สรุปผลการสำรวจภาวะการทำงานของประชากร เดือน กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2566

ข่าวผลสำรวจ Monday March 27, 2023 13:15 —สำนักงานสถิติแห่งชาติ

ส นักงานสถิติแห่งชาติ ด เนินการส รวจภาวะการท งานของประชากร หรือส รวจแรงงาน

อย่างต่อเนื่องเป็นประจ ทุกปีเริ่มตั้งแต่ปี2506 โดยในช่วงแรกส รวจเพียงปีละ 2 รอบ รอบแรกเป็นการ

ส รวจนอกฤดูเกษตร และรอบที่ 2 เป็นฤดูเกษตร ต่อมาในปี2527 - 2540 ส รวจปีละ 3 รอบ โดยเพิ่ม

การส รวจช่วงเดือนพฤษภาคม เพื่อให้มีข้อมูลแรงงานที่จบการศึกษาใหม่เข้าสู่ตลาดแรงงาน และ

ในปี 2541 ได้เพิ่มการส รวจขึ้นอีก 1 รอบ คือเดือนพฤศจิกายนซึ่งเป็นช่วงฤดูกาลเก็บเกี่ยวผลผลิต

การเกษตร ท ให้การส รวจภาวะการท งานของประชากรมีข้อมูลครบทั้ง 4 ไตรมาส ในปี 2544

ส นักงานสถิติแห่งชาติได้ปรับปรุงการส รวจเป็นรายเดือน ทั้งนี้เพื่อให้สามารถติดตามภาวะการมีงานท

ของประชากรได้อย่างต่อเนื่องทุกเดือนโดยน เสนอผลการส รวจในระดับภาค และประเทศ

ผลการส รวจภาวะการท งานของประชากรเดือนกุมภาพันธ์พ.ศ. 2566 พบว่าผู้มีอายุตั้งแต่ 15 ปีขึ้นไป

จ นวน 58.81 ล้านคน เป็นผู้ที่อยู่ในก ลังแรงงานหรือผู้ที่พร้อมจะท งาน 40.49 ล้านคน ซึ่งประกอบด้วย

ผู้มีงานท 39.91 ล้านคน ผู้ว่างงาน 0.36 ล้านคน และผู้ที่รอฤดูกาล 0.22 ล้านคน ส่วนผู้ที่อยู่นอกก ลัง

แรงงานหรือผู้ที่ไม่พร้อมท งาน 18.32 ล้านคน ได้แก่ แม่บ้าน นักเรียน คนชรา เป็นต้น

การมีงานท

เปรียบเทียบจ นวนผู้มีงานท จ แนกตามกิจกรรมทางเศรษฐกิจ

ส หรับเดือนกุมภาพั นธ์ พ.ศ. 2566 จ นวน

ผู้มีงานท 39.91 ล้านคน ประกอบด้วยผู้มีงานท ใน

ภาคเกษตรกรรม 11.74 ล้านคน และนอกภาคเกษตรกรรม

28.17 ล้านคน เมื่อเปรียบเทียบกับเดือนมก ราคม

พ.ศ. 2566 พบว่า ผู้มีงานท เพิ่มขึ้น 0.57 ล้านคน

(จาก 39.34 ล้านคน เป็น 39.91 ล้านคน)

ผู้มีงานท ในภาคเกษตรกรรม มีจ นวนเพิ่มขึ้น

0.82 ล้ นคน โดยเพิ่ มขึ้นในกิจกรรมการปลูกอ้อย

การปลูกต้นยางพารา และการปลูกมันส ปะหลัง

จ นวนผู้ท งานนอกภาคเกษตรกรรม ในภาพรวม

ลดลง 0.25 ล้านคน

โดยสาขาที่ลดลง 3 ล ดับแรก ได้แก่ สาขา

การขายส่ ง แล การขายปลี กฯ ลดลง 3.8 แสนคน

การก่อสร้าง ลดลง 2.9 แสนคน และที่พักแรม และ

การบริการด้านอาหาร ลดลง 2.3 แสนคน

ส่วนสาขาที่เพิ่มขึ้น ได้แก่ การผลิต เพิ่มขึ้น

3.2 แสนคน สาขาการบริหารราชการ การป้องกันประเทศฯ

เพิ่มขึ้น 1.6 แสนคน และสาขาข้อมูลข่าวสารและการสื่อสาร

เพิ่มขึ้นเท่ากันกับสาขาศิลปะ ความบันเทิงฯ (1.0 แสนคน)

จ นวนผู้มีงานท จ แนกตามชั่วโมงท งานต่อสัปดาห์และเพศ

อพิจารณาถึงชั่วโมงท งานของผู้มีงานท ต่อสัปดาห์ในเดือนกุมภาพั นธ์พ.ศ. 2566 พบว่า

ผู้ท งานตั้งแต่ 35-49 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ มีจ นวน 26.38 ล้านคน หรือร้อยละ 66.1 ของผู้มีงานท ทั้งหมด และ

