สวนดุสิตโพลล์: "เสียงสะท้อน” กรณี การทำแท้ง

ข่าวผลสำรวจ Monday November 22, 2010 07:19 —สวนดุสิตโพล

** จากข่าวพบศพทารกสร้างความตกตะลึงให้กับประชาชน ถึง 62.18% แนะต้องให้ความรู้เรื่องเพศศึกษา ในชั้นเรียนให้กับเด็ก**

จากข่าวพบศพเด็กทารกจำนวนมาก ภายในวัดไผ่เงิน ซึ่งขณะนี้มียอดสูงถึง 2,000 ศพแล้ว ได้สร้างความตกตะลึงและกลายเป็นประเด็น ร้อนที่สังคมไทยต่างให้ความสนใจอยู่ในขณะนี้ โดยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจ เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานและแพทย์นิติเวชเข้ามาทำการตรวจสอบ และสืบ สวนสอบสวนผู้เกี่ยวข้องต่างๆอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะสัปเหร่อในวัดยอมสารภาพว่ารับเงินจากคลีนิคทำแท้ง 5 แห่งให้นำศพมาทิ้งไว้ ทำให้คนใน สังคมไทยต้องกลับมาคิดทบทวนกันใหม่ว่า สังคมบ้านเราในขณะนี้เปลี่ยนแปลงไปมากน้อยเพียงใด และจะมีแนวทางป้องกันแก้ไขได้หรือไม่ “สวนดุสิต โพล” มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนดุสิต จึงได้สอบถามประชาชนในกรุงเทพฯ ปริมณฑล จำนวนทั้งสิ้น 1,458 คน ระหว่างวันที่ 18-21 พฤศจิกายน 2553 สรุปผลได้ดังนี้

1. ความคิดเห็นของประชาชน กรณี พบศพเด็กทารกจำนวนมากที่วัดไผ่เงิน
อันดับ 1 สร้างความตกตะลึงและตกใจว่าทำไมถึงได้มีการทำแท้งเป็นจำนวนมากมายขนาดนี้ 62.18% อันดับ 2 เป็นเรื่องที่ผิดศีลธรรม เป็นการทำบาป และผิดกฎหมาย 15.24% อันดับ 3 เป็นข่าวที่สังคมไทยต่างให้ความสนใจและมีการติดตามข่าวทั้งจากสื่อไทยและสื่อต่างประเทศ 9.38% อันดับ 4 อยากให้เจ้าหน้าที่ตำรวจและเจ้าหน้าที่อื่นๆที่เกี่ยวข้องเร่งสืบสวน สอบสวนเพื่อหาข้อเท็จจริงโดยเร็ว 7.11% อันดับ 5 ควรนำเรื่องนี้มาเป็นอุทาหรณ์สอนใจและหาแนวทางแก้ไขโดยเร่งด่วน 6.09% 2. ประชาชนคิดว่าการทำแท้งเป็นสิทธิส่วนบุคคล /มาจากความจำเป็นของแต่ละคนหรือไม่? อันดับ 1 เป็น 47.17%

เพราะ ถือว่าเป็นการตัดสินใจของผู้ที่ให้กำเนิดเอง สิ่งที่เกิดขึ้นอาจมาจากความไม่พร้อมหรือความจำเป็น

ของแต่ละคน ฯลฯ

อันดับ 2 ไม่แน่ใจ 30.19%

เพราะ คิดว่าคนที่มาทำแท้งน่าจะมีเหตุผลหรือความจำเป็นที่แตกต่างกันออกไป ในใจลึกๆแล้วเชื่อว่าคนเป็นแม่ย่อมรักลูก ฯลฯ

อันดับ 3 ไม่เป็น 22.64%

เพราะ ตามกฎหมายได้ระบุไว้แล้วว่าการทำแท้งเป็นเรื่องผิดกฎหมายและผิดศีลธรรม ฯลฯ

3. ถ้าจะมีการแก้ไขกฎหมายเพื่อให้ตรงกับเรื่องนี้ออกมา ประชาชนเห็นด้วยหรือไม่?
อันดับ 1 เห็นด้วย 65.62%

เพราะ สังคมไทยในปัจจุบันเปลี่ยนแปลงไปมาก การมีเพศสัมพันธ์โดยขาดการป้องกันเกิดขึ้นได้ง่าย บางคนคิดว่าการทำแท้ง

เป็นเรื่องปกติ หรือเป็นทางออกที่ดีที่สุด ฯลฯ

อันดับ 2 ไม่แน่ใจ 21.72%

เพราะ การแก้ไขกฎหมายอย่างเดียวคงไม่ได้ผล ควรให้ความรู้หรือให้การศึกษาในเรื่องนี้ควบคู่ไปด้วยจะดีกว่า ฯลฯ

อันดับ 3 ไม่เห็นด้วย 12.66%

เพราะ ขึ้นอยู่กับความคิดและวิจารณญาณของแต่ละคน กฎหมายหรือข้อห้ามต่างๆ เกี่ยวกับการทำลายชีวิต ทำผิดศีลธรรม

ก็มีระบุไว้อยู่แล้ว ฯลฯ

4. กรณีเมืองไทยเป็นเมืองพุทธ ประชาชนคิดว่าผลกระทบในภาพรวมที่สังคมได้รับ คือ
อันดับ 1 สภาพสังคมที่แย่ลงอย่างมาก ทำให้เกิดพฤติกรรม การลอกเลียนแบบอย่างผิดๆ 34.38% อันดับ 2 คนในสังคมไทยปัจจุบันมีสภาพจิตใจที่ตกต่ำ แย่ลง /ขาดคุณธรรม จริยธรรม 32.81% อันดับ 3 ด้านมนุษยธรรม การทำลายชีวิตของมนุษย์ด้วยกันเอง 19.12% อันดับ 4 การขาดจรรยาบรรณทางด้านวิชาชีพ /เห็นแก่เงินทอง เห็นแก่ประโยชน์ส่วนตน 13.69% 5. แนวทางป้องกัน /แก้ไขในเรื่องนี้ คือ อันดับ 1 การให้ความรู้เกี่ยวกับเรื่องเพศศึกษา การป้องกัน การคุมกำเนิด ในวิชาเรียนของเด็กให้เหมาะสม- ตามระดับชั้นเรียน 36.09% อันดับ 2 พ่อแม่/คนในครอบครัวต้องให้ความรัก ความอบอุ่น /การดูแลเอาใจใส่ลูกหลานอย่างใกล้ชิด 29.14% อันดับ 3 การตรวจสอบ ปราบปรามคลีนิคที่ทำผิดกฎหมายอย่างเข้มงวด 15.58% อันดับ 4 หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเช่น กระทรวงศึกษาธิการ กระทรวงสาธารณสุข กระทรวงการพัฒนาสังคม

และความมั่นคงของมนุษย์ ฯ ควรร่วมมือกันหาทางป้องกันหรือประชาสัมพันธ์ข้อมูลข่าวสาร

ที่ให้ความรู้ในเรื่องการตั้งครรภ์ การทำแท้ง หรือเรื่องสิทธิมนุษยชนต่างๆ ฯลฯ 14.37% อันดับ 5 การใช้สื่อต่างๆที่มีอยู่ให้เกิดประโยชน์ ไม่ว่าจะเป็นการนำเสนอข่าวอย่างเหมาะสม และการให้ความรู้ด้วยการสร้างเป็นละครหรือเรื่องสั้น 4.82% --สวนดุสิตโพลล์-- -พห-

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