เดือนเมษายน 2542 มีสาขาธนาคารพาณิชย์ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 524 สำนักงาน (รวมสาขาย่อย 56 สำนักงาน) มีเงินฝากคงค้าง 230,367.4 ล้านบาท และสินเชื่อคงค้าง 247,483.4 ล้านบาท ลดลงจากเดือนก่อนร้อยละ 0.5 เท่ากับ สินเชื่อธนาคารพาณิชย์ที่เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อน ได้แก่ สินเชื่อเพื่อการอุตสาหกรรมและสินเชื่อเพื่อการบริการ อัตราส่วนสินเชื่อต่อเงินฝากทรงตัวต่อเนื่องจากเดือนก่อนอยู่ที่ระดับร้อยละ 107.4
อัตราดอกเบี้ยเงินฝากทรงตัว ขณะที่อัตราดอกเบี้ยเงินกู้ลดลงจากเดือนก่อน โดยเฉพาะอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ลูกค้าทั่วไปลดลงร้อยละ 0.25-1.00 ต่อปี มาอยู่ที่ระดับร้อยละ 12.75-15.25 ต่อปี จากเดอนก่อนอยู่ที่ร้อยละ 12.75-16.50 ต่อปี และดอกเบี้ย MLR ลดลงร้อยละ 0.25-0.75 ต่อปี อยู่ที่ระดับร้อยละ 9.50-11.75 ต่อปี
คนไทยที่ไปทำงานในต่างประเทศโอนเงิน กลับภูมิลำเนาผ่านสาขาธนาคารพาณิชย์ในภาคทั้งสิ้น 1,835.4 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนร้อยละ 11.1 และเมื่อเทียบกับเดือนเดียวกันของปีก่อนเพิ่มขึ้นร้อยละ 0.2
ปริมาณการใช้เช็คผ่านสำนักหักบัญชีในภาคเดือนนี้มีทั้งสิ้น 299,925 ฉบับ เป็นเงิน 25,530.5 ล้านบาท ลดลงจากเดือนก่อนร้อยละ 16.9 และร้อยละ 16.5 ตามลำดับ โดยมีสัดส่วนเช็คคืนเพราะไม่มีเงินต่อเช็คเรียกเก็บคิดเป็นร้อยละ 1.8 และร้อยละ 1.5 ของจำนวนฉบับและจำนวนเงินตามลำดับ
ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตรปล่อยกู้ลดลงจากเดือนก่อน โดยมีสินเชื่อคงค้าง 66,826.7 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนร้อยละ 1.7 ธนาคารอมสินมีเงินฝากคงค้าง 28,362.1 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนร้อยละ 0.4
การจัดเก็บภาษีในภาคลดลงจากเดือนก่อนร้อยละ 29.7 เนื่องจากการจัดเก็บภาษีลดลงทุกประเภท โดยเฉพาะภาษีสรรพากรและภาษีสรรพสามิต
ภาวะเงินเฟ้อวัดจากดัชนีราคาผู้บริโภคทั่วไปของภาคปรับตัวลดลง โดยสูงขึ้นร้อยละ 0.4 เมื่อเทียบกับระยะเดียวกันของปีก่อน แต่ลดลงจากเดือนก่อนร้อยละ 0.1 โดยดัชนีราคาหมวดอาหารและเครื่องดื่มลดลงร้อยละ 0.8 ขณะที่หมวดอื่น ๆ ที่ไม่ใช่อาหารและเครื่องดื่มเพิ่มขึ้นร้อยละ 1.1
การผลิตภาคเกษตร ผลผลิตข้าวนาปรังโดยเฉพาะในเขตชลประทานเริ่มเข้าสู่ระยะเก็บเกี่ยว ขณะที่ผลผลิตมันสำปะหลังและพืชตระกูลถั่วเริ่มมีผลผลิตออกสู่ตลาดมากขึ้น ราคาพืชผลส่วนใหญ่ ยังคงมีแนวโน้มลดลงต่อเนื่องจากเดือนก่อนยกเว้นข้าวโพดที่ราคาเพิ่มขึ้น
การผลิตนอกภาคเกษตร บรรยากาศการลงทุนโดยทั่วไปยังซบเซาเนื่องจากปัญหาสภาพคล่อง สถาบันการเงินเข้มงวดในการปล่อยสินเชื่อ และพื้นที่รับอนุญาตก่อสร้างลดลงจากเดือนก่อนร้อยละ 48.6 ขณะที่ความต้องการแรงงานเพิ่มขึ้นร้อยละ 15.9
