กรุงศรีรายงานกำไรสุทธิไตรมาส 1/2563 จำนวน 7.03 พันล้านบาท เน้นย้ำสนับสนุนลูกค้า สังคมและเศรษฐกิจ เพื่อก้าวผ่านวิกฤตโควิด-19

ข่าวหุ้น-การเงิน Wednesday April 22, 2020 09:39 —ThaiPR.net

กรุงศรีรายงานกำไรสุทธิไตรมาส 1/2563 จำนวน 7.03 พันล้านบาท เน้นย้ำสนับสนุนลูกค้า สังคมและเศรษฐกิจ เพื่อก้าวผ่านวิกฤตโควิด-19 กรุงเทพฯ--22 เม.ย.--ธนาคารกรุงศรีอยุธยา กรุงศรี(ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) และบริษัทในเครือ) รายงานผลการดำเนินงานสำหรับงวดไตรมาส 1/2563ด้วยกำไรสุทธิจำนวน 7.03พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 9.3% จากไตรมาส 4/2562 โดยมีปัจจัยขับเคลื่อนหลักมาจากกำไรจากการดำเนินงานที่เพิ่มสูงขึ้น แม้ว่าจะมีการรับรู้ผลขาดทุนด้านเครดิตที่คาดว่าจะเกิดขึ้น (Expected Credit Loss หรือ ECL) เพิ่มขึ้นตามแนวโน้มการชะลอตัวทางเศรษฐกิจที่ทวีความรุนแรงอันเนื่องมาจากการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019(โควิด-19) ภายใต้กรอบมาตรฐานการรายงานทางการเงินฉบับที่ 9(TFRS 9) ซึ่งมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2563 แม้ว่าการแพร่ระบาดดังกล่าวจะส่งผลกระทบอย่างชัดเจนต่อภาคการท่องเที่ยวในเดือนกุมภาพันธ์2563 อีกทั้งยังมีมาตรการปิดเมืองที่เริ่มส่งผลกระทบต่อกิจกรรมทางเศรษฐกิจอย่างรุนแรงตั้งแต่กลางเดือนมีนาคม2563 แต่เงินให้สินเชื่อยังคงเติบโต 2.9% ในไตรมาส 1/2563 โดยมีความต้องการเงินทุนหมุนเวียนของกลุ่มลูกค้าธุรกิจเป็นปัจจัยขับเคลื่อนหลัก สรุปผลประกอบการและฐานะการเงินที่สำคัญในไตรมาส1/2563 กำไรสุทธิ: จำนวน 7.03พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 9.3% จากไตรมาส 4/2562เงินให้สินเชื่อ: เพิ่มขึ้น 2.9% คิดเป็นจำนวน 52พันล้านบาท จาก ณ สิ้นเดือนธันวาคม 2562จากความต้องการเงินทุนหมุนเวียนของกลุ่มลูกค้าธุรกิจที่เพิ่มสูงขึ้น ขณะที่สินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์เป็นปัจจัยหลักที่ขับเคลื่อนการเติบโตของสินเชื่อเพื่อรายย่อย สะท้อนถึงการเติบโตที่ต่อเนื่องมาจากช่วงสิ้นปี 2562 ขณะที่สินเชื่อบัตรเครดิตและสินเชื่อส่วนบุคคลปรับลดลง6.1% จากการชำระหนี้ตามฤดูกาลและปริมาณการใช้จ่ายที่ชะลอตัวลงเงินรับฝาก: เพิ่มขึ้น 6.4% หรือจำนวน 100 พันล้านบาทจาก ณ สิ้นเดือนธันวาคม 2562ส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยสุทธิ (NIM): อยู่ที่ 3.94% เทียบกับ 3.52% ในไตรมาส 4/2562ปัจจัยหลักมาจากการลดลงของต้นทุนทางการเงินและการเพิ่มสูงขึ้นของอัตราผลตอบแทนของสินทรัพย์รายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ย:ลดลง9.2% หรือจำนวน 869ล้านบาท เมื่อเทียบกับไตรมาส 4/2562 ปัจจัยหลักมาจากการลดลงของรายได้ค่าธรรมเนียมและบริการสุทธิที่เป็นผลจากการลดลงของกิจกรรมทางธุรกิจของลูกค้ารายย่อย