สรุปภาวะเศรษฐกิจอุตสาหกรรมไตรมาสที่ 4 ปี 2558 (ตุลาคม - ธันวาคม 2558)(อุตสาหกรรมสิ่งทอและเครื่องนุ่งห่ม)

ข่าวเศรษฐกิจ Monday February 15, 2016 16:48 —สำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม

สถานการณ์การผลิตอุตสาหกรรมสิ่งทอและเครื่องนุ่งห่มไตรมาส 4ปี 2558 เมื่อเปรียบเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อนส่วนใหญ่ปรับตัวลดลงทั้งกลุ่มสิ่งทอและกลุ่มเสื้อผ้าสำเร็จรูป ยกเว้นเพียงผลิตภัณฑ์เส้นใยประดิษฐ์ยังขยายตัวได้ทั้งภาคการผลิตและการจำหน่ายในประเทศ เส้นใยสิ่งทอฯ ลดลงจากความต้องใช้ในประเทศเนื่องจากผู้ผลิตมีสต๊อกค่อนข้างมาก ในขณะที่การทอสิ่งทอ (ผ้าผืน) ลดลง ทั้งในส่วนการผลิตและการจำหน่าย ประกอบกับคำสั่งซื้อของตลาดส่งออกหลักลดลง โดยเฉพาะจากเวียดนาม และจีน ซึ่งเป็นตลาดคู่ค้าหลัก สำหรับกลุ่มเครื่องนุ่งห่ม การผลิตลดลงทั้งในส่วนเสื้อผ้าสำเร็จรูปจากผ้าถักและผ้าทอ อย่างไรก็ตาม การจำหน่ายในประเทศยังขยายตัวได้ตามมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐ และการส่งเสริมกลยุทธ์ทางการตลาดของภาคเอกชน

การผลิตและการจำหน่าย

กลุ่มสิ่งทอ ไตรมาส 4ปี 2558เมื่อพิจารณาจากดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรม การผลิตผลิตภัณฑ์เส้นใยประดิษฐ์เพิ่มขึ้น ร้อยละ 2.88 และ 1.86 เมื่อเปรียบเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อน และไตรมาสที่ผ่านมา ตามลำดับ เป็นการผลิตเพื่อตอบสนองผู้ผลิตในประเทศ สอดคล้องกับดัชนีการส่งสินค้าที่เพิ่มขึ้น ร้อยละ 6.99 และ 1.19 ตามลำดับ ในส่วนการจัดเตรียมและการปั่นเส้นใยสิ่งทอดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรมลดลง ร้อยละ 2.10 และ 0.36 เมื่อเปรียบเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อน และ ไตรมาสที่ผ่านมา ตามลำดับ ในขณะที่ดัชนีการส่งสินค้าเพิ่มขึ้น ร้อยละ 3.28 และ 2.89 ส่วนใหญ่ขยายตัวจากการจำหน่ายในประเทศ สำหรับการทอสิ่งทอ (ผ้าผืน)มีการผลิตลดลง ร้อยละ 10.82 และ 2.03 ตามลำดับ ตามความต้องการที่ชะลอตัวเพื่อใช้ในกระบวนการผลิตอุตสาหกรรมต่อเนื่อง ประกอบกับบางส่วนมีการนำเข้าจากต่างประเทศ เพื่อตอบสนองความต้องการที่หลากหลาย ในส่วนการจำหน่ายลดลง ร้อยละ 5.95 เมื่อเปรียบเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อนแต่หากเปรียบเทียบกับไตรมาสที่ผ่านมาเพิ่มขึ้น ร้อยละ 7.31 จากการจำหน่ายในประเทศ (ตารางที่ 1 และ 2)

