กรุงเทพ--8 ส.ค.--กระทรวงการต่างประเทศ
นายเอโมมาลี ราคโมนอฟ (Emomali Rahmonov) ประธานาธิบดีทาจิกิสถานมีกำหนดเยือนไทยอย่างเป็นทางการในฐานะแขกของรัฐบาล (Official Visit) ระหว่างวันที่ 8 — 12 สิงหาคม 2548 โดยมีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเศรษฐกิจและการค้า รัฐมนตรีว่าการระทรวงการคลัง เจ้าหน้าที่ระดับสูงจากหน่วยราชการและภาคเอกชน รวม 41 คน ร่วมเดินทางมากับคณะด้วย
วัตถุประสงค์ของการเยือนครั้งนี้ เพื่อขยายความร่วมมือทางเศรษฐกิจกับไทย เนื่องจากสาธารณรัฐทาจิกิสถานชื่นชมการพัฒนาประเทศของไทย โดยเฉพาะการพัฒนาเศรษฐกิจและอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว นอกจากนี้ ทาจิกิสถานประสงค์จะขยายความร่วมมือกับไทยในสาขาการเกษตร ด้านการท่องเที่ยว และด้านการต่อต้านยาเสพติด
ประธานาธิบดีแห่งสาธารณรัฐทาจิกิสถานมีกำหนดหารือข้อราชการกับนายกรัฐมนตรี ในวันที่ 9 สิงหาคม 2548 เวลา 11.30 น. และนายกรัฐมนตรีจะเป็นเจ้าภาพเลี้ยงอาหารกลางวันเพื่อเป็นเกียรติแก่ประธานาธิบดีแห่งสาธารณทาจิกิสถานและคณะ และในวันเดียวกัน เวลา 17.30 น. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ได้พระราชทานพระบรมราชวโรกาสให้ประธานาธิบดีราคโมนอฟเข้าเฝ้าฯ ณ วังไกลกังวล อำเภอหัวหิน นอกจากนี้ ประธานาธิบดีทาจิกิสถานมีกำหนดจะเข้าพบหารือข้อราชการกับประธานวุฒิสภา และเยี่ยมชมสถานที่ท่องเที่ยวในจังหวัดทางภาคใต้ของไทยด้วย
ในระหว่างการเยือนครั้งนี้ จะมีการพบปะระหว่างภาคเอกชนของทั้งสองฝ่ายในสาขาต่างๆ อาทิ อลูมิเนียม ซีเมนต์ สิ่งทอ สถานีไฟฟ้าพลังน้ำ แปรรูปอาหารและเหมืองแร่ เพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูลและแสวงหาลู่ทางการค้า การลงทุนระหว่างกัน
นอกจากนี้ จะมีการลงนามในความตกลงและบันทึกความเข้าใจจำนวน 6 ฉบับ ในด้านการส่งเสริมและคุ้มครองการลงทุน การค้า ความร่วมมือทางเศรษฐกิจและวิชาการ ด้านการต่อต้านยาเสพติด การท่องเที่ยว และความร่วมมือระหว่างกระทรวงการต่างประเทศของทั้งสองฝ่าย
ไทยและสาธารณรัฐทาจิกิสถานมีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน โดยสาธารณรัฐทาจิกิสถานเป็นมิตรประเทศของไทยในภูมิภาคเอเชียกลางที่สนับสนุนไทยในเวทีระหว่างประเทศต่าง ๆ อาทิ การสนับสนุนไทยในการเข้าเป็นสมาชิกการประชุมว่าด้วยการปฎิสัมพันธ์และการแสวงหามาตรการเสริมสร้างความไว้เนื้อเชื่อใจในเอเชีย (Conference on Interaction and Confidence Building Measures in Asia - CICA) และการสนับสนุนดร.สุรเกียรติ์ เสถียรไทย รองนายกรัฐมนตรี ในการสมัครเพื่อดำรงตำแหน่งเลขาธิการสหประชาชาติ
