จากเหตุการณ์ที่จะมีการตัดสินของศาลโลก กรณี ปราสาทเขาพระวิหารกระตุ้นให้คนไทยรักชาติมากขึ้น ถึง 80% !!! กรณีศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ หรือศาลโลก นัดฟังคำพิพากษาคดีที่ประเทศกัมพูชายื่นขอตีความคำตัดสินคดีปราสาทเขาพระวิหาร ในวันที่ 11 พ.ย.นี้ ซึ่งมีหลายฝ่ายเป็นห่วงว่าอาจเกิดเหตุการณ์ความไม่สงบเรียบร้อยตามแนวชายแดนระหว่างจะมีคำตัดสิน ทั้งนี้ทางนายกฯยิ่งลักษณ์ก็ได้ออกมาพูดและขอความร่วมมือจากทุกฝ่ายในการหลีกเลี่ยงการพูดจาไม่ให้กระทบกระทั่งซึ่งกันและกัน เพื่อสะท้อนความคิดเห็นของประชาชน “สวนดุสิตโพล” มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนดุสิต จึงได้สอบถามความคิดเห็นของประชาชนทั่วประเทศ จำนวนทั้งสิ้น 1,477 คน ระหว่างวันที่ 15-19 ตุลาคม 2556 สรุปผลดังนี้
1. “การเตรียมตัว เตรียมใจ” ของคนไทย กรณีที่ศาลโลกจะตัดสินคดีปราสาทเขาพระวิหาร ในวันที่ 11 พ.ย นี้
อันดับ 1 ไม่ว่าผลจะออกมาอย่างไร ควรยอมรับและเคารพในการตัดสินของศาลโลก 46.23%
อันดับ 2 หากผลการตัดสินไม่เป็นไปตามที่คาดหวังหรือไม่เป็นผลดีต่อไทยก็ต้องทำใจไว้บ้าง 23.58%
อันดับ 3 จะเป็นแรงใจ เป็นกำลังใจและภาวนาให้ประเทศไทยชนะคดีนี้ 16.98%
อันดับ 4 คอยติดตามรับฟังข่าวสาร การวิเคราะห์วิจารณ์ในเรื่องนี้โดยตลอด 13.21%
2. ประชาชนคิดว่าผลการตัดสินคดีปราสาทเขาพระวิหารในครั้งนี้จะออกมาเป็นอย่างไร?
อันดับ 1 น่าจะเป็นผลดีกับทั้งสองฝ่าย 66.50%
เพราะ ก่อนที่ศาลโลกจะตัดสินคงจะชั่งน้ำหนัก ผลดี ผลเสียมาก่อนแล้ว เพื่อไม่ให้เกิดกรณีพิพาทต่อกัน ฯลฯ
อันดับ 2 น่าจะเป็นผลดีกับฝ่ายไทย 17.74%
เพราะ เชื่อมั่นในการดำเนินการของรัฐบาลและทีมทนายความของไทย ข้อมูล เอกสารหลักฐานต่างๆ
โดยเฉพาะแผนที่ประกอบการชี้แจงที่ไทยเคยส่งไปน่าจะมีน้ำหนักพอ ฯลฯ
อันดับ 3 น่าจะเป็นผลดีกับฝ่ายกัมพูชา 15.76%
เพราะ ทางกัมพูชาน่าจะหาทางออกหรือมีแผนรับมือไว้แล้ว และประเทศกัมพูชาเองเป็นผู้ยื่นขอตีความ
คำตัดสินคดีปราสาทพระวิหาร ในวันที่ 11 พ.ย.นี้ ฯลฯ
3. สิ่งที่ประชาชนวิตกกังวล กรณีที่ศาลโลกจะนัดฟังคำตัดสินคดีปราสาทเขาพระวิหาร ในวันที่ 11 พ.ย นี้
อันดับ 1 ความไม่ปลอดภัยของประชาชนในพื้นที่ เพราะอาจเกิดเหตุการณ์หรือการปะทะกันที่รุนแรง 33.90%
อันดับ 2 กลัวว่าประเทศไทยจะเสียเปรียบ ไม่ได้รับความเป็นธรรมและเสียพื้นที่ให้กับกัมพูชา 29.66%
อันดับ 3 ส่งผลกระทบต่อความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ โดยเฉพาะด้านธุรกิจ การค้าชายแดน การลงทุน 20.34%
อันดับ 4 กลายเป็นประเด็นทางการเมือง โจมตีกันไปมา ประชาชนออกมาเคลื่อนไหว 16.10%
4. ความมั่นใจของประชาชน ต่อ “ศาลโลก”
อันดับ 1 ค่อนข้างมั่นใจ 49.51%
เพราะ การตัดสินของศาลโลกจะต้องผ่านการพิจารณา ตรวจสอบเอกสารหลักฐานอย่างละเอียด ฯลฯ
อันดับ 2 ไม่ค่อยมั่นใจ 24.76%
เพราะ กระแสข่าวจากสื่อต่างๆและการวิพากษ์วิจารณ์ของผู้รู้ทั้งหลายทำให้ไม่มั่นใจเท่าที่ควร ฯลฯ
อันดับ 3 มั่นใจมาก 15.54%
เพราะ เชื่อมั่นในความยุติธรรม การทำหน้าที่ของศาลโลกจะต้องอยู่บนบรรทัดฐานของความถูกต้อง ฯลฯ
อันดับ 4 ไม่มั่นใจ 10.19%
เพราะ กลัวว่าประเทศไทยจะเสียเปรียบ ศาลโลกถูกแทรกแซง เป็นเรื่องที่ส่งผลกระทบกับหลายฝ่าย ฯลฯ
5. การที่ไทยมีกรณีพิพาทกับกัมพูชา ในครั้งนี้ ทำให้ประชาชนรักชาติไทยมากขึ้นหรือไม่?
อันดับ 1 รักชาติไทยมากขึ้น 80.30%
เพราะ รู้สึกสงสารและเห็นใจประเทศชาติ ไม่อยากเสียพื้นที่ของไทยให้กับกัมพูชา ฯลฯ
อันดับ 2 รักชาติไทยเท่าเดิม 19.70%
เพราะ ประเทศไทยคือบ้านเกิดเมืองนอน คนไทยทุกคนย่อมรักชาติรักแผ่นดินของตัวเอง ฯลฯ
--สวนดุสิตโพลล์--