กรุงเทพ--20 มิ.ย.--กระทรวงการต่างประเทศ
ดร. ยายาร์ จามเม่ ประธานาธิบดีแห่งสาธารณรัฐแกมเบียมีกำหนดเดินทางเยือนไทยเพื่อเจรจาทำงาน และในฐานะแขกของรัฐบาล (Working Visit) ระหว่างวันที่ 23 — 27 มิถุนายน 2548 โดยมีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการสื่อสาร สารสนเทศและเทคโนโลยี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษา และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรร่วมเดินทางมากับคณะด้วย
วัตถุประสงค์การเยือนครั้งนี้คือการขยายความร่วมมือทางเศรษฐกิจและวิชาการกับไทยเนื่องจากสาธารณรัฐแกมเบียเห็นไทยเป็นแบบอย่างในการพัฒนาประเทศโดยเฉพาะการพัฒนาเศรษฐกิจและอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว นอกจากนี้ ประธานาธิบดีแห่งสาธารณรัฐแกมเบียยังสนใจความก้าวหน้าด้านการเกษตรครบวงจรของไทยอีกด้วย
การเดินทางเยือนไทยครั้งนี้ เป็นส่วนหนึ่งของการเยือนประเทศในภูมิภาคเอเชียเพื่อกระชับความสัมพันธ์ระหว่างสาธารณรัฐแกมเบียกับประเทศในเอเชีย ทั้งนี้ ประธานาธิบดีแห่งสาธารณรัฐแกมเบียมีกำหนดหารือข้อราชการกับนายกรัฐมนตรีในวันที่ 24 มิถุนายน 2548 เวลา 11.30 น. และนายกรัฐมนตรีจะเป็นเจ้าภาพเลี้ยงอาหารกลางวันเป็นเกียรติแก่ประธานาธิบดีแห่งสาธารณรัฐแกมเบียและคณะในวันเดียวกัน
ไทยและสาธารณรัฐแกมเบียมีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกันโดยสาธารณรัฐแกมเบียเป็นมิตรประเทศของไทยในแอฟริกาที่สนับสนุนไทยในเวทีระหว่างประเทศต่าง ๆ มาโดยตลอด อาทิ การสนับสนุนไทยและอาเซียนในปัญหากัมพูชา การสนับสนุน ดร.ศุภชัย พานิชภักดิ์ ในตำแหน่งผู้อำนวยการใหญ่องค์การการค้าโลก และเป็นประเทศแรก ๆ ที่สนับสนุน ดร. สุรเกียรติ์ เสถียรไทย รองนายกรัฐมนตรีในการสมัครชิงตำแหน่งเลขาธิการสหประชาชาติ
สาธารณรัฐแกมเบียเป็นประเทศที่เล็กที่สุดในพื้นทวีปแอฟริกา มีภูมิประเทศที่พิเศษ เป็นแนวยาวตามแม่น้ำแกมเบีย ทิศตะวันตกติดมหาสมุทรแปซิฟิก พื้นที่ที่เหลือล้อมรอบไปด้วยประเทศเซเนกัล สาธารณรัฐแกมเบียมีประชากรเพียง 1.5 ล้านคน มีทรัพยากรธรรมชาติไม่มากนัก ทรัพยากรที่สำคัญคือ ทรัพยากรประมง รายได้หลักของประเทศ คือ การส่งออกผลผลิตทางการเกษตรและการท่องเที่ยว สาธารณรัฐแกมเบียเป็นแหล่งท่องเที่ยวซึ่งเป็นที่นิยมของชาวยุโรป (ประมาณ 1 แสนคนต่อปี) เพราะมีรีสอร์ทริมมหาสมุทรแอตแลนติกที่มีความงดงามและนักท่องเที่ยวนิยมมาชมพันธุ์นกซึ่งมีมากกว่า 400 ชนิด
อนึ่ง ดร. ยายาร์ จามเม่ เป็นประธานาธิบดีคนที่ 2 ของสาธารณรัฐแกมเบีย ซึ่งต้องการพัฒนาประเทศให้มีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว โดยมุ่งเน้นการส่งเสริมการพัฒนาสังคมควบคู่กับการพัฒนาเศรษฐกิจ และได้ประกาศวิสัยทัศน์ 2020 เพื่อพัฒนาประเทศให้เป็นประเทศที่มี รายได้ระดับกลาง และเป็นสังคม information—rich ภายในปี 2563 นอกจากนี้ ยังเป็นผู้ริเริ่มใช้ระบบ e-government เมื่อเดือน ก.พ. 2548 และเคยเยือนไทยเป็นการส่วนตัวระหว่างวันที่ 12 — 15 ตุลาคม 2546
กองการสื่อมวลชน กรมสารนิเทศ กระทรวงการต่างประเทศ โทร. 643-5105 โทรสาร. 643-5106-7 E-mail : [email protected]จบ--
