ไอเอ็นจีประกาศผลกำไรไตรมาส 2 ปี 2553 มีกำไรสุทธิ (Underlying net profit) 1,202 ล้านยูโร

ข่าวเศรษฐกิจ Monday August 16, 2010 16:25 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--16 ส.ค.--อาซิแอม เบอร์สัน-มาร์สเตลเลอร์ ผลกำไรสุทธิ (Underlying net profit) ในไตรมาส 2 ปี 2553 มีมูลค่า 1,202 ล้านยูโร ซึ่งเพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันในปีที่แล้วที่มีผลกำไร 212 ล้านยูโร และ ในไตรมาสแรกของปีนี้ที่มีผลกำไร 1,018 ล้านยูโร กำไรสุทธิ (Net Profit) ไตรมาส 2 ปี 2553 ซึ่งรวมผลกระทบจากการขายเงินลงทุนในกิจการและรายการพิเศษเพิ่มขึ้นเป็น 1,090 ล้านยูโร เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้วซึ่งมีผลกำไร 71 ล้านยูโร การขายเงินลงทุนในกิจการและรายการพิเศษ (Divestments and special items) มีผลขาดทุนเท่ากับ 112 ล้านยูโรในไตรมาสที่ 2 กำไรสุทธิต่อหุ้นเพิ่มขึ้นจากปีก่อนเป็น 0.29 ยูโร เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้วซึ่งมีมูลค่าต่อหุ้น 0.03 ยูโร ผลตอบแทนต่อส่วนของผู้ถือหุ้นเพิ่มขึ้น 11.7% ในครึ่งปีแรกของปี 2553 ผลกำไรสุทธิในครึ่งปีแรกสำหรับปี 2553 เพิ่มขึ้นเป็น 2,220 ล้านยูโร จากช่วงเดียวกันของ ปีที่แล้วซึ่งมีผลขาดทุน 23 ล้านยูโร ผลประกอบการในภาคการธนาคารสำหรับไตรมาส 2 ปี 2553 มีผลกำไรก่อนหักภาษีมูลค่า 1,613 ล้านยูโร เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันในปี 2552 ซึ่งมีผลขาดทุน 186 ล้านยูโร และไตรมาสแรกของปี 2553 ซึ่งมีกำไร 1,278 ล้านยูโร รายได้ยังคงเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง เนื่องจากการเติบโตของปริมาณเงินฝากและสินเชื่อในภาคการธนาคารโดยยังคงรักษาอัตรากำไรที่เหมาะสมและผลกระทบทางลบในตลาดซึ่งลดลง อัตราส่วนค่าใช้จ่ายต่อรายได้ปรับตัวดีขึ้นเป็น 52.6% และเข้าใกล้เป้าหมายที่ 50% ในปี 2556 การตั้งสำรองหนี้เสียลดลงอย่างต่อเนื่องเหลือ 465 ล้านยูโร หรือ 55 bps ของมูลค่าเฉลี่ยสินทรัพย์เสี่ยง รายได้เพิ่มขึ้น: เงินทุนเพิ่มขึ้น 13.6 พันล้านยูโรซึ่งมาจากสินเชื่อเคหะ 6.1 พันล้านยูโร สินเชื่อเพื่อธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม 2.4 พันล้านยูโร ผลประกอบการในภาคการประกันภัยสำหรับไตรมาส 2 ปี 2553 มีผลขาดทุนก่อนหักภาษีที่ 115 ล้านยูโร เมื่อเทียบกับในช่วงเดียวกันของปี 2552 ซึ่งมีผลกำไร 242 ล้านยูโร และไตรมาสแรกของปี 2553 ซึ่งมีกำไร 269 ล้านยูโร กำไรจากการดำเนินงานในไตรมาส 2 ปี 2553 มีมูลค่า 419 ล้านยูโร ซึ่งเพิ่มขึ้นเล็กน้อยจากไตรมาส 1 ปี 2553 แต่ลดลงจากช่วงเดียวกันของปี 2552 ซึ่งมีผลกำไรจากการดำเนินงานที่ 482 ล้านยูโร ผลขาดทุนดังกล่าวเป็นผลจากการปรับลดมูลค่าสินทรัพย์ ตามรายการค่าใช้จ่ายที่เกิดจากการขายกรมธรรม์รายใหม่หรือการได้มาของเบี้ยประกันภัยปีแรก ซึ่งระบบมาตรฐานการบัญชีอนุญาตให้รอการตัดจ่ายเป็นรายจ่ายเมื่อได้รับเบี้ยประกันภัยปีต่อไป DAC (Deferred Acquisition Cost) unlocking ในสหรัฐอเมริกาเป็นมูลค่า 521 ล้านยูโร ส่วนใหญ่เป็น Closed