สรุปราคาซื้อขายทองคำและ Gold Futures ภายในประเทศ ณ วันพฤหัสบดีที่ 13 มิถุนายน พ.ศ. 2556 เวลา 09.00 น.

ข่าวเศรษฐกิจ Thursday June 13, 2013 10:19 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--13 มิ.ย.--เอ็มทีเอส โกลด์ ราคาทองคำเปิดตลาดที่ระดับ 1,376 เหรียญ/ออนซ์ และกลับมาปิดช่วงกลางคืนที่ระดับ 1,389 (22.30 น.) เหรียญ/ออนซ์ ค่าเงินบาทปิด 30.93 บาท/ดอลลาร์ ราคาสมาคมเปิดที่ 20,200 บาท กับ 20,300 บาท และกลับมาปิดที่ 20,150 บาท กับ 20,250 บาท ปริมาณการซื้อขาย Gold Futures 50 บาทอยู่ที่ 1,034 คู่สัญญา แบบ 10 บาท อยู่ที่ 3,452 คู่สัญญา Silver Futures ไม่มีปริมาณการซื้อขาย Open Interest แบบ 50 บาท ลดลง1% แบบ 10 บาทลดลง 0.2% GFM13 ปิด 20,460 บาท และ GFQ13 ปิด 20,520 บาท GF10M13 ปิด 20,460 บาท GF10Q13 ปิด 20,540 บาท สัญญา Comex ปิดเพิ่มขึ้น 15 ดอลลาร์ ปิดที่ระดับ 1,392 ดอลลาร์/ออนซ์ Silver ปิดเพิ่มขึ้น 15 เซนต์ ปิดที่ระดับ 21.79 ดอลลาร์/ออนซ์ SPDR ถือครองทองคำ 1,009.85 ตัน (เท่าเดิม) น้ำมัน NYMEX ปิดเพิ่มขึ้น 0.50 ดอลลาร์/บาร์เรล ปิดที่ระดับ 95.88 ดอลลาร์/บาร์เรล ดาวโจนส์ลดลง 126.79 จุด ปิดที่ 14,995.23 จุด ข่าวที่สำคัญ ราคาทองคำเมื่อคืนนี้ปรับตัวสูงขึ้นทะลุแนวต้าน 1,385 เหรียญ ไปทำจุดสูงสุดที่ระดับ 1,394 เหรียญ จากการอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์เมื่อเทียบกับค่าเงินเยน แต่ไม่นานก็ถูกแรงเทขายให้ราคาปรับตกลงมาปิดตลาด COMEX ที่ระดับ 1,392 เหรียญ เช้านี้เปิดตลาดบริเวณ 1,390 เหรียญ สิ่งที่เกิดขึ้นในตลาดโลก ได้แก่ ราคาพันธบัตรร่วงลง หรืออัตราผลตอบแทนที่สูงขึ้น สกุลเงินในตลาดเกิดใหม่อ่อนค่าลง เช่น อินเดียรูปี ไทยบาท และมาเลเซียริงกิต ต่างถูกกดดันจากแรงเทขายในสัปดาห์นี้ ธนาคารโลก (World Bank) ลดการคาดการณ์เศรษฐกิจโลกในปีนี้เหลือ 2.2% จาก 2.4% หลังจากที่เศรษฐกิจในตลาดเกิดใหม่ตั้งแต่จีนไปจนถึงบราซิลชะลอตัวลงกว่าที่คาด ในขณะที่การตัดลดงบประมาณและความเชื่อมั่นของนักลงทุนที่ลดลงส่งผลกระทบให้เศรษฐกิจยุโรปหดตัวลงไปอีก ข่าว World Bank ที่ออกมาส่งผลให้ตลาดหุ้นเอเชียเช้านี้ปรับตัวลดลง ในขณะที่สกุลเงินเยนแข็งค่าขึ้น 1% เมื่อเทียบกับดอลลาร์ นักวิเคราะห์ต่างกล่าวว่า ความผันผวนในตลาดการเงินยังคงมีต่อไปจนกว่าจะถึงการประชุม FOMC ในสัปดาห์หน้า รวมถึงถ้อยแถลงของนายเบอร์นันเก้ในคืนวันพุธ ในวันนี้ตลาดจีนจะกลับมาเปิดทำการ หลังหยุดเทศกาลไป 3 วัน ซึ่งอาจเป็นส่วนสนับสนุนตลาดทองคำ โกลด์แมน แซคส์ มองทองคำเคลื่อนไหวในกรอบต่อไป แม้ตลาดหุ้นและตลาดพันธบัตรจะมีการเคลื่อนไหวรุนแรง โดยมองทองคำว่าจะมีการซื้อขายที่ระดับ 1,435 เหรียญในปีนี้ และ 1,270 เหรียญในปีหน้า ซอคเจน ลดการคาดการณ์ราคาทองคำในไตรมาสที่ 4 ปีนี้ลง 175 เหรียญสู่ระดับ 1,200 เหรียญต่อออนซ์ โดยอ้างถึงการเทขายของกองทุน ETF และการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์ นายบิล กรอส ประธานพิมโก้ กล่าวว่า นักลงทุนควรหลีกหนีความเสี่ยง เนื่องจากมีโอกาสมากกว่า 60% ที่จะเกิดภาวะเศรษฐกิจโลกถดถอยในอีก 3-5 ปีข้างหน้า ผลสำรวจจาก บิสซิเนส ราวน์เทเบิล ระบุว่า CEO บริษัทต่างๆ ของสหรัฐคาดว่า จะมีการจ้างงานเพิ่มมากขึ้นในอีก 6 เดือนข้างหน้า และยอดขายจะฟื้นตัวขึ้นในระดับปานกลาง ภาพรวมมองเศรษฐกิจสหรัฐดีขึ้นในอนาคต เลขาธิการเศรษฐกิจของอินเดียกล่าวว่า รัฐบาลอินเดียยังไม่มีความจำเป็นสำหรับมาตรการเพิ่มเติมเพื่อจำกัดการนำเข้าทองคำ เนื่องจากการดำเนินการล่าสุดได้ส่งผลกระทบต่อการนำเข้าทองคำเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ฟิชท์ เรตติ้ง ปรับเพิ่มมุมมองเศรษฐกิจอินเดียจากระดับติดลบเป็นมีเสถียรภาพ MSCI ปรับทบทวนให้กรีซกลายเป็นประเทศแรกที่ถูกดาวน์เกรดลงจากประเทศที่พัฒนาแล้วมาเป็นประเทศเกิดใหม่ ในคืนนี้จะมีการประกาศตัวเลข Core Retail Sales และ Retail Sales ที่คาดว่าจะดีขึ้น ในขณะที่ Jobless Claims คาดการณ์ว่าจะมีคนตกงานเพิ่มขึ้น 8,000 ตำแหน่ง ตัวเลขเศรษฐกิจเมื่อคืน - Crude Oil Inventories ตัวเลขเดิม -6.3M ตัวเลขเลขจริงออกมาที่ระดับ 2.5M - Federal Budget Balance ตัวเลขเดิม112.9B ตัวเลขเลขจริงออกมาที่ระดับ -138.7B ตัวเลขเศรษฐกิจที่ต้องติดตาม - Core Retail Sales ตัวเลขเดิม -0.2% ตัวเลขคาดการณ์ออกมาที่ระดับ 0.3% - Retail Sales ตัวเลขเดิม 0.1% ตัวเลขคาดการณ์ออกมาที่ระดับ 0.4% - Unemployment Claims ตัวเลขเดิม 346K ตัวเลขคาดการณ์ออกมาที่ระดับ 354K ราคาทองคำในรูปของค่าเงินดอลลาร์ยังมีความแกว่งตัวค่อนข้างมาก ตามสภาพการโยกย้ายเม็ดเงินลงทุน ราคาทองคำปรับตัวสูงขึ้นเมื่อคืนนี้ในช่วงตลาด COMEX โดยขึ้นมายืนอยู่เหนือระดับ 1,390 เหรียญได้ และมีการซื้อขายโดยส่วนใหญ่บริเวณ 1,388 — 1,392 เหรียญ ปิดตลาด COMEX ที่ระดับ 1,392 เหรียญ ในส่วนของราคาทองของไทยอยู่ในแนวโน้มทิศทางขาขึ้น โดยได้รับผลจากค่าเงินบาทที่ปรับตัวอ่อนค่าขึ้นอยู่ตลอด วิเคราะห์ราคาทองคำทางเทคนิค — MTS Gold จะแยกการวิเคราะห์ออกเป็นสองส่วน คือในส่วนของทองไทยและทองต่างประเทศเพื่อให้เห็นความชัดเจน