**กรณี “7 คนไทย”ถูกเขมรจับกุม ประชาชน 82.52% กลัวว่าจะเป็นน้ำผึ้งหยดเดียว**
จากกรณี 7 คนไทยถูกทหารเขมรจับกุมตัว ในข้อหาเข้าเมืองโดยผิดกฎหมายและรุกล้ำเข้าไปในเขตของกัมพูชา ซึ่งขณะนี้ทางรัฐบาล โดย นายกฯอภิสิทธิ์ ก็ได้มีการสั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องติดตามข้อเท็จจริง และหารือถึงแนวทางการเจรจาเพื่อให้ปล่อยตัวคนไทยโดยเร็วที่สุด โดยย้ำถึงการเคารพการตัดสินของกระบวนการยุติธรรมของกัมพูชา และอยากให้การพิจารณาคดีเสร็จสิ้นโดยเร็ว “สวนดุสิตโพล” มหาวิทยาลัย ราชภัฏสวนดุสิต จึงได้สอบถามความคิดเห็นจากประชาชนในกรุงเทพฯ ปริมณฑล จำนวนทั้งสิ้น 1,097 คน ระหว่างวันที่ 30 ธันวาคม 2553 — 1 มกราคม 2554 สรุปผลได้ดังนี้
เพราะ เป็นการกล่าวหาที่รุนแรง เกินกว่าเหตุ ,ดูจากข้อเท็จจริงคิดว่าทางกลุ่มคนไทยไม่น่าจะมีเจตนาที่มุ่งร้ายแต่อย่างใด ,
เป็นการหาเรื่องกันมากกว่า ฯลฯ
อันดับ 2 ไม่แน่ใจ 37.16%เพราะ ควรรอฟังการพิจารณาตัดสินจากกัมพูชาก่อน หรือฟังเหตุผลจากการให้ปากคำของกลุ่มคนไทย ฯลฯ
อันดับ 3 เหมาะสม 10.47%เพราะ จากข่าวที่นำเสนอรวมทั้งคลิปวีดิโอพบว่ามีการรุกล้ำเข้าไปในดินแดนของกัมพูชาจริง ฯลฯ
เพราะ 1 ในผู้ถูกจับกุมเป็น ส.ส.ของไทย จากท่าทีของนายกฯ ที่สั่งการไปยังกระทรวงการต่างประเทศให้ดูแล
เรื่องนี้เป็นพิเศษ ฯลฯ
อันดับ 2 ไม่แน่ใจ 7.11%เพราะ ควรรอฟังการพิจารณาตามกระบวนการยุติธรรมของกัมพูชาก่อนว่าจะออกมาอย่างไร ,ดูจากหลักฐานข้อเท็จจริง
ที่จะนำมาแถลงต่อไป ฯลฯ
อันดับ 3 ไม่เป็นเรื่องการเมืองระหว่างประเทศ 3.86%เพราะ น่าจะมาจากเหตุผลส่วนตัว คนส่วนใหญ่รับรู้ถึงพฤติกรรม นิสัยของฮุนเซนอยู่แล้วว่าเป็นอย่างไร ฯลฯ
เพราะ จากความสัมพันธ์ของทั้ง 2 ประเทศที่ผ่านมายังไม่ดีเท่าที่ควร ,ยังมีปมขัดแย้งหลายเรื่องที่ยังเป็นข้อกังขาอยู่ ฯลฯ
อันดับ 2 ไม่แน่ใจ 11.56%เพราะ อาจมีบุคคลบางกลุ่ม ผู้ไม่หวังดีหยิบยกเรื่องนี้มาเป็นประเด็นทางการเมืองระหว่าง 2 ประเทศ ,
ทำให้เรื่องบานปลายออกไป ฯลฯ
อันดับ 3 ไม่เป็น 5.92%เพราะ คิดว่าเรื่องนี้น่าจะเจรจา ตกลงกันได้ เชื่อว่ากลุ่มคนไทยที่ถูกจับกุมไป ไม่ได้มีเจตนามุ่งร้ายแต่อย่างใด ฯลฯ