block เนื่องจากการลดลงของมูลค่าในตลาดทุน ยอดขายสำหรับธุรกิจใหม่เพิ่มขึ้น 22.2% จากปีก่อน ซึ่งไม่รวมผลกระทบจากความผันผวนในอัตราแลกเปลี่ยนและ Closed block ที่เกิดขึ้นในเอเชีย สหรัฐอเมริกา และละตินอเมริกา ส่วนของผู้ถือหุ้นเพิ่มขึ้น 3.4 พันล้านยูโร รวมเป็น 41.6 พันล้านยูโร หรือ 11.02 ยูโรต่อหุ้น อัตราส่วน Bank Core Tier 1 ปรับเพิ่มเป็น 8.6% ดีกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้ที่ 7.5% อัตราส่วน Insurance Groups Directive Solvency I เพิ่มขึ้นเป็น 267% อัตราส่วนหนี้สินต่อทุนของกลุ่มบริษัทปรับเพิ่มขึ้นเป็น 11.3% และ อัตราส่วน FiCo เพิ่มขึ้นเท่ากับ 167% กลุ่มไอเอ็นจีไม่ประกาศจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลสำหรับครึ่งปีแรกของปี 2553 สารจากประธาน “ไอเอ็นจี ยังคงปรับตัวดีขึ้นอย่างต่อเนื่องในช่วงไตรมาสที่ 2 โดยเฉพาะอย่างยิ่งในส่วนธุรกิจธนาคาร เนื่องจากธุรกิจของเรามีการเติบโตมากยิ่งขึ้น และสถานการณ์ในตลาดก็ปรับตัวดีขึ้น“ นาย ยาน โฮมเมน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ไอเอ็นจีกรุ๊ปกล่าว “ผลกำไรสุทธิของเราเพิ่มขึ้นเป็น 1,202 ล้านยูโรจาก 212 ล้าน ยูโร ในไตรมาสเดียวกันในปี 2552 ซึ่งเป็นช่วงที่ตลาดมีความผันผวนมาก ผลกำไรสุทธิยังปรับตัวมากขึ้นเมื่อเปรียบเทียบกับไตรมาสแรก โดยเพิ่มขึ้น 18 เปอร์เซนต์จาก 1,018 ล้านยูโร แม้จะมีความกังวลในเรื่องการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจในกลุ่มประเทศยุโรป ในช่วงไตรมาสดังกล่าว” “ความเสี่ยงที่เกิดจากรัฐ ประกอบกับความกังวลว่าเศรษฐกิจจะตกต่ำอีกรอบหนึ่ง มีผลกระทบอย่างมากต่อตลาดกู้ยืมระหว่างธนาคาร ในพื้นที่แถบยุโรปและตลาดทุนทั่วโลก การปรับตัวลงอย่างรวดเร็วของตลาดทุนในไตรมาสได้มีผลกระทบอย่างรุนแรงต่อผลการประกอบการของธุรกิจการประกันภัยของไอเอ็นจีในสหรัฐอเมริกา อย่างไรก็ดี ธุรกิจธนาคารยังคงได้รับประโยชน์จากสภาพคล่องและการหาเงินทุนที่แข็งแกร่ง โดยการเติบโตในส่วนของเงินให้กู้ยืม ถูกนำมาจากเงินฝากของลูกค้า และการไฟแนนซ์ใหม่ สำหรับการขอทุนในระยะยาวที่เสร็จสิ้นแล้วในปีนี้” “ส่วนธุรกิจธนาคารมีผลกำไรเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง เพราะการดำเนินงานยังคงเป็นไปได้ด้วยดี และผลกระทบในแง่ลบจากตลาดเริ่มปรับตัวลดลง เงินได้จากดอกเบี้ยเริ่มคงที่ขึ้น เนื่องจากกำไรจากบัญชีเงินฝากและการกู้ยืมยังคงแข็งแกร่ง และมีปริมาณเพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ ทำให้สามารถเข้ามาทดแทนผลกำไรที่ลดลงจากตลาดการเงินได้ ในส่วนของเงินที่จัดสรรเพื่อป้องกันหนี้สูญนั้น ก็มีแนวโน้มจะลดลงได้ เนื่องจากตลาดอสังหาริมทรัพย์ในสหรัฐอเมริกาเริ่มปรับตัวคงที่และมีหนี้สูญในตลาดดังกล่าวลดลง อย่างไรก็ดี ค่าความเสี่ยงในตลาดส่วนบริษัทขนาดกลาง และขนาดย่อมของเบเนลักซ์ยังคงสูงขึ้นต่อไป เพราะสภาวะทางเศรษฐกิจที่อ่อนตัวลง ความมีประสิทธิภาพของธนาคารปรับตัวดีขึ้น เป็นผลสะท้อนมาจากการตัดลดค่าใช้จ่ายที่สำคัญในปีก่อน นอกจากนี้ อัตราส่วนของค่าใช้จ่ายต่อรายได้ก็ลดลงเป็น 