สาธารณรัฐทาจิกิสถานเป็นหนึ่งในประเทศอดีตสหภาพโซเวียตที่มีสภาพภูมิประเทศ ส่วนใหญ่ เป็นภูเขา ไม่มีทางออกทะเล มีประชากรประมาณ 7 ล้านคน มีทรัพยากรธรรมชาติที่สำคัญคือ พลังงานน้ำ ฝ้ายและสินแร่ต่างๆ โดยทาจิกิสถานสามารถผลิตพลังงานน้ำได้ 21.08 พันล้านกิโลวัตต์-ชั่วโมงต่อปี (ร้อยละ 4 ของผลการผลิตพลังงานน้ำโลกทั้งหมด) แต่ขณะนี้ยังไม่สามารถผลิตได้เต็มที่ทั้งที่มีศักยภาพที่จะผลิตได้อีก 14 เท่าของระดับปัจจุบัน สำหรับรายได้หลักของประเทศ คือ การส่งออกฝ้าย อลูมิเนียมและไฟฟ้าพลังน้ำ
ทาจิกิสถานเป็นประเทศมุสลิม มีอารยธรรมเก่าแก่มากกว่า 4,000 ปี ตั้งอยู่บนเส้นทางสายไหมเชื่อมการค้าระหว่างเอเชียและยุโรปในอดีตและปรากฎร่องรอยอารยธรรมของศาสนาพุทธในช่วงคริสต์ศตวรรษที่ 6-8 ปัจจุบันกรุงดูชานเบเป็นที่ประดิษฐานพระพุทธรูปปางไสยาสน์ที่ใหญ่ที่สุดในเอเชียกลาง (สมัยใกล้เคียงกันกับพระพุทธรูปในอัฟกานิสถานที่ถูกทำลายไป) ยาว 13 ม. สูง 2.85 ม. อายุราว 1,400 ปี ซึ่งทางการทาจิกิสถานได้ค้นพบเมื่อปีค.ศ. 1959 และได้ทำการบูรณะปฏิสังขรณ์และประดิษฐานไว้ที่พิพิธภัณฑ์ Antiquities of the Republic of Tajikistan ปัจจุบันประธานาธิบดีราคโมนอฟมีอายุ 53 ปี ดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีสาธารณรัฐ ทาจิกิสถานตั้งแต่ปี 2537 การเยือนครั้งนี้เป็นการเยือนประเทศไทยครั้งแรก
กองการสื่อมวลชน กรมสารนิเทศ กระทรวงการต่างประเทศ โทร. 643-5105 โทรสาร. 643-5106-7 E-mail : [email protected]จบ--
-พห-
นายเอโมมาลี ราคโมนอฟ (Emomali Rahmonov) ประธานาธิบดีทาจิกิสถานมีกำหนดเยือนไทยอย่างเป็นทางการในฐานะแขกของรัฐบาล (Official Visit) ระหว่างวันที่ 8 — 12 สิงหาคม 2548 โดยมีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเศรษฐกิจและการค้า รัฐมนตรีว่าการระทรวงการคลัง เจ้าหน้าที่ระดับสูงจากหน่วยราชการและภาคเอกชน รวม 41 คน ร่วมเดินทางมากับคณะด้วย
วัตถุประสงค์ของการเยือนครั้งนี้ เพื่อขยายความร่วมมือทางเศรษฐกิจกับไทย เนื่องจากสาธารณรัฐทาจิกิสถานชื่นชมการพัฒนาประเทศของไทย โดยเฉพาะการพัฒนาเศรษฐกิจและอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว นอกจากนี้ ทาจิกิสถานประสงค์จะขยายความร่วมมือกับไทยในสาขาการเกษตร ด้านการท่องเที่ยว และด้านการต่อต้านยาเสพติด
ประธานาธิบดีแห่งสาธารณรัฐทาจิกิสถานมีกำหนดหารือข้อราชการกับนายกรัฐมนตรี ในวันที่ 9 สิงหาคม 2548 เวลา 11.30 น. และนายกรัฐมนตรีจะเป็นเจ้าภาพเลี้ยงอาหารกลางวันเพื่อเป็นเกียรติแก่ประธานาธิบดีแห่งสาธารณทาจิกิสถานและคณะ และในวันเดียวกัน เวลา 17.30 น. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ได้พระราชทานพระบรมราชวโรกาสให้ประธานาธิบดีราคโมนอฟเข้าเฝ้าฯ ณ วังไกลกังวล อำเภอหัวหิน นอกจากนี้ ประธานาธิบดีทาจิกิสถานมีกำหนดจะเข้าพบหารือข้อราชการกับประธานวุฒิสภา และเยี่ยมชมสถานที่ท่องเที่ยวในจังหวัดทางภาคใต้ของไทยด้วย
