expectation) ได้ชัดเจนยิ่งขึ้น เนื่องจากอัตราเงินเฟ้อทั่วไปจะรวมถึงการเปลี่ยนแปลงของราคาในหมวดอาหารสดและราคาพลังงานด้วย ซึ่งในต้นปี 51 เป็นต้นมามีการปรับตัวสูงขึ้นมากในหมวดดังกล่าว โดยเฉพาะราคาน้ำมันดิบที่อยู่ระดับ 108.5 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลในช่วง 8 เดือนแรกปี 51 สูงขึ้นจากปีที่แล้วที่ระดับ 68.4 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่งผลให้อัตราเงินเฟ้อทั่วไปเฉลี่ย สูงถึงร้อยละ 6.7ต่อปี ขณะที่อัตราเงินเฟ้อพื้นฐานอยู่ที่ร้อยละ 2.4 ในช่วง 8 เดือนแรกปี 51
3. หุ้นเอเซียดิ่งหนักในรอบ 2ปีจากปัจจัยลบหลายประการ
- สำนักข่าวรอยเตอร์สรายงานเมื่อวันที่ 4 ก.ย. ว่า ตลาดหุ้นที่สำคัญในเอเชียต่างปรับตัวลดลง อย่างมาก นำโดยดัชนีสเตรตไทมส์สิงค์โปร์ ปิดตัวลดลง 80.48จุด (-2.97%) มาอยู่ที่ 2,626.05 จุด ดัชนีนิกเกอิ ปิดตัวลดลง 13.93 จุด (-1.04%) มาอยู่ที่ 12,557.66 จุด ส่วนดัชนีฮั่งเส็ง ปิดตัวลดลง 195.58 จุด (-1%) มาอยู่ที่ 20,389.48 จุด นับเป็นการปรับตัวลดลงรุนแรงที่สุดในรอบ 2 ปี โดยมีปัจจัยสำคัญจากสัญญาณการอ่อนแรงของเศรษฐกิจโลกทั้งใน สหรัฐและยุโรป รวมทั้งตัวเลขการส่งออกสินค้าเทคโนโลยีที่ลดลง
- สศค. วิเคราะห์ว่า การปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่องของตลาดหุ้นต่างๆในโลก ไม่ว่าจะเป็นตลาดหุ้นสหรัฐฯ, ยุโรป และเอเซีย ล้วนสะท้อนภาพการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลก อันสืบเนื่องมาจากปัญหาวิกฤติทางการเงินของตลาดซับไพรม์สหรัฐฯ ที่ยังคงส่งผลกระทบมานับจากปีที่ผ่านมา ประกอบกับการอ่อนค่าลงของเงินดอลล่าร์สหรัฐฯยิ่งทำให้นักลงทุนเคลื่อนย้ายเม็ดเงินออกจากตลาดหุ้นไปสู่ตลาดที่มีความเสี่ยงน้อยกว่าเช่นตลาดสินค้าโภคภัณฑ์ ทั้งนี้ทาง สศค. คาดว่าอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจของ14ประเทศคู่ค้าหลักของไทยจะอยู่ที่ร้อยละ4.5ต่อปี ชะลอลงจากร้อยละ5.2ต่อปีในปีก่อน (คาดการณ์ ณ มิ.ย. 51)
ที่มา: Macroeconomic Analysis Group: Fiscal Policy Office
Tel 02-273-9020 Ext 3665 : www.fpo.go.th

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