52.6 เปอร์เซนต์ ซึ่ง เข้าใกล้เป้าหมายที่ 50 เปอร์เซนต์ในปี 2556 มากขึ้น” “มาตรการที่เราได้ทำอย่างต่อเนื่องในหกไตรมาสที่ผ่านมา ได้ช่วยทำให้งบดุลของเรามีความมั่นคงมากขึ้น สามารถต้านทานความผันผวนทางตลาดได้ ธนาคารไอเอ็นจีผ่านการทดสอบ Stress Test ของสหภาพยุโรปอย่างสวยงามเมื่อเดือนที่ผ่านมา และเราก็มีความยินดีที่พบว่า การที่ธนาคารและสถาบันการเงินต่าง ๆ เปิดเผยข้อมูลมากขึ้น ได้ช่วยทำให้ตลาดมีความมั่นคงมากขึ้นและช่วยฟื้นฟูความเชื่อมั่นของนักลงทุนด้วย เรายังรู้สึกยินดีที่ความเปลี่ยนแปลงภายใต้ Basel III เริ่มชัดเจนขึ้น และธนาคารไอเอ็นจีก็พร้อมที่จะตอบรับต่อความเปลี่ยนแปลงของกฎข้อบังคับดังกล่าวด้วยสภาพคล่องที่ดีและแหล่งเงินทุนที่หลากหลาย” “การปรับตัวลดลงของตลาดทุนมีผลกระทบต่อผลกำไรของธุรกิจการประกันภัย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในส่วนของ closed block ในสหรัฐอเมริกา อย่างไรก็ตาม ผลกำไรจากการดำเนินงานของธุรกิจการประกันภัยยังเพิ่มขึ้นเล็กน้อยจากไตรมาสแรก แต่ผลกำไรจากการดำเนินงานลดลง โดยเมื่อเทียบกับไตรมาสที่สองในปีที่แล้ว เนื่องจากว่ากำไรจากการลงทุนถูกจำกัดด้วยสถานการณ์อัตราดอกเบี้ยต่ำ ค่าใช้จ่ายในการบริหารยังคงเพิ่มขึ้น เนื่องจากการลงทุนเพื่อสนับสนุนการเติบโตของธุรกิจและโครงการปรับปรุงการปฏิบัติงานในรูปแบบต่าง ๆ ในส่วนของยอดขายของธุรกิจการประกันภัยยังคงดีขึ้น โดยเพิ่มขึ้นถึง 22.2 เปอร์เซนต์ ไม่รวมผลกระทบที่เกิดจากการปรับตัวของค่าเงินและ closed block ในญี่ปุ่นและในสหรัฐอเมริกา” “การเติบโตของธุรกิจเราในไตรมาสสอง แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของพนักงานของไอเอ็นจี และความสามารถในการฟื้นตัวของธุรกิจธนาคารและการประกันภัยของเราในช่วงเศรษฐกิจที่ไม่แน่นอน เพราะเรายังคงใส่ใจที่จะพัฒนาเพื่อปรับปรุงบริการของเรา และให้ลูกค้าของเราเป็นศูนย์กลางในทุก ๆ สิ่งที่เราทำ หลังจากการปรับลดค่าใช้จ่ายในปีที่ผ่านมา ณ ขณะนี้ เราได้หันความสนใจของเราไปสู่การพัฒนาปรับปรุงการปฏิบัติการต่าง ๆ ให้เป็นเลิศ เพื่อสร้างความได้เปรียบในการแข่งขันในส่วนของธุรกิจธนาคารและการประกันภัย” “เรายังคงมุ่งหน้าดำเนินการในการแยกการปฏิบัติงานของธุรกิจธนาคารและธุรกิจการประกันภัยของเรา เพื่อให้ทั้งสองส่วนธุรกิจเปลี่ยนสถานะเป็นบริษัทอิสระต่อกันภายในสิ้นปีนี้ ซึ่งเราก็ได้คืบหน้าในส่วนนี้พอสมควร ในไตรมาสสอง ขณะนี้ เรามีโครงการกว่า 1,100 โครงการทั่วโลก โดยได้มีการคาดการณ์ค่าใช้จ่ายในการแยกตัวครั้งนี้ไว้ที่ 110-150 ล้านยูโร ในปี 2553 โดย 30 ล้านยูโรจะเป็นค่าใช้จ่ายในครึ่งแรกของปี และในขณะเดียวกัน เรายังพยายามปรับปรุงการทำงานของธุรกิจการประกันภัย และคอยพิจารณาทางเลือกของเราอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ไอเอ็นจีสามารถดำเนินการต่าง ๆ ได้อย่างทันท่วงที เมื่อตลาดมีปัจจัยส่งเสริม” สื่อมวลชนสัมพันธ์ อาซิแอม เบอร์สัน-มาร์สเตลเลอร์ โทร 0 2252 9871-8
แท็ก ไอเอ็นจี  

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