กลุ่มเครื่องนุ่งห่มไตรมาส 4ปี 2558เมื่อพิจารณาจากดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรม การผลิตผ้าที่ได้จากการถักนิตติ้งและโครเชท์ (เสื้อผ้าสำเร็จรูปผลิตจากผ้าถัก) ลดลง ร้อยละ 5.04 และ 6.68เมื่อเปรียบเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อน และไตรมาสที่ผ่านมา ตามลำดับ แต่ดัชนีการส่งสินค้าเพิ่มขึ้น ร้อยละ 5.69 และ 0.82เป็นผลจากความต้องการของผู้บริโภคที่เพิ่มขึ้นจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐโดยเฉพาะผลิตภัณฑ์เสื้อยืด กางเกง เสื้อผ้ากันหนาว มียอดจำหน่ายเพิ่มขึ้น จากสภาพอากาศที่เย็นลงกิจกรรมBike for Dadและการส่งเสริมยอดขายที่มีการกระตุ้นตลาดของแบรนด์เสื้อผ้าต่าง ๆประกอบกับการส่งเสริมให้ไทยเป็น Sport hub เพื่อยกระดับให้เป็นศูนย์กลางด้านกีฬาในภูมิภาคอาเซียน ซึ่งจะส่งผลดีต่ออุตสาหกรรมสิ่งทอและเครื่องนุ่งห่มไทยในช่วงภาวะเศรษฐกิจทั้งภายในและภายนอกที่ชะลอตัว ในส่วนการผลิตเครื่องแต่งกาย ยกเว้นเครื่องแต่งกายที่ผลิตจากขนสัตว์ (เสื้อผ้าสำเร็จรูปผลิตจากผ้าทอ) ดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรมปรับตัวลดลง ร้อยละ 24.45 และ 9.35 เมื่อเปรียบเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อนและไตรมาสที่ผ่านมาตามลำดับตามภาวะเศรษฐกิจชะลอตัวของตลาดส่งออกหลักสอดคล้องกับดัชนีการส่งสินค้าที่ลดลง ร้อยละ 18.70 และ 3.22(ตารางที่ 1 และ 2)

หากพิจารณาข้อมูลโรงงานสิ่งทอและเครื่องนุ่งห่ม การประกอบกิจการไตรมาส 4ปี 2558 พบว่า มีโรงงานประกอบกิจการใหม่ จำนวน 26 โรงงาน กว่าร้อยละ 69.23 เป็นโรงงานประกอบกิจการสิ่งทอ มีเงินลงทุนรวม 2,040.87ล้านบาท และจ้างแรงงานรวม 2,225คน นอกจากนี้มีโรงงานขอขยายกิจการ จำนวน 9 โรงงาน เป็นโรงงานประกอบกิจการย้อมสีเส้นใย ถักผ้าลูกไม้และแต่งสำเร็จผ้าตบแต่งสิ่งทอ และผลิตเชือก ประเภทละ 1 โรงงาน การทอ 2 โรงงาน และเสื้อผ้าสำเร็จรูป 3โรงงาน มีเงินทุนรวม 1,056.46 ล้านบาท สำหรับโรงงานที่ขอยกเลิกกิจการ จำนวน 25 โรงงาน เป็นโรงงานประกอบกิจการเสื้อผ้าสำเร็จรูป จำนวน 8โรงงาน หรือคิดเป็นร้อยละ 32ของโรงงานที่ขอยกเลิกกิจการ

การตลาด

การค้าระหว่างประเทศ

การส่งออก

ไตรมาส 4ปี 2558 อุตสาหกรรมสิ่งทอและเครื่องนุ่งห่ม มีมูลค่าการส่งออก 1,671.42ล้านเหรียญสหรัฐฯ ลดลง ร้อยละ 9.14เมื่อเปรียบเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อน(ตารางที่ 3) ซึ่งเป็นผลจากการส่งออกลดลงในตลาดหลัก ได้แก่ อาเซียน ญี่ปุ่น สหรัฐอเมริกา และสหภาพยุโรป และหากเปรียบ เทียบกับไตรมาสที่ผ่านมา การส่งออกลดลงในตลาดญี่ปุ่น สหรัฐอเมริกา และสหภาพยุโรป แต่เพิ่มขึ้นในตลาดอาเซียน สำหรับผลิตภัณฑ์สิ่งทอและเครื่องนุ่งห่มที่สำคัญในไตรมาสนี้ ได้แก่