มูลค่าการค้าชายแดนไทย-ลาว 1,133.7 ล้านบาท ลดลงจากเดือนก่อนร้อยละ 13.8 เป็นการส่งออก 918.9 ล้านบาท ลดลงจากเดือนก่อนร้อยละ 18.0 ส่วนใหญ่เป็นการลดลงของสินค้าอุปโภคบริโภคและสินค้าทุน มีการนำเข้า 214.7 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนร้อยละ 6.6 ส่วนใหญ่ เป็นการนำเข้าไม้และผลิตภัณฑ์ไม้ โดยไทยยังเกินดุลการค้าลาว 704.2 ล้านบาท
--ธนาคารแห่งประเทศไทย--
-ยก-
อัตราดอกเบี้ยเงินฝากทรงตัว ขณะที่อัตราดอกเบี้ยเงินกู้ลดลงจากเดือนก่อน โดยเฉพาะอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ลูกค้าทั่วไปลดลงร้อยละ 0.25-1.00 ต่อปี มาอยู่ที่ระดับร้อยละ 12.75-15.25 ต่อปี จากเดอนก่อนอยู่ที่ร้อยละ 12.75-16.50 ต่อปี และดอกเบี้ย MLR ลดลงร้อยละ 0.25-0.75 ต่อปี อยู่ที่ระดับร้อยละ 9.50-11.75 ต่อปี
คนไทยที่ไปทำงานในต่างประเทศโอนเงิน กลับภูมิลำเนาผ่านสาขาธนาคารพาณิชย์ในภาคทั้งสิ้น 1,835.4 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนร้อยละ 11.1 และเมื่อเทียบกับเดือนเดียวกันของปีก่อนเพิ่มขึ้นร้อยละ 0.2
ปริมาณการใช้เช็คผ่านสำนักหักบัญชีในภาคเดือนนี้มีทั้งสิ้น 299,925 ฉบับ เป็นเงิน 25,530.5 ล้านบาท ลดลงจากเดือนก่อนร้อยละ 16.9 และร้อยละ 16.5 ตามลำดับ โดยมีสัดส่วนเช็คคืนเพราะไม่มีเงินต่อเช็คเรียกเก็บคิดเป็นร้อยละ 1.8 และร้อยละ 1.5 ของจำนวนฉบับและจำนวนเงินตามลำดับ
ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตรปล่อยกู้ลดลงจากเดือนก่อน โดยมีสินเชื่อคงค้าง 66,826.7 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนร้อยละ 1.7 ธนาคารอมสินมีเงินฝากคงค้าง 28,362.1 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนร้อยละ 0.4
การจัดเก็บภาษีในภาคลดลงจากเดือนก่อนร้อยละ 29.7 เนื่องจากการจัดเก็บภาษีลดลงทุกประเภท โดยเฉพาะภาษีสรรพากรและภาษีสรรพสามิต
ภาวะเงินเฟ้อวัดจากดัชนีราคาผู้บริโภคทั่วไปของภาคปรับตัวลดลง โดยสูงขึ้นร้อยละ 0.4 เมื่อเทียบกับระยะเดียวกันของปีก่อน แต่ลดลงจากเดือนก่อนร้อยละ 0.1 โดยดัชนีราคาหมวดอาหารและเครื่องดื่มลดลงร้อยละ 0.8 ขณะที่หมวดอื่น ๆ ที่ไม่ใช่อาหารและเครื่องดื่มเพิ่มขึ้นร้อยละ 1.1
การผลิตภาคเกษตร ผลผลิตข้าวนาปรังโดยเฉพาะในเขตชลประทานเริ่มเข้าสู่ระยะเก็บเกี่ยว ขณะที่ผลผลิตมันสำปะหลังและพืชตระกูลถั่วเริ่มมีผลผลิตออกสู่ตลาดมากขึ้น ราคาพืชผลส่วนใหญ่ ยังคงมีแนวโน้มลดลงต่อเนื่องจากเดือนก่อนยกเว้นข้าวโพดที่ราคาเพิ่มขึ้น
การผลิตนอกภาคเกษตร บรรยากาศการลงทุนโดยทั่วไปยังซบเซาเนื่องจากปัญหาสภาพคล่อง สถาบันการเงินเข้มงวดในการปล่อยสินเชื่อ และพื้นที่รับอนุญาตก่อสร้างลดลงจากเดือนก่อนร้อยละ 48.6 ขณะที่ความต้องการแรงงานเพิ่มขึ้นร้อยละ 15.9
มูลค่าการค้าชายแดนไทย-ลาว 1,133.7 ล้านบาท ลดลงจากเดือนก่อนร้อยละ 13.8 เป็นการส่งออก 918.9 ล้านบาท ลดลงจากเดือนก่อนร้อยละ 18.0 ส่วนใหญ่เป็นการลดลงของสินค้าอุปโภคบริโภคและสินค้าทุน มีการนำเข้า 214.7 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนร้อยละ 6.6 ส่วนใหญ่ เป็นการนำเข้าไม้และผลิตภัณฑ์ไม้ โดยไทยยังเกินดุลการค้าลาว 704.2 ล้านบาท
--ธนาคารแห่งประเทศไทย--
-ยก-