สะท้อนภาวะเศรษฐกิจที่อ่อนแอลงในระหว่างไตรมาสอัตราส่วนค่าใช้จ่ายต่อรายได้:อยู่ที่ 41.0% ปรับตัวดีขึ้นจาก 43.7% ในไตรมาส 4/2562อัตราส่วนสินเชื่อที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPLRatio):อยู่ที่ระดับ 2.22% เทียบกับ 1.98% ณ สิ้นเดือนธันวาคม 2562อัตราส่วนเงินสำรองต่อสินเชื่อที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้: อยู่ที่ระดับ 159.1% เทียบกับ 163.8% ณ สิ้นเดือนธันวาคม 2562อัตราส่วนเงินกองทุนต่อสินทรัพย์เสี่ยง:อยู่ที่15.66% นายเซอิจิโระ อาคิตะ กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานเจ้าหน้าที่บริหารธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน)กล่าวว่า “แม้ว่ากรุงศรีสามารถส่งมอบผลการดำเนินงานที่น่าพอใจในไตรมาส1/2563 ซึ่งสะท้อนถึงพอร์ตสินเชื่อที่สมดุลและการบริหารความเสี่ยงด้วยความรอบคอบระมัดระวัง ธนาคารคาดว่าผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 จะรุนแรงมากขึ้นในไตรมาส2/2563 เนื่องจากการแพร่ระบาดได้ส่งผลกระทบอย่างมากทั้งในด้านอุปสงค์และอุปทาน จากการหยุดชะงักของภาคการผลิตและรายได้ที่ลดลง ทั้งนี้ เพื่อบรรเทาผลกระทบต่อกิจกรรมทางธุรกิจและลดภาระดอกเบี้ยของลูกหนี้ที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ธนาคารได้ปรับลดดอกเบี้ยเงินให้สินเชื่อในวันที่ 8กุมภาพันธ์ 24 มีนาคม และ 10 เมษายน 2563ซึ่งเป็นมาตรการช่วยเหลือเพิ่มเติมนอกเหนือจากมาตรการอื่นๆ ที่ได้ออกมาสำหรับลูกค้าทุกกลุ่ม อาทิ การพักชำระหนี้เงินต้นและ/หรือดอกเบี้ย การปรับลดการชำระดอกเบี้ย และการขยายระยะเวลาผ่อนชำระ” “แม้ว่าภาคธุรกิจและการจ้างงานจะได้รับผลกระทบอย่างรุนแรง และระยะเวลาของการแพร่ระบาดตลอดจนการฟื้นตัวจากสถานการณ์โควิด-19 ยังมีความไม่แน่นอน กรุงศรียังคงมุ่งมั่นในความพยายามให้การช่วยเหลือลูกค้ารวมถึงภาคสังคมและเศรษฐกิจ ตลอดเส้นทางการฟื้นฟูสู่สภาวะปกติ” นายอาคิตะกล่าวเพิ่มเติม ณ วันที่ 31 มีนาคม 2563กรุงศรี ซึ่งเป็นกลุ่มธุรกิจการเงินที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับห้าของไทยด้านสินทรัพย์ สินเชื่อและเงินฝาก และเป็นหนึ่งในห้าสถาบันการเงินที่มีความสำคัญเชิงระบบ (D-SIB) มีสินเชื่อรวม 1 .87 ล้านล้านบาทเงินรับฝาก 1.67ล้านล้านบาท และสินทรัพย์รวม 2.51ล้านล้านบาท ขณะที่เงินกองทุนของธนาคารอยู่ในระดับแข็งแกร่งที่270.48พันล้านบาท หรือเทียบเท่า 15.66% ของสินทรัพย์เสี่ยง โดยเป็นเงินกองทุนชั้นที่1ที่เป็นส่วนของเจ้าของคิดเป็น 11.01% เกี่ยวกับกรุงศรี กรุงศรี(ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) และบริษัทในเครือ) เป็นกลุ่มธุรกิจการเงินที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับ5 ของไทยด้านสินทรัพย์ สินเชื่อ และเงินฝาก และเป็นหนึ่งในห้าสถาบันการเงินที่มีความสำคัญเชิงระบบ (D-SIB) โดยดำเนินธุรกิจมานานกว่า 75ปี