ในระหว่างการเยือนครั้งนี้ จะมีการพบปะระหว่างภาคเอกชนของทั้งสองฝ่ายในสาขาต่างๆ อาทิ อลูมิเนียม ซีเมนต์ สิ่งทอ สถานีไฟฟ้าพลังน้ำ แปรรูปอาหารและเหมืองแร่ เพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูลและแสวงหาลู่ทางการค้า การลงทุนระหว่างกัน
นอกจากนี้ จะมีการลงนามในความตกลงและบันทึกความเข้าใจจำนวน 6 ฉบับ ในด้านการส่งเสริมและคุ้มครองการลงทุน การค้า ความร่วมมือทางเศรษฐกิจและวิชาการ ด้านการต่อต้านยาเสพติด การท่องเที่ยว และความร่วมมือระหว่างกระทรวงการต่างประเทศของทั้งสองฝ่าย
ไทยและสาธารณรัฐทาจิกิสถานมีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน โดยสาธารณรัฐทาจิกิสถานเป็นมิตรประเทศของไทยในภูมิภาคเอเชียกลางที่สนับสนุนไทยในเวทีระหว่างประเทศต่าง ๆ อาทิ การสนับสนุนไทยในการเข้าเป็นสมาชิกการประชุมว่าด้วยการปฎิสัมพันธ์และการแสวงหามาตรการเสริมสร้างความไว้เนื้อเชื่อใจในเอเชีย (Conference on Interaction and Confidence Building Measures in Asia - CICA) และการสนับสนุนดร.สุรเกียรติ์ เสถียรไทย รองนายกรัฐมนตรี ในการสมัครเพื่อดำรงตำแหน่งเลขาธิการสหประชาชาติ
สาธารณรัฐทาจิกิสถานเป็นหนึ่งในประเทศอดีตสหภาพโซเวียตที่มีสภาพภูมิประเทศ ส่วนใหญ่ เป็นภูเขา ไม่มีทางออกทะเล มีประชากรประมาณ 7 ล้านคน มีทรัพยากรธรรมชาติที่สำคัญคือ พลังงานน้ำ ฝ้ายและสินแร่ต่างๆ โดยทาจิกิสถานสามารถผลิตพลังงานน้ำได้ 21.08 พันล้านกิโลวัตต์-ชั่วโมงต่อปี (ร้อยละ 4 ของผลการผลิตพลังงานน้ำโลกทั้งหมด) แต่ขณะนี้ยังไม่สามารถผลิตได้เต็มที่ทั้งที่มีศักยภาพที่จะผลิตได้อีก 14 เท่าของระดับปัจจุบัน สำหรับรายได้หลักของประเทศ คือ การส่งออกฝ้าย อลูมิเนียมและไฟฟ้าพลังน้ำ
ทาจิกิสถานเป็นประเทศมุสลิม มีอารยธรรมเก่าแก่มากกว่า 4,000 ปี ตั้งอยู่บนเส้นทางสายไหมเชื่อมการค้าระหว่างเอเชียและยุโรปในอดีตและปรากฎร่องรอยอารยธรรมของศาสนาพุทธในช่วงคริสต์ศตวรรษที่ 6-8 ปัจจุบันกรุงดูชานเบเป็นที่ประดิษฐานพระพุทธรูปปางไสยาสน์ที่ใหญ่ที่สุดในเอเชียกลาง (สมัยใกล้เคียงกันกับพระพุทธรูปในอัฟกานิสถานที่ถูกทำลายไป) ยาว 13 ม. สูง 2.85 ม. อายุราว 1,400 ปี ซึ่งทางการทาจิกิสถานได้ค้นพบเมื่อปีค.ศ. 1959 และได้ทำการบูรณะปฏิสังขรณ์และประดิษฐานไว้ที่พิพิธภัณฑ์ Antiquities of the Republic of Tajikistan ปัจจุบันประธานาธิบดีราคโมนอฟมีอายุ 53 ปี ดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีสาธารณรัฐ ทาจิกิสถานตั้งแต่ปี 2537 การเยือนครั้งนี้เป็นการเยือนประเทศไทยครั้งแรก
กองการสื่อมวลชน กรมสารนิเทศ กระทรวงการต่างประเทศ โทร. 643-5105 โทรสาร. 643-5106-7 E-mail : [email protected]จบ--
-พห-