1. กลุ่มสิ่งทอ มีมูลค่าการส่งออก 1,017.52ล้านเหรียญสหรัฐฯ ลดลง ร้อยละ 11.98และ 5.09เมื่อเปรียบเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อนและไตรมาสที่ผ่านมาตามลำดับในผลิตภัณฑ์ผ้าผืนและด้าย เคหะสิ่งทอ เส้นใยประดิษฐ์ ผ้าปักและผ้าลูกไม้ ตาข่ายจับปลา ผ้าแบบสำหรับตัดเสื้อ และสิ่งทออื่น ๆ โดยมูลค่าการส่งออกผลิตภัณฑ์ในกลุ่มสิ่งทอ คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 60.88 ของการส่งออกสิ่งทอและเครื่องนุ่งห่มทั้งหมด สำหรับการส่งออกผลิตภัณฑ์สำคัญ มีดังนี้

1) ผ้าผืนและด้าย ไตรมาส 4ปี 2558 มีมูลค่าการส่งออก519.50 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ลดลงร้อยละ 14.51 และ 6.57 เมื่อเปรียบเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อน และไตรมาสที่ผ่านมาตามลำดับ ส่วนหนึ่งเป็นผลจากเวียดนามลดการนำเข้า เนื่องจากเวียดนามมีการพัฒนาการผลิตในส่วนอุตสาหกรรมกลางน้ำ เช่น ปั่นด้าย เพิ่มขึ้น จากการเข้าไปลงทุนของจีน และไต้หวัน โดยในส่วนของผ้าผืน มีมูลค่าการส่งออก 339.53ล้านเหรียญสหรัฐฯ ด้ายและเส้นใย มีมูลค่าการส่งออก 179.97ล้านเหรียญสหรัฐฯ ซึ่งมูลค่าการส่งออกผ้าผืนและด้าย คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 34.64ของมูลค่าการส่งออกในกลุ่ม สิ่งทอ โดยมีประเทศบังคลาเทศ เวียดนาม จีน ญี่ปุ่น บังคลาเทศ และ เมียนมาร์ เป็นตลาดส่งออกสำคัญ

2) เคหะสิ่งทอ ไตรมาส 4ปี 2558 มีมูลค่าการส่งออก 67.63 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ลดลง ร้อยละ 13.61และ 0.44เมื่อเปรียบเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อน และไตรมาสที่ผ่านมา ตามลำดับเนื่องจากประเทศญี่ปุ่น และสหรัฐอเมริกาซึ่งเป็นผู้นำเข้ารายใหญ่ลดการนำเข้าจากไทย ร้อยละ 12.46และ 26.79ตามลำดับ ส่งผลให้ภาพรวมการส่งออกเคหะสิ่งทอปรับลดลง โดยตลาดส่งออกสำคัญ ได้แก่ ญี่ปุ่น สหรัฐอเมริกาออสเตรเลีย และอินเดีย

3) เส้นใยประดิษฐ์ไตรมาส 4ปี 2558 มีมูลค่าการส่งออก 168.70 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ลดลง ร้อยละ 13.19 และ 7.53 เมื่อเปรียบเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อน และไตรมาสที่ผ่านมา ตามลำดับ ส่วนใหญ่เป็นการผลิตเพื่อใช้ในประเทศเป็นหลัก ทำให้สัดส่วนการส่งออกลดลง ประกอบกับตลาดหลัก เช่น จีน อินโดนีเซีย เวียดนาม และปากีสถาน มีมูลค่าการส่งออกลดลง ร้อยละ 8.8535.08 13.25และ25.66โดยมีตลาดส่งออกสำคัญ ได้แก่ จีนอินโดนีเซีย เวียดนาม ตุรกี และอินเดีย

4)สิ่งทออื่นๆ ไตรมาส 4ปี 2558 มีมูลค่าการส่งออก 171.04 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ลดลงเล็กน้อยร้อยละ 0.83 และ 0.16 เมื่อเปรียบเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อน และไตรมาสที่ผ่านมา ตามลำดับ โดยตลาดส่งออกสำคัญ ได้แก่ ญี่ปุ่น อินโดนีเซียจีน เวียดนาม และอินเดีย