กรุงศรีเป็นบริษัทในเครือของมิตซูบิชิ ยูเอฟเจ ไฟแนนเชียล กรุ๊ป (MUFG) กลุ่มสถาบันการเงินที่ใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่น และเป็นหนึ่งในกลุ่มสถาบันการเงินที่ใหญ่ที่สุดระดับโลก กลุ่มกรุงศรีให้บริการทางการเงินการธนาคารอย่างครบวงจร ทั้งในด้านสินเชื่อเพื่อผู้บริโภค การลงทุน การบริหารจัดการกองทุน รวมทั้งผลิตภัณฑ์และบริการทางการเงินอันหลากหลายแก่กลุ่มลูกค้าบุคคล ลูกค้าSME และลูกค้าธุรกิจขนาดใหญ่ ผ่านสาขาของธนาคารกว่า688 สาขา (เป็นสาขาที่ให้บริการทางการเงินในรูปแบบปกติ648 สาขาและสาขาที่ให้บริการเฉพาะสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์40 สาขา) และช่องทางการขายกว่า33,255 แห่งทั่วประเทศ นอกจากนี้ กรุงศรียังเป็นผู้ออกบัตรเครดิตรายใหญ่ที่สุดของประเทศ โดยมีจำนวนบัญชีบัตรเครดิตและสินเชื่อเพื่อการผ่อนชำระ/สินเชื่อส่วนบุคคลมากกว่า9.3 ล้านบัญชี และเป็นผู้ให้บริการด้านสินเชื่อรถยนต์ชั้นนำ (กรุงศรี ออโต้) พร้อมทั้งมีบริษัทบริหารจัดการกองทุนที่มีอัตราเติบโตสูงที่สุดแห่งหนึ่ง (บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนกรุงศรี จำกัด) ทั้งยังเป็นผู้บุกเบิกธุรกิจสินเชื่อเพื่อผู้มีรายได้น้อย (บริษัท เงินติดล้อ จำกัด) อีกด้วย กรุงศรีมีพันธสัญญาในการดำเนินธุรกิจด้วยความซื่อสัตย์สุจริตอย่างสูงสุด ธนาคารและบริษัทในเครือได้ผ่านการรับรองการเป็นสมาชิกอย่างสมบูรณ์ของ “แนวร่วมปฏิบัติของภาคเอกชนไทยในการต่อต้านทุจริต” โดยมุ่งร่วมมือกับองค์กรชั้นนำในไทยและผู้ที่มีส่วนได้ส่วนเสียของธนาคาร เพื่อให้การดำเนินธุรกิจปราศจากการทุจริตคอร์รัปชั่น เกี่ยวกับมิตซูบิชิ ยูเอฟเจ ไฟแนนเชียล กรุ๊ป(MUFG) มิตซูบิชิ ยูเอฟเจ ไฟแนนเชียล กรุ๊ป (MUFG) เป็นหนึ่งในกลุ่มสถาบันทางการเงินชั้นนำระดับโลก มีสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ ณ กรุงโตเกียว ด้วยประวัติศาสตร์อันยาวนานในการดำเนินธุรกิจกว่า360 ปีMUFG มีเครือข่ายสำนักงานกว่า 3,000แห่ง ในกว่า50 ประเทศทั่วโลกและมีพนักงานกว่า180,000 คน MUFG นำเสนอบริการทางการเงินที่หลากหลายครอบคลุมทั้งธุรกิจธนาคารพาณิชย์ ทรัสต์แบงก์กิ้ง ธุรกิจหลักทรัพย์ ธุรกิจบัตรเครดิต ธุรกิจสินเชื่อเพื่อรายย่อย ธุรกิจหลักทรัพย์จัดการกองทุน ธุรกิจเช่าซื้อ MUFG มีเป้าหมายที่จะเป็น“กลุ่มสถาบันทางการเงินที่ได้รับความเชื่อถือมากที่สุดในโลก”ด้วยการผสานศักยภาพในการดำเนินธุรกิจเพื่อตอบสนองทุกความต้องการทางการเงินของลูกค้าโดยคำนึงถึงสังคมและการแบ่งปัน สู่ความเติบโตอย่างยั่งยืน MUFG จดทะเบียนซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์โตเกียว ตลาดหลักทรัพย์นาโกยา และตลาดหลักทรัพย์นิวยอร์ก สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับMUFG กรุณาเยี่ยมชมเว็บไซต์ https://www.mufg.jp/english

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