
บมจ. เมืองไทย แคปปิตอล (MTC) ประสบความสำเร็จดีเกินคาด หุ้นกู้ 3 ชุดใหม่ ขายเกลี้ยง มูลค่า 7,800 ล้านบาท สะท้อนความเป็นผู้นำในธุรกิจไมโครไฟแนนซ์มาตรฐานระดับโลก (World-class Thai Microfinance) พร้อมส่งมอบแหล่งเงินทุนคุณภาพแก่ประชาชนอย่างทั่วถึงและเท่าเทียม สร้างรากฐานการเติบโตทางเศรษฐกิจที่ยั่งยืน
นายปริทัศน์ เพชรอำไพ รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท เมืองไทย แคปปิตอล จำกัด (มหาชน) (MTC) ผู้ให้บริการทางการเงินในมาตรฐานระดับโลกที่มุ่งมั่นส่งมอบแหล่งเงินทุนคุณภาพแก่ประชาชนทุกกลุ่มอาชีพอย่างทั่วถึงและเท่าเทียม สนับสนุนกิจการท้องถิ่นให้เติบโตอย่างมีเสถียรภาพ สร้างรากฐานการเติบโตทางเศรษฐกิจที่ยั่งยืน เปิดเผยว่า หุ้นกู้ 3 ชุดใหม่ มูลค่ารวม 7,800 ล้านบาท ที่บริษัทฯ เปิดขายระหว่างวันที่ 27-29 พฤษภาคม 2568 ที่ผ่านมา ให้แก่ผู้ลงทุนทั่วไป (Public Offering) ได้รับการตอบรับจากนักลงทุนอย่างดีเยี่ยม โดยขายหมดทั้งจำนวน สะท้อนความเชื่อมั่นของนักลงทุนที่มีต่อบริษัทฯ ในฐานะผู้ประกอบการรายใหญ่ที่สุดในกลุ่มธุรกิจสินเชื่อทะเบียนรถจักรยานยนต์ในประเทศไทย หากพิจารณาจากมูลค่าเงินให้สินเชื่อและจำนวนสาขา

โดยหุ้นกู้ชุดนี้เป็นหุ้นกู้ชนิดระบุชื่อผู้ถือ ประเภทไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีประกัน และมีผู้แทนผู้ถือหุ้นกู้ ประกอบด้วย หุ้นกู้อายุ 3 ปี 11 เดือน 29 วัน อัตราดอกเบี้ยคงที่ 3.90% ต่อปี หุ้นกู้อายุ 4 ปี 11 เดือน 28 วัน อัตราดอกเบี้ยคงที่ 4.10% ต่อปี และ หุ้นกู้อายุ 6 ปี 11 เดือน 25 วัน อัตราดอกเบี้ยคงที่ 4.30% ต่อปี มีกำหนดชำระดอกเบี้ยทุก ๆ 3 เดือน ตลอดอายุหุ้นกู้ และมีวัตถุประสงค์ของการออกและเสนอขายหุ้นกู้ครั้งนี้ เพื่อไปใช้ชำระคืนหนี้จากการออกหุ้นกู้ (roll-over) และเพื่อขยายพอร์ตสินเชื่อของบริษัทฯ
รองกรรมการผู้จัดการ MTC กล่าวอีกว่า ในไตรมาส 1/2568 ที่ผ่านมา พอร์ตสินเชื่อรวมอยู่ที่ 167,560 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 13.5% รายได้รวม 7,242 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 9.21% และกำไรสุทธิ 1,571 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 13.1% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ในส่วนของสัดส่วนหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) อยู่ที่ 2.69% ปรับตัวดีขึ้น จากสิ้นปีก่อนที่ 2.75% และบริษัทฯ ตั้งเป้าหมายการเติบโตพอร์ตสินเชื่อปีนี้ไว้ที่ 10-15% และตั้งเป้าในการควบคุมสัดส่วนของหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) ไว้ให้ไม่เกิน 2.70%
ขณะเดียวกันบริษัทฯ ยังคงดำเนินธุรกิจด้วยความมุ่งมั่นตามหลักธรรมาภิบาล พัฒนากระบวนการปล่อยสินเชื่อตลอดห่วงโซ่ของกิจการ เสริมสร้างความเชื่อมั่นและความไว้วางใจจากลูกค้า นักลงทุน และผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทุกภาคส่วน จนได้รับการประเมินการกำกับดูแลกิจการระดับดีเลิศ (5 ดาว) ต่อเนื่องเป็นปีที่ 7 ควบคู่กับผลประเมินหุ้นยั่งยืน (ESG Ratings) ระดับ AAA จากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย และ MSCI ESG Index ระดับ AA รวมไปถึงการได้รับความร่วมมือกับสถาบันการเงินระดับโลก ได้แก่ องค์การความร่วมมือระหว่างประเทศของญี่ปุ่น (JICA) รัฐบาลเยอรมนี (KfW DEG) บรรษัทการเงินระหว่างประเทศ (International Finance Corporation : IFC) ซึ่งเป็นสถาบันในกลุ่มธนาคารโลก (World Bank Group) ผ่านการลงทุนในหุ้นกู้เพื่อสังคมของบริษัทฯ เพื่อสนับสนุนผู้ประกอบการรายย่อยที่มีสุภาพสตรีเป็นเจ้าของ และ บริษัทฯ ยังเป็นสถาบันการเงินที่ไม่ใช่ธนาคาร (NBFI) รายแรกของประเทศไทย ที่ได้มีการออกหุ้นกู้เพื่อสังคมมูลค่า 335 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เสนอขายแก่นักลงทุนสถาบันต่างประเทศทั้งจำนวนในปีที่ผ่านมา
อีกทั้งยังได้รับอันดับความน่าเชื่อถือของตราสารหนี้ระยะยาวสกุลเงินบาท (National Long-term Rating) ที่ A-(tha) จาก Fitch Ratings สะท้อนความเป็นผู้นำในธุรกิจไมโครไฟแนนซ์มาตรฐานระดับโลก (World-class Thai Microfinance)