-พห-
ดร. ยายาร์ จามเม่ ประธานาธิบดีแห่งสาธารณรัฐแกมเบียมีกำหนดเดินทางเยือนไทยเพื่อเจรจาทำงาน และในฐานะแขกของรัฐบาล (Working Visit) ระหว่างวันที่ 23 — 27 มิถุนายน 2548 โดยมีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการสื่อสาร สารสนเทศและเทคโนโลยี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษา และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรร่วมเดินทางมากับคณะด้วย
วัตถุประสงค์การเยือนครั้งนี้คือการขยายความร่วมมือทางเศรษฐกิจและวิชาการกับไทยเนื่องจากสาธารณรัฐแกมเบียเห็นไทยเป็นแบบอย่างในการพัฒนาประเทศโดยเฉพาะการพัฒนาเศรษฐกิจและอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว นอกจากนี้ ประธานาธิบดีแห่งสาธารณรัฐแกมเบียยังสนใจความก้าวหน้าด้านการเกษตรครบวงจรของไทยอีกด้วย
การเดินทางเยือนไทยครั้งนี้ เป็นส่วนหนึ่งของการเยือนประเทศในภูมิภาคเอเชียเพื่อกระชับความสัมพันธ์ระหว่างสาธารณรัฐแกมเบียกับประเทศในเอเชีย ทั้งนี้ ประธานาธิบดีแห่งสาธารณรัฐแกมเบียมีกำหนดหารือข้อราชการกับนายกรัฐมนตรีในวันที่ 24 มิถุนายน 2548 เวลา 11.30 น. และนายกรัฐมนตรีจะเป็นเจ้าภาพเลี้ยงอาหารกลางวันเป็นเกียรติแก่ประธานาธิบดีแห่งสาธารณรัฐแกมเบียและคณะในวันเดียวกัน
ไทยและสาธารณรัฐแกมเบียมีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกันโดยสาธารณรัฐแกมเบียเป็นมิตรประเทศของไทยในแอฟริกาที่สนับสนุนไทยในเวทีระหว่างประเทศต่าง ๆ มาโดยตลอด อาทิ การสนับสนุนไทยและอาเซียนในปัญหากัมพูชา การสนับสนุน ดร.ศุภชัย พานิชภักดิ์ ในตำแหน่งผู้อำนวยการใหญ่องค์การการค้าโลก และเป็นประเทศแรก ๆ ที่สนับสนุน ดร. สุรเกียรติ์ เสถียรไทย รองนายกรัฐมนตรีในการสมัครชิงตำแหน่งเลขาธิการสหประชาชาติ
สาธารณรัฐแกมเบียเป็นประเทศที่เล็กที่สุดในพื้นทวีปแอฟริกา มีภูมิประเทศที่พิเศษ เป็นแนวยาวตามแม่น้ำแกมเบีย ทิศตะวันตกติดมหาสมุทรแปซิฟิก พื้นที่ที่เหลือล้อมรอบไปด้วยประเทศเซเนกัล สาธารณรัฐแกมเบียมีประชากรเพียง 1.5 ล้านคน มีทรัพยากรธรรมชาติไม่มากนัก ทรัพยากรที่สำคัญคือ ทรัพยากรประมง รายได้หลักของประเทศ คือ การส่งออกผลผลิตทางการเกษตรและการท่องเที่ยว สาธารณรัฐแกมเบียเป็นแหล่งท่องเที่ยวซึ่งเป็นที่นิยมของชาวยุโรป (ประมาณ 1 แสนคนต่อปี) เพราะมีรีสอร์ทริมมหาสมุทรแอตแลนติกที่มีความงดงามและนักท่องเที่ยวนิยมมาชมพันธุ์นกซึ่งมีมากกว่า 400 ชนิด
อนึ่ง ดร. ยายาร์ จามเม่ เป็นประธานาธิบดีคนที่ 2 ของสาธารณรัฐแกมเบีย ซึ่งต้องการพัฒนาประเทศให้มีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว โดยมุ่งเน้นการส่งเสริมการพัฒนาสังคมควบคู่กับการพัฒนาเศรษฐกิจ และได้ประกาศวิสัยทัศน์ 2020 เพื่อพัฒนาประเทศให้เป็นประเทศที่มี รายได้ระดับกลาง และเป็นสังคม information—rich ภายในปี 2563 นอกจากนี้ ยังเป็นผู้ริเริ่มใช้ระบบ e-government เมื่อเดือน ก.พ. 2548 และเคยเยือนไทยเป็นการส่วนตัวระหว่างวันที่ 12 — 15 ตุลาคม 2546
กองการสื่อมวลชน กรมสารนิเทศ กระทรวงการต่างประเทศ โทร. 643-5105 โทรสาร. 643-5106-7 E-mail : [email protected]จบ--
-พห-