ผู้ท งาน 50 ชั่วโมงขึ้นไปต่อสัปดาห์มีจ นวน 7.67 ล้านคน (ร้อยละ 19.2) ส หรับผู้ที่ท งานน้อยกว่า 35 ชั่วโมง

ต่อสัปดาห์มีจ นวน 5.86 ล้านคน (ร้อยละ 14.7)

จ นวนผทู้ งานต กว่าระดับ (ด้านเวลา) จ แนกตามเพศ

การท งานต กว่าระดับด้านเวลา หากพิ จารณาถึงจ นวนผู้มีงานท แต่ยังท งานได้ไม่เต็มเวลา

ซึ่งหมายถึงผู้ท งานน้อยกว่า 35 ชั่วโมงต่อสัปดาห์และต้องการท งานเพิ่มหรือเรียกว่าผู้ท งานต กว่าระดับ

ด้านเวลา (Time-Related Underemployment workers) จากผลการส รวจพบว่า มีผู้ท งานต กว่าระดับ

ด้านเวลาจ นวน 2.48 แสนคน หรือร้อยละ 0.6 ของจ นวนผู้ท งานทั้งหมด เมื่อพิจารณาตามเพศพบว่า

มีเพศชายมากกว่าเพศหญิง (จ นวน 1.39 แสนคน และ 1.09 แสนคน ตามล ดับ)

การว่างงาน

เปรียบเทียบจ นวนและอัตราการว่างงาน จ แนกตามภาค

ในเดือนกุมภาพันธ์2566 พบว่า มีจ นวนผู้ว่างงาน 3.58 แสนคน คิดเป็นอัตราการว่างงาน

ร้อยละ 0.9 เมื่อเปรียบเทียบกับเดือนมกราคม พ.ศ. 2566 จะเห็นได้ว่าจ นวนผู้ว่างงานทั่วประเทศลดลง

1.32 แสนคน (จาก 4.90 แสนคน เป็น 3.58 แสนคน) เมื่อพิจารณาเป็นรายภาค พบว่า เกือบทุกภาคมีจ นวน

ผู้ว่างงานลดลง ยกเว้นภาคกลาง เพิ่มขึ้น 0.7 แสนคน

เปรียบเทียบจ นวนและอัตราการว่างงาน จ แนกตามเพศและกลุ่มอาย

จ นวนผู้ว่างงาน ในเดือนกุมภาพันธ์2566 มีทั้งสิ้น 3.58 แสนคน หรือคิดเป็นอัตราการว่างงาน

ร้อยละ 0.9 เมื่อเปรียบเทียบกับเดือนมกราคม 2566 จ นวนผู้ว่างงานลดลง 1.32 แสนคน และอัตรา

การว่างงานลดลง จากร้อยละ 1.2 เป็น ร้อยละ 0.9

อัตราการว่างงานตามเพศ พบว่า เพศชายมีอัตราการว่างงานมากกว่าเพศหญิง (ร้อยละ 0.9 และ

ร้อยละ 0.8 ตามล ดับ) เมื่อเปรียบเทียบกับเดือนมกราคม 2566 พบว่า อัตราการว่างงานทั้งเพศชายและ

เพศหญิงลดลง

อัตราการว่างงานตามกลุ่มอายุ พบว่า วัยเยาวชน (อายุ 15-24 ปี) มีอัตราการว่างงานลดลงจาก

เดือนมกราคม 2566 คือร้อยละ 5.8 เป็นร้อยละ 4.5 และวัยผู้ใหญ่ (อายุ 25 ปีขึ้นไป) มีอัตราการว่างงาน

ลดลงเช่นเดียวกัน คือร้อยละ 0.8 เป็นร้อยละ 0.5

เปรียบเทยี บจ นวนผวู้ งงาน จ แนกตามระดบั การศกึ ษาที่ส เร็จ

ระดับการศึกษาที่ส เร็จของผู้ว่างงาน

ในเดือนกุมภาพั นธ์ 2566 พบว่าผู้ว่างงาน

ส เร็จการศึกษาในระดับอุดมศึกษามากที่สุด

1.38 แสนคน รองลงมาเป็นระดับมัธยมศึกษา

ตอนปลาย 0.58 แสนคน มัธยมศึกษาตอนต้น

0.51 แสนคน และระดับประถมศึกษา 0.41 แสนคน

ตามล ดับ

เมื่อเปรียบเทียบกับเดือนมกราคม 2566

พบว่าผู้ว่างงานที่ไม่มีการศึกษาและต กว่า

ระดับประถมศึกษา ไม่เปลี่ยนแปลง

ขณะที่ผู้ว่างงานที่ส เร็จการศึกษาใน

ระดับต่าง ๆ มีจ นวนลดลง โดยผู้ที่ส เร็จ

การศึกษาระดับอุดมศึกษามีจ นวนลดลง

มากที่สุด

ที่มา : สำนักงานสถิติแห่งชาติ


แท็ก ข้อมูล  

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