อย่างไรก็ดี นักลงทุนในเมืองไทยที่มีการซื้อขายจากเหรียญเป็นเงินบาทให้มองภาพของราคาทองไทยเป็นหลัก เนื่องจากเงินบาทยังอยู่ในทิศทางอ่อนค่าอยู่อย่างชัดเจน ตามหลักทางเทคนิคนั้น เงินบาทมีโอกาสที่จะอ่อนค่าขึ้นไปอีกไปสู่ระดับ 31.50 บาท/ดอลลาร์ เมื่อคืนนี้เงินบาทปรับตัวลดลงมาหลุด 31.00 บาท/ดอลลาร์ มาอยู่ที่ 30.93 บาท/ดอลลาร์ และในเช้านี้ก็ดีดกลับขึ้นไปอย่างรวดเร็ว อันจะเห็นได้ว่า ทั้งตลาดหุ้น ตลาดเงิน รวมทั้งตลาดทองคำมีความผันผวนอย่างมากในช่วงนี้ นักลงทุนจึงคงต้องติดตามใกล้ชิดตลาด และควรอยู่ในเกณฑ์ที่จะควบคุมความเสี่ยงได้อย่างใกล้ชิด ภาพรวมของราคาทองไทยเป็นทิศทางแนวโน้มขาขึ้น ต้องบอกว่าคงจะมาจากเรื่องของค่าเงินบาทอย่างเดียวเท่านั้น กลยุทธ์การลงทุนในวันนี้ — สำหรับทองไทยให้ปรับกลยุทธ์เป็นทิศทางขาขึ้นในระยะสั้น ย้ำว่าเป็นการเล่นตามกลยุทธ์เป็นแบบรายวันในระยะสั้นตามการแกว่งตัวของทิศทางค่าเงินบาทที่เข้ามามีอิทธิพลต่อราคาทองคำสูงมาก ณ ขณะนี้ บาทอ่อนลงมาถึงบาทละ 2.50 บาท ซึ่งมีผลให้ราคาทองคำปรับตัวสูงขึ้นจากค่าเงินบาทถึงบาทละ 1,900 บาท/บาททองคำ หมายความว่า ถ้าเงินบาทอยู่นิ่งๆ ราคาทองคำจะอยู่บริเวณ 18,800 บาท/บาททองคำเท่านั้นเอง แนวรับแนวต้านจะปรับจากราคาทองคำในรูปของดอลลาร์สหรัฐเป็นค่าเงินบาท โดยราคาทองคำแท่งไทยจะมีแนวรับ (ราคาเข้าซื้อ) ที่ระดับ 20,400 บาท/บาททองคำ และมีแนวต้าน (ราคาเริ่มที่จะขาย) ที่ระดับ 20,600 บาท/บาททองคำ ดังนั้นนักลงทุนก็ให้หาการทำกำไรในกรอบทิศทางขาขึ้นตามแนวโน้มของการแกว่งตัวของค่าเงินบาทเท่านั้น สำหรับทองของต่างประเทศยังเชื่อว่าจะเป็น Sideways ในกรอบ 1,380 — 1,400 เหรียญ และจะแกว่งตัวจนกว่าทะลุด้านใดด้านหนึ่งอีกครั้งหนึ่ง นักลงทุนถือ Long Position แนะนำให้ทำกำไรตามกรอบ นักลงทุนที่ถือ Short Position ทำกำไรตามกรอบเช่นเดียวกัน และยังคงแนะนำให้ปรับสถานะจาก Short เป็น Long ตามการแกว่งของสภาพตลาด เพราะตลาดมีการแกว่งค่อนข้างมาก ณ ขณะนี้ จึงเหมาะสำหรับนักลงทุนที่ติดตามตลาดได้ทุกวันและรับความเสี่ยงได้สูงเท่านั้น Gold Futures M13 จะมีแนวรับที่ระดับ 20,400 บาท และแนวต้านที่ระดับ 20,600 บาท Gold Futures Q13 จะมีแนวรับที่ระดับ 20,450 บาท และแนวต้านที่ระดับ 20,650 บาท บทวิเคราะห์ข้างต้น ยึดหลักตาม Technical Analysis บริษัทไม่ได้มีส่วนรับผิดชอบใดๆ ต่อการวิเคราะห์ข้างต้นและโปรดระลึกเสมอว่าการลงทุนมีความเสี่ยงโปรดใช้วิจารณญาณในการลงทุนด้วยตัวของท่านเอง

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