2. กลุ่มเครื่องนุ่งห่มไตรมาส 4ปี 2558 มีมูลค่าการส่งออก 653.90ล้านเหรียญสหรัฐฯลดลง ร้อยละ 4.32และ 1.15เมื่อเปรียบเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อน และไตรมาสที่ผ่านมา ตามลำดับ โดยมูลค่าการส่งออกผลิตภัณฑ์ในกลุ่มเครื่องนุ่งห่ม คิดเป็นสัดส่วน ร้อยละ 39.12ของมูลค่าการส่งออก สิ่งทอและเครื่องนุ่งห่มทั้งหมด สำหรับการส่งออกผลิตภัณฑ์สำคัญ คือ

1) เสื้อผ้าสำเร็จรูป มีมูลค่าการส่งออก 563.38ล้านเหรียญสหรัฐฯ ลดลง ร้อยละ 4.13 และ 1.68เมื่อเปรียบเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อน และไตรมาสที่ผ่านมา ตามลำดับ ซึ่งเป็นผลจากการส่งออกลดลงในตลาดคู่ค้าสำคัญ ได้แก่ อาเซียนและสหภาพยุโรป ลดลงร้อยละ 7.92 และ 13.98 ตามลำดับ โดยเฉพาะเสื้อผ้าสำเร็จรูปทำจากฝ้าย ใยประดิษฐ์ ไหม และเสื้อผ้าเด็กอ่อน ตามภาวะเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัว

2) เครื่องยกทรง รัดทรง และส่วนประกอบ มีมูลค่าการส่งออก 59.98ล้านเหรียญสหรัฐฯ ลดลง ร้อยละ 5.00เมื่อเปรียบเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อน แต่เมื่อเทียบกับไตรมาสที่ผ่านมาเพิ่มขึ้น ร้อยละ 11.16ตามลำดับ ซึ่งเป็นผลจากการส่งออกเพิ่มขึ้นในตลาดคู่ค้าสำคัญ ได้แก่สหรัฐอเมริกา ญี่ปุ่น ผรั่งเศส และไต้หวัน

การนำเข้า

ไตรมาส 4ปี 2558 มีการนำเข้าสิ่งทอและเครื่องนุ่งห่มคิดเป็นมูลค่า 1,075.15ล้านเหรียญสหรัฐฯ ลดลง ร้อยละ 7.31และ 3.86เมื่อเปรียบเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อน และไตรมาสที่ผ่านมา ตามลำดับ (ตารางที่ 4) โดยผลิตภัณฑ์ที่นำเข้าส่วนใหญ่กว่าร้อยละ 82จะเป็นสิ่งทอต้นน้ำสำหรับใช้เป็นวัตถุดิบในการผลิตสินค้าสำเร็จรูป ซึ่งผลิตภัณฑ์นำเข้าสำคัญ แบ่งเป็น 2 กลุ่ม ดังนี้

1. กลุ่มสิ่งทอ มีมูลค่าการนำเข้า (ด้ายและเส้นใย ผ้าผืน และผลิตภัณฑ์สิ่งทออื่น ๆ) รวมทั้งสิ้น 882.76 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ลดลง ร้อยละ 11.33และ 4.76เมื่อเปรียบเทียบกับไตรมาสเดียวกันของ ปีก่อนและไตรมาสที่ผ่านมา ตามลำดับ เนื่องจากความต้องการใช้เพื่อการผลิตผลิตภัณฑ์ต่อเนื่องลดลงทั้งด้าย เส้นใย และผ้าผืน ประกอบกับมีสินค้าคงคลังในสต๊อกจำนวนมาก โดยมูลค่าการนำเข้าในกลุ่มนี้ คิดเป็นสัดส่วนการนำเข้าถึงร้อยละ 82.11 ของมูลค่าการนำเข้าสิ่งทอและเครื่องนุ่งห่มทั้งหมด ซึ่งผลิตภัณฑ์สำคัญ มีดังนี้

1) เส้นใยที่ใช้ในการทอ มีมูลค่าการนำเข้า 148.23ล้านเหรียญสหรัฐฯ ลดลง ร้อยละ 26.92และ22.95เมื่อเปรียบเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อน และไตรมาสที่ผ่านมาตามลำดับ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นการนำเข้าเส้นใยฯ ที่ไม่สามารถผลิตได้ในประเทศ โดยตลาดนำเข้าสำคัญ ได้แก่ บราซิล ออสเตรเลียสหรัฐอเมริกาไต้หวัน และอินเดีย

2)ด้ายทอผ้าและเส้นด้ายมีมูลค่าการนำเข้า 155.70ล้านเหรียญสหรัฐฯ ลดลง ร้อยละ 18.20และ12.11เมื่อเปรียบเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อน และไตรมาสที่ผ่านมา ตามลำดับ เนื่องจากราคาที่นำเข้าถูกกว่าที่ผลิตได้ในประเทศ โดยตลาดนำเข้าสำคัญ ได้แก่ จีน ญี่ปุ่น ไต้หวันเวียดนาม และอินโดนีเซีย

3)ผ้าผืน มีมูลค่าการนำเข้า 413.26 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ลดลง ร้อยละ 4.05 เมื่อเปรียบเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อน แต่เพิ่มขึ้นเล็กน้อย ร้อยละ 0.77 เมื่อเปรียบเทียบกับไตรมาส ที่ผ่านมา ส่วนหนึ่งมาจากการผลิตภายในลดลงมาก และมีโรงงานทอเส้นด้ายและทอผ้า ปิดกิจการใน ไตรมาสนี้จำนวน6โรงงาน ในขณะเดียวกันมีโรงงานขอขยายกิจการจำนวน 7 โรงงาน ซึ่งอาจต้องติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดต่อไป โดยตลาดนำเข้าสำคัญ ได้แก่ จีน ไต้หวัน ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ และเวียดนาม

4)ผลิตภัณฑ์สิ่งทออื่นๆ มีมูลค่าการนำเข้า 118.62 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ลดลง ร้อยละ5.05 เมื่อเปรียบเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อน แต่เพิ่มขึ้น ร้อยละ 15.21 เมื่อเปรียบเทียบกับไตรมาสที่ผ่านมา โดยตลาดนำเข้าสำคัญ ได้แก่ จีนญี่ปุ่น สหรัฐอเมริกา เกาหลีใต้ และไต้หวัน

2. กลุ่มเสื้อผ้าสำเร็จรูป มีมูลค่าการนำเข้าทั้งสิ้น 192.39ล้านเหรียญสหรัฐฯ เพิ่มขึ้น ร้อยละ 17.01และ0.48 เมื่อเปรียบเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อน และไตรมาสที่ผ่านมา ตามลำดับซึ่งเป็นการนำเข้าเสื้อผ้าสำเร็จรูปจากประเทศจีนเวียดนาม บังคลาเทศ อิตาลี และกัมพูชา เพิ่มขึ้น คิดเป็นสัดส่วน ร้อยละ 17.89 ของมูลค่าการนำเข้าสิ่งทอและเครื่องนุ่งห่มทั้งหมด

นโยบายภาครัฐที่เกี่ยวข้อง

สหภาพยุโรปได้ออกระเบียบปรับปรุงรายการสินค้าอุตสาหกรรมที่ได้รับยกเว้นและลดหย่อนภาษี ซึ่งสิ่งทอและเครื่องนุ่งห่มเป็นหนึ่งในสินค้าอุตสาหกรรมที่จะได้รับการยกเว้น โดยระยะเวลาในการได้รับยกเว้นภาษีสำหรับสินค้าส่วนใหญ่กำหนดไว้ 3 ปี ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2559 ถึง 31 ธันวาคม 2561 ซึ่งจะเป็นการยกเว้นภาษีฝ่ายเดียวเป็นการชั่วคราว เนื่องจากเป็นรายการสินค้าที่มีการผลิตในสหภาพยุโรป แต่ไม่เพียงพอต่อความต้องการของอุตสาหกรรมภายใน ดังนั้น การยกเว้นภาษีดังกล่าวจึงถือเป็นการยกเว้นภาษีนำเข้าสำหรับสินค้าวัตถุดิบที่ขาดแคลนในสหภาพยุโรป โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนาภาคธุรกิจและอุตสาหกรรมโดยเฉพาะ SMEs ของสหภาพยุโรป ให้มีศักยภาพในการแข่งขัน มีการจ้างงาน และปรับโครงสร้างการผลิตให้ทันสมัย

สรุปและแนวโน้ม

สรุป

กลุ่มสิ่งทอการผลิตผลิตภัณฑ์เส้นใยประดิษฐ์ ไตรมาส 4ปี 2558 เมื่อเปรียบเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อนเพิ่มขึ้น ร้อยละ 2.88 และ1.86ตามลำดับ สอดคล้องกับการจำหน่ายที่เพิ่มขึ้น ในส่วนการจัดเตรียมและการปั่นเส้นใยสิ่งทอ และการทอสิ่งทอ ลดลงทั้งภาคการผลิตและการจำหน่าย ส่วนหนึ่งเป็นผลจากความต้องการของอุตสาหกรรมต่อเนื่องภายในหดตัวประกอบกับคำสั่งซื้อของตลาดส่งออกหลักลดลง โดยเฉพาะจากเวียดนาม และจีน

กลุ่มเครื่องนุ่งห่ม การผลิตเสื้อผ้าสำเร็จรูปจากผ้าถัก ลดลง เมื่อเปรียบเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อน และไตรมาสที่ผ่านมา ส่วนการจำหน่ายเพิ่มขึ้น เมื่อเปรียบเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อน และไตรมาสที่ผ่านมา เป็นผลจากความต้องการของผู้บริโภคที่เพิ่มขึ้นจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐ เช่น กิจกรรม Bike for Dadการส่งเสริมให้ไทยเป็นศูนย์กลางด้านกีฬาในภูมิภาคอาเซียน และการส่งเสริมยอดขายที่มีการกระตุ้นตลาดของแบรนด์เสื้อผ้าต่าง ๆ ในส่วนเสื้อผ้าสำเร็จรูปจากผ้าทอ การผลิตและการจำหน่ายลดลง เมื่อเปรียบเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อน และไตรมาสที่ผ่านมาสำหรับการส่งออกลดลงตามภาวะเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัวในตลาดคู่ค้าหลัก และจากการถูกยกเลิกสิทธิพิเศษทางภาษีศุลกากร (GSP) เมื่อปีที่ผ่านมา

แนวโน้ม

ไตรมาส 1ปี 2559อุตสาหกรรมสิ่งทอและเครื่องนุ่งห่ม คาดว่า ทั้งภาคการผลิตและการจำหน่ายจะปรับตัวตามทิศทางตลาดในประเทศที่ดีขึ้นตามฤดูกาล ประกอบกับผู้ประกอบการในกลุ่มสิ่งทอและเครื่องนุ่งห่ม ได้มีการปรับตัวเพื่อยกระดับสู่ขั้นตอนการผลิตที่เพิ่มมูลค่าสูงขึ้นในห่วงโซ่คุณค่า ในส่วนการส่งออก คาดว่า จะมีแนวโน้มฟื้นตัวตามภาวะเศรษฐกิจโลกและประเทศคู่ค้า ซึ่งไทยยังเป็นผู้ผลิตเส้นใย และได้เปรียบคู่แข่งในอาเซียนในอุตสาหกรรมต้นน้ำสำหรับเครื่องนุ่งห่มโดยเฉพาะเสื้อผ้าสำเร็จรูปแฟชั่น คาดว่า อาจขยายตัวตามความต้องการสินค้าแฟชั่นและความนิยมสินค้าหรูแบรด์ดังจากต่างประเทศ

--สำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม กระทรวงอุตสาหกรรม--


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